บทที่ 1 ขอพรกับดาวตก
ณ แดนเทพอันศักดิ์สิทธิ์
มหาเทพหวงหลงนั่งหรี่ตาเล็งศิลาเทวะธาตุหลายลูกในกล่องด้วยสีหน้าคร่ำเครียด ครุ่นคิดว่าจะหยิบศิลาลูกไหนขึ้นมาดีดใส่ศิลาของอีกฝ่ายเพื่อทำแต้มตีเสมอ
คู่ต่อสู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามมีใบหน้างดงามราวอิสตรี เอนกายอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน พิงหมอนอิงใบใหญ่บนตั่ง อากัปกิริยาค่อนไปทางเกียจคร้าน
มือขาวหมุนจอกสุราดอกท้อหยกพันปี ส่งกลิ่นหอมกรุ่นละมุนไปทั่วสวนลอยฟ้า ณ ตำหนักของมหาเทพหวงหลง ริมฝีปากหยักสีลูกท้อสุกเหยียดยิ้มยียวน เอื้อนเอ่ยเย้ยหยันฝีมือดีดลูกแก้วของสหายรัก
"ท่านจะเลือกศิลาอีกนานเท่าใด หวงหลง ข้ารอจนรากจะงอกอยู่แล้ว สู้ไม่ได้ก็ยอมแพ้เสียเถิด ดันทุรังไปก็เปล่าประโยชน์"
"เฮอะ! สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ชิงหลง รอบนี้ข้าไม่แพ้เจ้าแน่!" มหาเทพหวงหลงแค่นเสียง ใบหน้าหล่อเหลาราวหยกสลักดูยุ่งเหยิง ตัดสินใจหยิบก้อนศิลา ซึ่งกำลังเปล่งแสงเรืองรองสีขาวสลับดำออกมาจากกลางกล่องถือไว้ในมือ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดพรายที่มุมปาก
"เพ้ย! แบบนี้ขี้โกงกันนี่หวงหลง! ท่านจะเอาศิลาเทวะธาตุลูกนั้นออกมาใช้ไม่ได้นะ!" เสียงคัดค้านของมหาเทพชิงหลงดังขึ้นทันที หลังประจักษ์แก่สายตาว่า สหายรักเลือกหยิบศิลามหาเทวะธาตุออกมาใช้ต่อกร
"ไม่ได้มีกฎข้อไหนห้ามไว้นี่ เจ้าเตรียมตัวรับความพ่ายแพ้เสียเถอะชิงหลง ฮ่าๆๆ"
ทว่าในชั่วขณะที่มหาเทพหวงหลงเตรียมง้างนิ้วดีดเต็มแรงอยู่นั้น เสียงหวานล้ำทรงพลังของมหาเทวีเฟิ่งหนี่ว์ ก็ดังขึ้นขัดจังหวะการตัดสินแพ้ชนะในศึกดีดลูกแก้วครั้งนี้เสียก่อน
"ท่านพี่อยู่ไหนเจ้าคะ น้องกลับมาแล้วเจ้าคะ!!!"
มหาเทวีที่พึ่งออกจากกักตน ส่งเสียงถามหาพระสวามีทันทีเมื่อมาถึงตำหนัก
มหาเทพหนุ่มรูปงามทั้งสองสะดุ้งเฮือก ลนลานเก็บศิลาเทวะธาตุใส่กล่อง หากมหาเทวีรู้ว่าพวกเขากำลังเล่นพนันดีดลูกแก้ว โดยใช้ศิลาเทวะธาตุเป็นอุปกรณ์ และมีสุดยอดสุราทิพย์ของนางเป็นของเดิมพันล่ะก็…ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา
ไหนว่าจะกักตนห้าร้อยปี! นี่พึ่งผ่านไปสี่ร้อยกว่าปีเอง!!
หากแต่สิ่งที่ทำให้มหาเทพทั้งสองต้องประหลาดใจ ไม่ได้หยุดลงเพียงแค่นี้
ศิลาเทวะธาตุสีขาวดำ หรือก็คือ ศิลามหาเทวะธาตุหยินหยาง ศิลาธาตุอันทรงพลังที่สุด ซึ่งถือเป็นไม้ตายสำคัญที่มหาเทพหวงหลง ยอมงัดออกมาใช้เพื่อเผด็จศึกครั้งนี้ จู่ๆ ก็เปล่งแสงสว่างจ้า กลิ้งหล่นจากโต๊ะพลัดตกจากขอบระเบียงสวนลอยฟ้า ร่วงลงสู่ภพเบื้องล่าง หายวับไปต่อหน้าต่อตามหาเทพแสนซุกซนทั้งสอง
"ม่ายยยย…!!!"
ภพมนุษย์ มหาพิภพทงเทียนเหอ
อาณาจักรอู๋ซาง
บนกองฟางสูงไม่ห่างจากบ้านหลังเล็กริมทุ่งนามากนัก เด็กหญิงวัยเก้าหนาวผู้มีหน้าตาน่ารักราวตุ๊กตา องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าได้รูปสมบูรณ์แบบ
หากแต่ความงามที่พึงมี กลับถูกปานสีชาดรูปเปลวเพลิงขนาดใหญ่ พาดอยู่บนแก้มด้านซ้ายยาวไปจนถึงขมับ เบียดบังลดทอนความสมบูรณ์แบบไปหลายส่วน
ทว่ามีสิ่งหนึ่งซึ่งทำให้ทุกคนต่างเอ็นดูนางยามพบหน้า นั่นคือดวงตาดอกท้อกลมโตไร้เดียงสา สุกสกาวเจิดจรัสประหนึ่งอัญมณีเม็ดงามล้ำค่า
ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือกอบของ หวังลี่ถิง แหงนมองเหล่าดวงดาราที่กำลังทอแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ายามราตรีอย่างเหม่อลอย
ภายในใจของเด็กหญิงตัวน้อย เพียรคิดว่าไยจนป่านนี้ พลังธาตุของนางถึงยังไม่ตื่นขึ้นมาเหมือนเด็กคนอื่นๆ ในครอบครัวเสียที ทั้งที่บิดาและมารดาต่างก็มีพลังธาตุด้วยกันทั้งคู่
…เพียงแต่มารดาของหวังลี่ถิงได้จากโลกนี้ไปตอนที่เด็กหญิงมีอายุได้ห้าหนาว
อุ๊บ! หินปริศนารสชาติเค็มๆ มันๆ ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า ตกใส่ปากของเด็กหญิงพอดิบพอดี ทั้งยังลื่นไหลลงคอไปอย่างรวดเร็ว
แค่กๆๆๆ
หวังลี่ถิงไอโขลก พยายามล้วงคอเอาหินก้อนนั้นออกมา หากแต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว…
ความเย็นจัดขุมหนึ่งพลันบังเกิดในช่องท้อง ณ บริเวณจุดตันเถียน ลุกลามกระจายไปทุกอณูรูขุมขน ร่างเล็กหนาวสะท้านประหนึ่งตกลงไปในทะเลสาบช่วงฤดูเหมันต์
เสี้ยวลมหายใจต่อมา ทั่วทั้งร่างของหวังลี่ถิงถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งอย่างไร้ที่มาที่ไป ทั้งที่ช่วงนี้เป็นฤดูคิมหันต์
หลังผ่านไปราวสองเค่อ น้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างค่อยๆ ปริแตกสลายไป ขุมความร้อนจัดในช่องท้องพลันเข้ามาแทนที่ ผิวกายขาวผ่องของร่างเล็ก เปลี่ยนเป็นสีแดงดุจเปลวเพลิง
หวังลี่ถิงกรีดร้องจากความทรมานสุดแสน คิดว่าตนคงกำลังจะลาลับ น้ำตาเม็ดโตราวไข่มุกหลั่งรินเป็นสาย เด็กหญิงหวาดกลัวสุดหัวใจ สะอื้นไห้ร้องหามารดา
“ท่านแม่ ฮึก ท่านแม่ช่วยถิงเอ๋อร์ด้วย ฮึก ท่านแม่เจ้าขา ถิงเอ๋อร์เจ็บบบ ฮืออ”
ร่างเล็กอ่อนแรงลงช้าๆ ดวงตาดอกท้อเริ่มพร่าเลือนสติสัมปชัญญะดับวูบลง…
ในขณะที่หวังลี่ถิงนอนหมดสติ ร่างกายที่เคยร้อนผ่าวราวเพลิงผลาญ บัดนี้กลับมาเป็นปกติ ของเสียมากมายถูกขับออกมาทางผิวหนัง เกิดเป็นคราบสีดำเปรอะเปื้อนทั่วตัว ทั้งยังส่งกลิ่นไม่น่าพิศมัยคละคลุ้ง
ปานสีชาดขนาดใหญ่บนหน้าจางหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
รอบกายร่างเล็กโอบล้อมด้วยปราณสีเงินบริสุทธิ์ ประดุจแสงแห่งรัชนีกรในคืนเต็มดวง สลับไปมากับปราณสีทองอบอุ่นประหนึ่งแสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง