ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1743

ผู้เฒ่านิ่งอึ้งอยู่กับที่ไปชั่วขณะนึง เธอเอ่ยพูดออกไปอย่างมึนเบลอ “เธอคือ...”

“โม่ฉือ ฉันคือโม่ฉือ” คนที่อยู่ตรงหน้า หลินฉือรู้สึกว่าตนไม่ชอบเลย

ผู้เฒ่าได้ทรุดไปเลยทันที โม่ฉือ คนจากตระกูลโม่เหรอ? เธอป้องกันมาตั้งนาน ทำไมถึงได้มีคนจากตระกูลโม่ปรากฏตัวขึ้นมาได้ล่ะ?

เธอมีอาการคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปชั่วขณะนึง “เธอ เธอทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?” มันเป็นการซักถาม

น้ำเสียงอย่างนี้ได้ทำให้หลินฉือไม่พอใจอย่างมาก เธอเป็นใคร? มีสิทธิ์อะไรมาถามเธอ? หรือว่าสถานที่แห่งนี้มันจะยังไม่ให้ใครปรากฏตัวขึ้นมางั้นเหรอ?

“อยากจะมา ก็เลยมา” หลินฉือหัวเราะเยาะออกมา เสียงหัวเราะนี้ ทำให้ผู้เฒ่ารู้สึกว่าแก้วหูมันจะแตกไปหมดแล้ว สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น อย่างที่คิดมันก็หลบไม่พ้นอยู่ดีใช่มั้ย?

ผู้เฒ่าทรุดนั่งอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไง หลินฉือรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ จึงได้ออกมาพร้อมกับมู่เฉิง

สายตาของมู่เฉิงได้จดจ้องอยู่ที่ร่างของหลินฉือ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้หลินฉือได้สังเกตหรือเปล่าว่าสายตาและสีหน้าของเธอนั้นมันได้เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา เป็นความกดดันที่รุนแรงอย่างหนึ่ง ประดับไปด้วยแรงกดดันที่แน่วแน่ ในที่แห่งนี้ ว่ากันตามหลักแล้ว หลินฉือจะไม่มีทางจะมีสีหน้าและความรู้สึกแบบนี้เลย แต่กลับไม่มีความรู้สึกแปลกแยกเลย

พอถึงตอนเย็น หลินฉือได้เดินไปตามความรู้สึกของตัวเอง อยู่ที่นี่ เธอรู้สึกว่ามันมีสถานที่ที่คุ้นเคยเยอะมากเลย แต่ก็รู้ดีอีกว่าตนนั้นไม่ควรจะจัดอยู่ในที่แห่งนี้

เช้าวันต่อมา เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงจึงได้ไปยังสถานที่ที่ได้ค้นพบเมื่อคืนนี้ ไม่ได้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น เพียงไม่นานพวกเขาก็ควรจะขึ้นฝั่งกันได้แล้ว สามารถสู้กับถังไป๋เชียนได้ และถึงขนาดที่สามารถจับเป็นถังไป๋เชียนมาได้เลย

แต่ว่า ตอนที่พวกเขามาถึงนั้น ที่นี่ได้ว่างเปล่าไร้ผู้คนไปแล้ว ถังไป๋เชียนกับคนของเขา ไม่รู้เลยว่าไปที่ไหน แน่นอนว่าถังจื่อโม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน

“พวกเราเข้าไปดูกันสักหน่อย” เย่ซือเฉินกุมมือของเวินลั่วฉิง ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน ถึงแม้ว่าด้านในจะยังเหลือคนเฝ้ายามอยู่ แต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยเหมือนกัน

“ได้!” เวินลั่วฉิงพยักหน้าตอบรับออกไป ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน รอคนของฉิงถิง ทางที่ดีที่สุดพวกเขาสามารถบอกตำแหน่งของเขาออกไปตรง ๆ เลยก็ได้ รอการช่วยเหลือจากฉิงถิง ยิ่งขยายเวลาไปนานเท่าไหร่ การป้องกันของถังไป๋เชียนมันก็ยิ่งเข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น

ด้านในมีร่องรอยของการใช้ชีวิต แม้ว่าจะทำความสะอาดไปแล้ว แต่เวินลั่วฉิงที่อยู่ข้าง ๆ ถังไป๋เชียนมาเป็นเวลานาน มันก็เพียงพอให้รู้วิธีของพวกเขาแล้วเหมือนกัน

จื่อโม่จะถูกขังอยู่ที่ไหนกันน่ะ? เรื่องที่เวินลั่วฉิงใส่ใจมากที่สุด ถ้าสามารถหาห้องของจื่อโม่เจอได้ เขาจะต้องเหลือทิ้งร่องรอยเอาไว้อย่างแน่นอน

เวินลั่วฉิงรีบตรวจสอบห้องแล้วห้องเล่าไปอย่างรวดเร็ว ภายในห้องที่รกยุ่งเหยิงห้องหนึ่ง มองเห็นตัวอักษรที่คุ้นเคย

เวินลั่วฉิงได้แกะลายมือไปอย่างระวัง ยังดีที่ จื่อโม่ไม่เป็นไร ที่ตรงนี้ ได้เขียนสถานที่ที่พวกเขาต้องไปหลังจากนี้ ชายฝั่งทะเล?

“พวกเราคงถูกค้นพบเข้าแล้ว” เวินลั่วฉิงกัดริมฝีปาก สถานที่แห่งนี้ ถูกค้นพบได้ไม่ใช่ง่าย ๆ และยังป้องกันได้ง่ายอีก ถังไป๋เชียนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปชายฝั่งทะเลเลย ที่นั่นมันเป็นที่ที่การมองเห็นเปิดกว้าง มองเห็นอะไรได้อย่างชัดเจน มันไม่มีประโยชน์ต่อเขา ดังนั้นแล้ว ถังไป๋เชียนจึงวางแผนที่จะทุ่มหมดตัวเพื่อเดิมพันครั้งสุดท้ายงั้นเหรอ?

“ชายทะเล?”

“จื่อโม่บอกว่าเดินตรงไปทางทิศตะวันตก” เวินลั่วฉิงเสริมออกมา พวกเขาไม่ได้รู้จักสิ่งแวดล้อมโดยรอบของที่นี่เลยสักนิดเดียว ทำได้เพียงแค่รีบตามไปเดี๋ยวนี้เลย

เป็นตอนเช้า อุณหภูมิของแสงแดดมันกำลังพอดีเลย สาดส่องมาที่บนร่างของคนไปเบา ๆ เนือย ๆ แต่จิตวิญญาณของคนนั้นตึงเครียดอย่างมาก

ตอนที่ถังจื่อโม่ถูกคนพาตัวไป ก็คาดเดาได้แล้วว่าคงจะเป็นเพราะพ่อแม่ของเขามาแล้ว ถังไป๋เชียนอ่านความคิดเขาออกจริง ๆ จึงมัดตัวเขาไขว้แขนไปทางข้างหลังไปเลย ถังจื่อโม่บิดตัวไปอย่างยากลำบาก ผลสุดท้าย...มันกลับขยับตัวไม่ได้เลย

“ไม่ต้องคิดแล้ว นี่เป็นวิธีการมัดแบบพิเศษ เว้นเสียแต่ว่าจะมีคนมาช่วย ไม่อย่างนั้นก็แกะออกไปไม่ได้เลย” ข้าง ๆ มีคนพูดอธิบายออกมา ถังจื่อโม่ไม่พูดอะไรออกไป แกะไม่ออกก็แกะไม่ออกสิ ไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว

เป็นชายหาดสีทองแห่งหนึ่ง สวยมาก แต่ว่า ในตอนที่ถังจื่อโม่เห็นสีหน้าที่ดุร้ายของถังไป๋เชียนแล้ว รู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที

ถังจื่อโม่คิด เหมือนกับว่าจะมองเห็นเงาร่างของคนสองคนอยู่ไกล ๆ ปรับสายตามองไป เป็นพ่อกับแม่!

ถังจื่อโม่ได้แสดงความดีใจจนออกนอกหน้าออกมาทันที แล้วก็ค่อย ๆ เก็บสีหน้าไปช้า ๆ คุณแม่เห็นตัวหนังสือที่ตนได้ทิ้งเอาไว้จริง ๆ แต่ว่า...ตอนนี้มาแล้วไม่ใช่ว่ามันจะสมดั่งที่ถังไป๋เชียนตั้งใจเลยใช่มั้ย สิ่งที่เขาอยากทำ มันพุ่งเป้าไปที่แม่พอดีเลยนะ

ถังไป๋เชียนดึงถังจื่อโม่มาอยู่ข้าง ๆ ตัว รอบ ๆ มีคนอยู่ไม่น้อยเลย เวินลั่วฉิงกวาดสายตามองไปทั่ว ๆ ทั้งหมดคงจะมีประมาณเกือบ ๆ ห้าสิบคนเลย คนที่ถังไป๋เชียนพามามันไม่น้อยเลยจริง ๆ

“ฉิงฉิง ไม่ได้เจอกันนานเลย” ถังไป๋เชียนมองเวินลั่วฉิงไปด้วยความราคะ อย่างที่คิดเป็นคนที่ตนเคยชอบจริง ๆ ด้วย ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่อาจยอมแพ้ไปได้เสียที

เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วออกมา เธอไม่ชอบสายตาแบบนี้เลย เธอไม่ได้สนใจถังไป๋เชียน มองไปทางถังจื่อโม่ ยังดีที่จื่อโม่มองไปแล้วยังสบายดีอยู่ คงจะไม่ได้รับการทรมานอะไรเข้า

ถังไป๋เชียนเห็นเวินลั่วฉิงเมินเขาไป ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที ดึงคอเสื้อด้านหลังของถังจื่อโม่เอาไว้ แล้วดึงเข้ามาที่ตรงหน้าเขา เวินลั่วฉิงได้ถลึงตาใส่ถังไป๋เชียนออกมาทันที เขามันจงใจ!

“ฉิงฉิง ในเมื่อเธอมองไม่เห็นฉัน อย่างนั้นแล้ว ก็มองดูลูกชายของเธอให้ดี ๆ แล้วกัน ตอนนี้เขาอยู่ในกำมือของฉัน” ถังไป๋เชียนอิจฉาจนเป็นบ้าไปแล้ว เย่ซือเฉินอยู่ที่ข้าง ๆ เวินลั่วฉิง พวกเขาทั้งสองคนดูไปแล้วนับวันจะยิ่งดูเหมาะสมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ มันช่างขัดหูขัดตาเสียจริง

ก็เหมือนกับตอนนี้ เย่ซือเฉินได้กุมมือของเวินลั่วฉิงอยู่ ไม่มีความคิดจะปล่อยไปเลยสักนิด กำลังท้าทายเขาอยู่หรือไง?

“นายต้องการอะไร?” เวินลั่วฉิงพูดออกไปอย่างไม่อ้อมค้อม เธอก็ได้มาถึงแล้ว มีอะไร ก็พูดออกมาตามตรงได้เลย

“ฉันต้องการอะไร เธอคงจะรู้” ถังไป๋เชียนจ้องมองเย่ซือเฉิน ศัตรูในด้านความรักทั้งสองคนได้มาเจอกัน ได้เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู น่าเสียดาย เวินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างเย่ซือเฉิน จึงเป็นการประกาศถึงความพ่ายแพ้ของถังไป๋เชียนออกมาอย่างชัดเจน

“ก่อนหน้านี้ฉันได้บอกไปแล้วว่าพวกเรามันเป็นไปไม่ได้” เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วออกมา ตามตอแยเธออย่างนี้ ไม่เหนื่อยเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็จะแต่งงานอยู่แล้ว

“ตอนนี้ เธอลองดูถังจื่อโม่สิ แล้วค่อยบอกกับฉันอีกทีว่ามันเป็นไปไม่ได้” ถังไป๋เชียนกดไหล่ของถังจื่อโม่เอาไว้ แล้วจ้องมองตรงไปที่เวินลั่วฉิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน