ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1724

สายตาของอาลั่วมองไปที่ถังจื่อโม่ตลอด ตะกละตะกลามและร้อนเร่า “ก็คือนายยินยอมอยู่ข้างกายฉันตลอดไป ไม่แยกจากไปจากฉัน เป็นของฉันเพียงคนเดียว!” อาลั่วพูดอย่างเร่งร้อน ลมหายใจเจือไปด้วยความปรารถนาที่ยากจะอธิบายหลายส่วน เด็กแบบนี้ ยามทำลายจะต้องเพลิดเพลินมากเป็นแน่! นานเหลือเกินที่ไม่ได้พบคนที่ถูกใจถึงเพียงนี้!

ตอนที่เห็นถังจื่อโม่แวบแรก เขาก็รู้ว่าตนไม่อาจตัดขาดจากเด็กคนนี้ได้แน่ ถ้าไม่ใช่ว่าผู้อาวุโสสั่งกำชับลงมาด้วยตนเอง เขาไม่มีทางที่จะรอมาถึงตอนนี้โดยยังไม่ลงมือแน่นอน เดิมเป็นแค่สินค้าอย่างหนึ่ง ไม่จำเป็นที่ตนต้องมาด้วยตัวเองเลย แต่ว่าถังจื่อโม่น่ามองมากจริงๆ สมบูรณ์แบบเกินไปแล้ว ราวกับเป็นสิ่งที่สวรรค์สรรค์สร้างออกมาด้วยตนเองก็ไม่ปาน เหมือนดังกระจกเคลือบที่พอแตะถูกก็แตกสลาย เด็กที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ เขาอยากจะมอง มองดูตลอดไป ดังนั้นจึงคาดคะเนช่วงเวลาที่เขาจะตื่นแล้วมาที่นี่ เขาอยากให้ถังจื่อโม่มองเห็นเขาสักแวบ ให้ถังจื่อโม่อยู่ข้างกายเขาตลอดไป

“แต่ว่า ฉันเป็นเด็กนะ พ่อแม่ของฉันยังรอฉันกลับบ้านอยู่ ฉันอยู่ที่นี่ อยู่ข้างกายคุณไปตลอดไม่ได้หรอก” ถังจื่อโม่พูดอย่างขลาดๆ แฝงไปด้วยการหยั่งเชิง ที่นี่คือสถานที่แปลกตาแห่งหนึ่ง อาลั่วพาเขามาที่นี่ ได้คิดจะให้เขาไปไหม? หรือพูดได้ว่า แท้จริงแล้วตั้งแต่แรกเริ่ม อนาคตของเขาก็ถูกผู้อื่นกำหนดเอาไว้แล้ว สถานที่แห่งนี้ ในสายตาของคนอื่น ก็คือคนแปลกหน้าของตัวเอง?

“กลับบ้าน?” อาลั่วพูดซ้ำเล็กน้อย สายตากวาดมองร่างถังจื่อโม่สองสามรอบ ดูท่าคนที่อยู่ข้างหน้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ชัดเจน มาถึงที่นี่แล้ว ยังจะมีทางกลับไปที่ไหนได้อีก? แต่เขาไม่อยากจะบอกถังจื่อโม่ตรงๆ มองดูคนผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยความหวังค่อยๆหมดหวังไปทีละนิด ไม่ใช่ความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งเหรอ? หากว่าห่อเหี่ยวเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะเล่นให้สนุกได้อย่างไร?

“ก็ใช่ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งนายอาจจะกลับไป? ถ้าอย่างนั้น นายรับรองว่าตอนที่นายอยู่ที่นี่ จะอยู่ข้างกายฉันตลอดดีหรือไม่?” อาลั่วพูดยิ้มๆ แต่ในใบหน้ายิ้มแย้มเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ถังจื่อโม่เข้าใจดี ในสายตาของอาลั่ว อันที่จริงเขากลับไปไม่ได้แล้ว กำลังโกหกเขาอยู่โดยแท้ ถ้าอย่างนั้น จะอยู่ข้างกายอาลั่วไหม? ไม่ได้! อาลั่วเป็นคนวิปริตคนหนึ่ง ตอนนี้ไม่กล้าแตะต้องเขา อาจเป็นเพราะว่าเบื้องหลังเขามีคนอื่นอยู่ ยังไม่บรรลุเป้าหมาย เขาไม่อาจทำร้ายตนตามอำเภอใจได้ ถ้าหากว่าตนตกลง เกรงว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายอย่างแท้จริง

“แม่บอกว่า ห้ามรับปากคำขอร้องของคนอื่นส่งเดช” ถังจื่อโม่หน้ามุ่ย แสร้งพูดอย่างใสซื่อ จะรับปากอาลั่วไม่ได้ ไม่ได้เป็นอันขาด อย่างน้อย ตอนที่ยังไม่มีอันตรายถึงชีวิต ก็ห้ามรับปากเขา

“ฉันไม่ใช่คนอื่น ถ้านายรับปากจะอยู่ข้างกายฉัน ฉันจะปกป้องนายตลอดไป ที่เกาะซื่อหลี มีเพียงฉันที่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้นายได้” อาลั่วค่อยๆพูดล่อหลอก มาถึงเกาะซื่อหลี ถังจื่อโม่ก็เป็นเพียงเนื้อชิ้นหนึ่ง ที่คนอยากได้เป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าเขาจะเป็นคนพาถังจื่อโม่กลับไป แต่ว่า ถ้าผู้อาวุโสจะมอบถังจื่อโม่ให้กับคนอื่นให้ได้ เขาก็รักษาไว้ไม่ได้ น่าโมโหจริงๆ!

แต่ยังดีที่ผู้อาวุโสส่งตนมารับถังจื่อโม่ ถ้าหากถูกคนอื่นครอบครองไปเสียก่อน ค่อยน่าโกรธ! ดังนั้น สองวันนี้ เขาจะต้องคิดหาวิธีทำให้ถังจื่อโม่รับปากจะติดตามเขาให้ได้ ติดตามเขาเพียงคนเดียว!

ยังดี คนที่มามีแค่เขาคนเดียว ไม่มีใครมาแย่งชิงกับตน ถังจื่อโม่ก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่เข้าใจผลได้เสียในนั้น ค่อยๆขู่ขวัญไปทีละน้อย ก็น่าจะสำเร็จ

“เกาะซื่อหลี?”ถังจื่อโม่มองข้ามคำพูดอื่นๆของอาลั่วไป ได้ยินเพียงแค่สิ่งนี้ เกาะซื่อหลี คือสถานที่ที่พวกเขาจะไปหรือ? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แล้วอย่างนั้น ตนจะทิ้งข่าวคราวไว้ให้พ่อแม่ได้อย่างไร?

“ใช่แล้ว เกาะซื่อหลี” อาลั่วนั่งลงอีกด้าน เขามีวิธีที่จะให้ถังจื่อโม่อยู่ต่อแล้ว ดังนั้นอารมณ์จึงค่อนข้างดี “ที่ที่พวกเราจะไปก็คือเกาะซื่อหลี”

“ทำฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย” ถังจื่อโม่ใช้สายตาสงสัยมองไปที่อาลั่ว ดูแล้ว อาลั่วจะเชื่อมั่นในเกาะซื่อหลีมาก ไม่มีใครสามารถไปได้หรือ? หรือว่า มันไม่ได้ชื่อนี้อยู่แล้ว

“นายต้องไม่เคยได้ยินอยู่แล้ว เกาะซื่อหลีเร้นกายมาโดยตลอด สองสามปีนี้เพิ่งจะเริ่มติดต่อกับโลกภายนอก แทบไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน และไม่มีใครรู้ว่าจะไปอย่างไร” อาลั่วพูดอย่างลำพอง มิฉะนั้นตนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเขากลับไปไม่ได้แล้ว? ตามที่บอกเด็กนี่เพิ่งจะห้าขวบ พอให้ตนเล่นสักสิบกว่าปีได้ ถ้าหากว่า...เขายังมีชีวิตอยู่น่ะนะ

ถังจื่อโม่ไม่แน่ใจในความหมายของอาลั่ว ปล่อยพวกเขาไป คือการปล่อยแบบมีชีวิตหรือเปล่า? หรือปล่อยแบบตาย ไม่ถูกต้อง ท่าทางของอาลั่วราบเรียบเช่นนี้ ก็คือปล่อยพวกเขาไป ส่วนจะมีชีวิตต่อไปหรือไม่ ไม่ได้อยู่ในขอบข่ายการพิจารณาของพวกเขา เช่นนั้น ตนสามารถเฝ้ารออีกหน่อยได้หรือไม่? แต่ถังจื่อโม่รู้ดี ตนไม่อาจถามอีก หากถามอีกจะชักนำความสงสัยของอาลั่ว

ดวงตาของถังจื่อโม่สว่างวาบในพริบตา ทว่าความสว่างไสวนี้ ส่วนมากเป็นการให้อาลั่วมอง เขาเพียงแค่กำลังบอกอาลั่วว่า หัวใจของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาจะต้องหาหนทางจากไปได้แน่ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องบีบเค้นอย่างเร่งรีบเกินไป

แต่ชั่วเวลาถัดมา ถังจื่อโม่ก็เปลี่ยนท่าทีไป——“อย่างนั้น ฉันจะตายไหม?” ตอนที่ถังจื่อโม่พูดได้แสดงท่าทีกังวลของตัวเองออกมา หัวคิ้วของเขาขมวดแน่น แววตาไหวสั่น แสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างเต็มที่

“ก็อาจจะ แต่ว่า เพียงนายติดตามฉันก็จะไม่ตาย” อาลั่วพูดล่อลวง นี่ถึงจะเป็นท่าทางที่เด็กห้าขวบควรจะเป็น พวกนั้นที่มาก่อนหน้านี้ ร้องไห้โวยวายไม่หยุด ถังจื่อโม่เงียบสงบราวกับไร้ความรู้สึก อาจเป็นเพียงเพราะเพิ่งจะรู้สึกตัวเท่านั้น

ถังจื่อโม่ไม่พูดอะไรอีก อาลั่วก็ไม่ได้บังคับให้เขาพูด ไม่เป็นไร วันนี้เพียงแค่บอกเขาสักหน่อย ถึงเกาะซื่อหลีแล้ว มีชีวิตต่อไปเป็นเรื่องยากลำบากมาก ดังนั้น เขาพิจารณาเล็กน้อย ว่าจะติดตามอาลั่วหรือไม่

ถังจื่อโม่มองท้องทะเลที่อยู่ด้านนอก มองไปไร้จุดสิ้นสุด มองไม่ออกเลยว่าอยู่สถานที่ใด ตอนนี้เขากังวลมาก สถานการณ์ที่บ้านเป็นอย่างไร พ่อแม่รู้หรือยังว่าตนถูกลักพาตัว หาชายทะเลนั่นพบแล้วหรือยัง เห็นร่องรอยที่ตนทิ้งไว้หรือยัง?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน