ความคิดของเลขาหลิวในตอนนี้คือไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เขาก็จะจัดการให้เรียบร้อย
ไม่อย่างนั้น เลขาหลิวรู้สึกว่าเขาต้องแข็งตายเพราะท่านประธานแน่นอน
"หลังจากทำพิธีการเสร็จ ติดต่อนักข่าว ฉันจะจัดงานแถลงข่าว" เสียงของเย่ซือเฉินที่อยู่ปลายสายดังขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาในครั้งนี้เยือกเย็นจนน่าตกใจ แน่นอนว่าท่ามกลางความเยือกเย็นนี้เคล้าไปด้วยการไร้ซึ่งความปรานี
"จัดงานแถลงข่าว?" ครั้งนี้เพราะตกใจอย่างมากเลขาหลิวจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป ท่านประธานไม่ชอบถูกนักข่าวสัมภาษณ์ ครั้งนี้เขากลับจะจัดงานแถลงข่าว?
ตอนแรกเลขาหลิวคิดว่าท่านประธานจะแค่ให้คำแถลงธรรมดาทั่วไป หรือไม่ก็แค่ปล่อยข่าว คิดไม่ถึงว่าท่านประธานจะจัดงานแถลงข่าว เมื่อเป็นแบบนี้เรื่องนี้ร้ายแรงมากจริงๆ
แต่ว่า เห็นได้ชัดว่าท่านประธานตัดสินใจแล้ว เลขาหลิวรู้ดีว่าสิ่งที่ท่านประธานตัดสินใจแล้วไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้
"ไปจัดการให้เรียบร้อย" เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เพียงแค่บอกให้ไปดำเนินการเพื่อชี้ชัดว่าเขาตัดสินใจแล้ว
การตัดสินใจในครั้งนี้ เขาไม่มีความลังเลใดๆ ไม่มีความอาลัยอาวรณ์แม้แต่น้อย ตระกูลเย่ไม่มีอะไรให้เขาอาลัยอาวรณ์อีกแล้ว
"ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ" เลขาหลิวไม่ได้ถามอะไรอีก ในเมื่อท่านประธานตัดสินใจแล้ว แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถเข้าไปข้องเกี่ยวได้
สำหรับการตัดสินใจของท่านประธาน เลขาหลิวปฏิบัติตามโดยไร้เงื่อนไข
หลังจากเลขาหลิววางสายก็รีบทำตามคำสั่งของเย่ซือเฉินทันที เพียงแต่เลขาหลิวนึกถึงน้ำเสียงของท่านประธานของตนเมื่อครู่แล้วอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น น้ำเสียงของท่านประธานเมื่อครู่น่ากลัวมากจริงๆ
สำหรับการตัดสินใจของท่านประธาน เลขาหลิวเองก็พอจะรู้บ้าง แต่ก่อนหน้านี้ท่านประธานไม่ได้ใจร้อนขนาดนี้ อีกทั้งเลขาหลิวรู้ดีว่าภายในใจของท่านประธานของตนอดไม่ได้ที่จะสงสารไม่มากก็น้อย
แต่น้ำเสียงของท่านประธานเมื่อครู่ เลขาหลิวกลับได้ยินถึงความเด็ดขาดของท่านประธาน ความรู้สึกที่ไร้ซึ่งความปรานี ความเด็ดขาดที่ไม่เหลือความใจอ่อนแม้แต่น้อย
เลขาหลิวรู้สึกว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วแน่ๆ!!
เพียงแต่เรื่องอะไรกันแน่ถึงทำให้ท่านประธานกลายเป็นแบบนี้ได้?
ตอนนั้นแม้แต่ตอนที่ท่านประธานไปดูงาน คุณผู้หญิงบอกให้เขาทำเรื่องหย่า หลังจากท่านประธานกลับมาก็ไม่น่ากลัวขนาดนี้!!
หลังจากเย่ซือเฉินวางสาย ครั้งนี้เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ไม่รอช้าแม้แต่น้อย เขาขับรถไปที่บริษัทตระกูลเย่กรุ้ปอย่างรวดเร็ว
เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเลขาหลิว ดังนั้นหลังจากนี้ ใช้เวลาไม่นาน เขาก็สามารถจัดงานแถลงข่าวได้แล้ว
เมื่อถึงเวลานั้น ทุกอย่างควรจะคลี่คลายได้แล้ว!!
ตอนที่เลขาหลิวแห่งบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปเร่งให้ทนายดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จนั้น ทนายหยุดชะงักไปเล็กน้อย:“ท่านประธานหมายความว่าอะไรกันแน่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เรื่องแบบนี้จะเปลี่ยนได้ยังไง ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน เลขาหลิว ท่านประธานคิดอะไรอยู่กันแน่?"
ทนายสงสัยอย่างมาก ไม่เข้าใจอย่างมาก เขาไม่เคยพบเจอใครที่ใจร้อนในการทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าท่านประธานคิดอะไร? ท่านประธานมีเรื่องลำบากใจอะไรรึเปล่า? ท่านประธานถูกบีบบังคับรึเปล่า?
ถ้าไม่ใช่เพราะถูกบีบบังคับ ไม่มีใครรีบร้อนทำเรื่องแบบนี้หรอก?!
"นายจะยุ่งอะไรมากมาย? ท่านประธานคิดอะไรอยู่ฉันจะรู้ได้ยังไง สั่งให้นายทำนายก็รีบทำเถอะ ฉันจะบอกอะไรให้นายฟัง วันนี้ท่านประธานอารมณ์ไม่ดี ถ้านายไม่รีบจัดการให้เรียบร้อย รับผิดชอบผลที่ตามมาเองแล้วกัน" เลขาหลิวไม่ได้ข่มขู่เขา สิ่งที่เลขาหลิวพูดเป็นความจริง น้ำเสียงของท่านประธานแค่ฟังก็รู้ว่าอารมณ์ไม่ดี ไม่สิ อารมณ์เสียอย่างมาก
ดังนั้น เลขาหลิวพูดด้วยความหวังดี :“เพราะเรื่องนี้ ท่านประธานโทรมาตามสองครั้งแล้ว"
"ครับๆ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณเลขาหลิวมากที่พูดเตือน" ทนายเป็นคนฉลาด เข้าใจความหมายของเลขาหลิว จึงไม่กล้าชักช้าอีก
"นายจัดการทุกอย่างเสร็จเมื่อไหร่ รีบโทรมารายงานฉัน" เลขาหลิวนึกถึงสิ่งที่ก่อนหน้านี้ท่านประธานสั่ง อดไม่ได้ที่จะพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค
"ครับๆ" ทนายตกตะลึง แต่ครั้งนี้ทนายไม่ได้ถามอะไรมากมาย ทว่ารีบพยักหน้าตอบตกลง เลขาหลิวกำชับอีกครั้งต้องเป็นเพราะคำสั่งของท่านประธานแน่นอน
ท่านประธานต้องรีบร้อนมากแน่ๆ เพียงแต่ทนายไม่เข้าใจว่าทำไมท่านประธานถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ สิ่งนี้ไม่ส่งผลดีอะไรต่อท่านประธานสักหน่อย ในทางกลับกันส่งผลเสียต่อท่านประธานด้วยซ้ำไป
หรือว่าถูกคุณปู่เย่บีบบังคับ? ถ้าเป็นแบบนั้นท่านประธานก็น่าสงสารมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...