อ้อมกอดที่อบอุ่นเกาะเกี่ยวเรือนร่างบางตลอดทั้งคืนไม่ยอมขยับออกห่างจากตัวเธอเลย ไม่ว่าจะเป็นพลิกตะแคงเปลี่ยนท่านอนเขาก็ขอโอบกอดคนรักเอาไว้เช่นนี้ หากเวลาสะดุ้งตัวตื่นมาแล้วหญิงสาวออกห่างจากเขาหัวใจคนหนุ่มก็แทบจะดิ่งวูบว่างเปล่าราวกับว่าชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ หญิงสาวตัวบางอรชรขยับเปลี่ยนท่าก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากคงเพราะความเหนื่อยล้าอ่อนจากการโหมกายปรนเปรอความรักให้ชายหนุ่มเกือบทุกวัน ดวงตากลมกระพริบปรับแสงถี่ๆ แขนเรียวยืดบิดคลายความเมื่อยล้า
“ตื่นแล้วเหรอครับคนดี จุ๊บ” สัมผัสที่คนงัวเงียได้รับช่างอบอุ่นเสียจริง หญิงสาวยิ้มให้เขาอย่างสดชื่น
“ค่ะ เมื่อยไปทั้งตัวเลย”
“ผมนวดให้เอาไหม” พูดยังไม่ทันขาดคำมือหนาก็เลื่อนบีบคลึงทรวงอกอวบจนร่างบางสะดุ้ง หญิงสาวทุบคนน่ามั่นไส้สุดแรง
“นี่แน่ะ เกเรแต่เช้าเลยนะคะ...แบบนี้พิตต้าจะไม่รักแล้วนะ”
“ใครเกเรผมหวังดีต่างหาก หรือว่าผมนวดผิดจุด” สายตาเขากรุ้มกริ่มมองเรือนกายที่ขาวผุดผ่องต่ำลงกว่าหน้าท้องทันที
“ว๊าย อีตาบ้า ตรงนั้นไม่ต้องนวดแล้วค่ะ ยิ่งนวดพิตต้าก็ยิ่งเมื่อย”
“ผมเป็นห่วงนะนี่ แล้วจะให้ทำอะไรล่ะครับบัญชาการมาเลย”
“แน่นะคะ”
“แน่ที่สุด จุ๊บ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหญิงสาวทำให้คิ้วหนาดกดำขมวดผูกกันเป็นปม หลังจากอาบน้ำแต่งตัวแล้วพิยะตาก็ให้คนรักขับรถพาเธอมาที่บาร์กรีนเนอร์รี่ เวลานี้ยังเช้าอยู่ภายในบาร์เงียบเชียบ ข้าวของยังคงว่างเกลื่อนที่โต๊ะและพื้นทางเดิน หญิงสาวเดินนำเข้าไปจนถึงหน้าเวทีเล็กๆ ฟลอที่สาวทั้งหลายใช้โยกย้ายร่างกายอวดทรวงทรงสร้างความบันเทิงใจให้กับหนุ่มๆ ทุกค่ำคืน
“เข้ามาสิคะ” หญิงสาวหันไปพูดเชื้อเชิญคนกล้าๆ กลัวๆ หวาดระแวงความคิดของเธอ
“คุณให้ผมพามาที่นี่ทำไมแต่เช้า ดูสิข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมดเดี๋ยวก็เดินสะดุดเข้าหรอก”
“มีคุณคอยตามดูแลแบบนี้ พิตต้าไม่กลัวหรอกค่ะ”
“ยังไม่ได้ตอบผมเลยนะว่ามาทำไม”
“เดี๋ยวก็รู้” พิยะตาเดินอ้อมไปด้านข้างของเวที เครื่องเสียงชุดใหญ่ราคาแพงกว่าต้นทุนริบที่ชายหนุ่มจัดหามาจากต่างประเทศกำลังถูกมือบางบังคับควบคุมให้ทำงานก่อนเวลาที่มันเคยทำ เสียงเพลงจังหวะเร้าใจดังพอกระตุ้นความบันเทิงให้คนที่มีดนตรีในหัวใจได้ขยับจังหวะตาม
“เพลงนี้เป็นไง ชอบไหม” จังหวะสนุกสนานของเพลงทำให้คนฟังเริ่มขยับปลายเท้าให้เข้าจังหวะ
“อืมก็มันดีนะ...จังหวะใช้ได้”
“แน่นอนคืนนี้พิตต้าจะใช้เพลงมันๆ เรียกแขกเข้าบาร์”
“ว้าวมีโชว์ทีเด็ดด้วยหรือเปล่า...แต่ผมไม่อนุญาตให้คุณขึ้นไปเต้นให้คนอื่นดูนะ” สายตาที่มั่นใจในความคิดของตัวเองยิ่งทำให้ชายหนุ่มหวาดระแวงกลัวว่าเธอจะคิดทำอะไรที่เขารับไม่ได้
“ไม่หรอกค่ะ พิตต้าท้องอยู่นะจะทำแบบนั้นได้ยังไง”
“ครับต้องรู้จักดูแลตัวเองสิครับ”
“เอ้ามองอะไรค่ะที่รัก” หญิงสาวเรียกเขาเสียงหวานจนเขาแอบกลืนน้ำลาย สายตาแม่เสือสาววันนี้แปลกๆ ชอบกลต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ ชายหนุ่มคิดในใจ
“คุณธัญญ์ค่ะ...ไม่ได้ยินที่พิตต้าถามหรือไง”
“ครับๆ คนดีจะให้ผมทำอะไรบอกมาได้เลยครับผมยินดีทำให้ทุกอย่าง”
“ขึ้นเวทีค่ะ”
“ห๊า...ขะ ขึ้นไปทำอะไรครับ”
“พิตต้าเปิดเพลงให้แล้วนะคะ หน้าที่ของคุณก็คือขึ้นไปเต้นโชว์” ชายหนุ่มมองอย่างตกตะลึง
“หรือว่าจะให้พิตต้าขึ้นไปนุ่งน้อยห่มน้อยส่ายสะโพกให้แขกดูกันล่ะคะ” ชายหนุ่มตกตะลึงอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง เวรกรรมอะไรของเขากันนะหญิงสาวสั่งให้เขาขึ้นไปเป็นโคโยตี้จำเป็นสำหรับค่ำคืนนี้ หากเขาปฏิเสธไม่ทำตามล่ะก็งานวิวาห์ในเช้าวันรุ่งขึ้นจะถูกยกเลิก ใบหน้าสวยหวานกำลังยิ้มเย้ยเขาอยู่ ชายหนุ่มคิดจะปราบพยศคนกล้าลองดีกับเขาอันดับแรกเขาคงจะต้องยอมทำตามที่เธอสั่ง ธัญญ์ส่ายหน้าไปมารับไม่ได้กับการที่จะต้องไปเต้นให้คนอื่นดู เกิดมาในชีวิตเขายังไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความรักที่มีให้เธอค่ำคืนนี้เขาจะไม่ยอมอับอายเด็ดขาด
“จะดีเหรอพิตต้า...ผมอายเค้านะ”
“เพื่อร้านค่ะ ไม่ต้องอาย”
“โธ่ที่รัก” ธัญญ์เดินเข้ามาโอบกอดภรรยาแสนสวยเอาไว้ ออดอ้อนให้เธอเปลี่ยนใจ
“ไม่ต้องเลยค่ะ พิตต้าไม่เปลี่ยนใจหรอก ถ้าคุณไม่ขึ้นไป พิตต้าไปเองก็ได้”
“อย่านะครับคนดี โอเคๆ ผมจะทำตามที่คุณสั่ง” ธัญญ์ก้าวขาอย่างลังเล เขาหันมามองหญิงสาวเผื่อเธอจะคิดเปลี่ยนใจ หรือเขาอาจจะแค่โดนแกล้งให้ใจหายเล่นๆ
“ขึ้นไปสิคะ เพลงจะจบแล้วนะ”
“คะ ครับ ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”
“ไม่ค่ะ”
สาวพีอาร์อรชรเดินเฉิดฉายหน้าบาร์กรีนเนอร์รี่ แผ่นป้ายไฟส่องแสงเป็นข้อความบอกว่าค่ำคืนนี้จะมีการแสดงชุดพิเศษหาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างสนใจหยุดยืนอ่านป้ายแล้วก็คาดเดาว่าจะมีการแสดงอะไรแปลกให้พวกเขาสนใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม