หม้อแรกนึ่งวัววัวโถวที่ทำจากแป้งข้าวโพดเพิ่งเสร็จ ซ่งฝูหลิงกับท่านย่าหม่าก็หายตัวไปแล้ว
ซ่งอิ๋นเฟิ่งรับหน้าที่มานึ่งอาหารแห้งต่อ
ซ่งอิ๋นเฟิ่งทำงานไปก็รู้สึกสับสน
โอ้ ต้องปลุกน้องสามกับน้องสะใภ้ให้ตื่นไหมเนี่ย นี่? สองคนนี้นอนใกล้ชิดกันมาก แม้ว่าจะมีหมี่โซ่วนอนกั้นกลางก็ยังสามารถนอนเอาหัวติดกันได้
ตอนนี้ทุกคนตื่นมาเห็นแล้ว ดูท่าจะไม่ค่อยดี
ทำให้ลูกสาวของนาง อีกทั้งต้ายาเอ้อร์ยาเขินอายจนแก้มแดง ไม่กล้าเดินผ่านน้องสามกับน้องสะใภ้ ตอนช่วยนางเก็บสัมภาระก็ต้องหันหลังให้พวกเขา
ในเวลาเดียวกัน ท่านย่าหม่าก็กำลังลังเลใจอยู่ นางรู้สึกเคอะเขิน
ครั้งแรกน่ะสิ อายุมากขนาดนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางแอบกินอาหาร
โดยเฉพาะยามที่คิดถึงหลานชายสามคนที่ยังไม่ได้กินอะไร นางซึ่งเป็นย่าแท้ๆ กลับแอบกินไข่เค็มที่ถูกแบ่งครึ่งในมือ จะไม่ให้นางตะขิดตะขวงใจได้อย่างไร
ซ่งฝูหลิง มือหนึ่งถือวัววัวโถวที่ทำจากแป้งข้าวโพด อีกมือหนึ่งถือไข่เค็มครึ่งฟอง
นางอ้าปากกินวัววัวโถวคำใหญ่ และกินไข่เค็มตามไปนิดหน่อย
นางกินอย่างรวดเร็วมากด้วยความหิวโหยเพราะเมื่อวานไม่ได้กินข้าว
ยิ่งยากจนและไม่มีอะไรจะกิน ในท้องก็ยิ่งรู้สึกหิวโหยมาก อยากกินอาหารมื้อใหญ่ๆ
ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ซ่งฝูหลิงก็เริ่มคุ้นเคยกับแป้งข้าวโพดที่สากคอ แต่นางก็ยังสำลักจนถึงกับไอออกมาอยู่ดี
“กินช้าหน่อยก็ได้ ไม่ต้องรีบ” ท่านย่าหม่ารีบมาตบหลังให้
ซ่งฝูหลิงเงยหน้ามอง “ท่านย่า ทำไมท่านถึงยังไม่กิน?”
“ข้า?” หญิงชราที่พูดจาคล่องแคล่ว คราวนี้กลับพูดจาติดขัด “นั่น เออ เจ้ากิน เจ้า? เจ้าอาจกินไม่พอ เอานี่ อีกครึ่งหนึ่ง…”
“ท่านย่า พวกเราตกลงกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ ถ้ามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน คนในครอบครัวของเราก็ไม่มีใครรู้ว่ามีไข่ฟองนี้ ท่านยายหวังก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกพ่อของข้า มีท่านกับข้าที่รู้ เมื่อเราเจอแล้ว เราก็แบ่งกันคนละครึ่ง ท่านต้องกินด้วยสิ ถ้าขืนทำแบบนี้ข้าจะล้วงคอให้อ้วกออกมา?”
ท่านย่าหม่ารู้ดีว่าหลานสาวแกล้งขู่นาง นางจะล้วงคอจริงๆ ได้อย่างไร ดูสิ กินอย่างเอร็ดอร่อยแบบนั้น หลานสาวคงไม่กล้าอ้วกออกมาหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...