ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน นิยาย บท 1754

ถ้าละทิ้งทุกอย่างไป เธอเป็นผู้ที่ถูกกระทำ ส่วนแม่ของฉิงฉิงก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ฉันทุกข์แล้วแม่ของฉิงฉิงไม่ทุกข์เหรอ? ในสถานการณ์ที่ตัวเองไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ทำร้ายผู้หญิงอีกคนไป ภายในใจของเธอจะต้องรู้สึกไม่ดีด้วยเหมือนกันอยู่แล้ว

ส่วนเย่โป๋เหวิน ก็คือตัวการที่ได้สร้างเหตุผลนี้ขึ้นมา ทั้งที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าตนจะต้องไม่อาจยอมรับผู้หญิงอีกคนได้อยู่แล้ว แต่กลับแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้อีก เกิดความสัมพันธ์กับเธอไป ทิ้งลูกเอาไว้ให้ ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เขาก็ยังคงไม่ลืมผู้หญิงอีกคนอยู่ดี เพื่อเธอจึงได้ทำร้ายภรรยาของตัวเอง

ถ้าเย่โป๋เหวินไม่ได้เห็นแก่ตัวขนาดนั้น ตอนที่รู้ว่าตนรักผู้หญิงอีกคนไปอย่างลึกซึ้ง เลือกเธอไปแบบที่ไม่มีเปลี่ยนใจอีก ก็อย่ามาให้ความหวังกับผู้หญิงอีกคน เรื่องมันก็จะไม่เปลี่ยนกลายมาเป็นเหมือนอย่างตอนนี้

ทุกอย่างมันยังหยุดนิ่งอยู่กับที่มีแต่คนที่เปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างมันได้จบสิ้นไปหมดแล้ว อยากจะบอกเล่าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตนออกไป แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไปก็ร้องไห้ออกมาเสียก่อน ถังหยูเยียนนึกถึงเรื่องเมื่อตอนนั้น ก็รู้สึกจะร้องไห้ขึ้นมา เธอก็ดี แม่ของฉิงฉิงเองก็ดี ต่างก็ไม่ได้รับความสุขกันด้วยกันทั้งคู่

เหลยเห้อมองถังหยูเยียนเธอเป็นคนที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์ จิตใจดีอย่างนี้มาโดยตลอด เธอเป็นคนที่อ่อนโยนมากพอจริง ๆ ไม่มีทางจะเอาความโกรธแค้นชิงชังไปให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องได้ คนอย่างนี้ สิ่งที่ได้ประสบพบเจอมามันกลับโหดร้ายเสียอย่างนั้น ตกลงแล้วมันเป็นความผิดของใครกันแน่?

เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินฟังอยู่ข้างนอก เดิมทีพวกเขาได้วกกลับมาเพื่อจะปรึกษาเรื่องงานแต่งงานกับถังหยูเยียนสักหน่อย แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องอย่างนี้เข้า

คำพูดเพียงไม่กี่คำ เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินก็เข้าใจเรื่องในอดีตที่ผ่านไปแล้ว ไม่ใช่ความผิดพลาดที่ได้เกิดมาจากความไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นความสิ้นคิดของใจคน เวินลั่วฉิงนับถือถังหยูเยียนด้วยใจจริง ผ่านอะไรมาตั้งมากมาย เธอยังคงมีจิตใจที่บริสุทธิ์และจิตใจดีอย่างนี้ได้ ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว ผู้หญิงอย่างนี้ เธอจะทำร้ายลงได้ยังไง?

เวินลั่วฉิงมีความลังเลอยู่เล็กน้อย ระหว่างเธอกับเย่ซือเฉิน มันเป็นสิ่งที่ผิดจริง ๆ ใช่มั้ย เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ของเธอไม่ได้ผิด ถังหยูเยียนก็ไม่ได้ผิด แต่คนที่ผิดมันเป็นพ่อของเย่ซือเฉิน เย่โป๋เหวิน ผู้ชายคนหนึ่งทำร้ายภรรยาของตัวเองเพื่อคนอื่น ถึงขนาดที่ทำลายทั้งชีวิตของภรรยาของตนไปด้วย แต่ อีกคนที่ได้ทำร้ายถังหยูเยียนไปคือแม่ของตน เวินลั่วฉิงไม่รู้ว่าเธอควรจะเผชิญหน้ากับถังหยูเยียนยังไง รู้สึกเพียงแค่ละอายใจขึ้นมาเท่านั้น แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้น เธอได้ค้นพบว่าแม้แต่จะขอโทษออกไปเธอก็ยังทำไม่ได้เลย เพราะว่าถังหยูเยียนไม่เคยโทษแม่ของเธอเลย และยิ่งไม่เคยจะโทษเธอเลยด้วย คำขอโทษนี้เธอจะพูดออกไปได้ยังไง เคว้งไปหมดไม่รู้ว่าจะเลือกไปในทางไหนดีเลย?

“ซือเฉิน” ทั้งสองคนได้เดินไปด้านนอกพร้อมกัน ต่างฝ่ายต่างเงียบไม่ได้พูดอะไรกันออกมา เย่ซือเฉินรู้ว่าเวินลั่วฉิงแคร์เรื่องอะไร เขาไม่ได้รู้อะไรมากมายในเรื่องเมื่อตอนนั้น ตอนนี้คิดแค่เพียงว่าตระกูลเย่ติดค้างแม่ของเขามากไปแล้ว! หนี้ส่วนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะทวงคืนมันกลับมาแล้ว ถ้าเป็นเมื่อตอนก่อนหน้านี้รู้ว่ามันเป็นอย่างนี้ เกรงว่า วิธีการของเขามันจะยิ่งเด็ดขาดมากกว่านี้

“ผมรู้ว่าคุณอยากจะพูดอะไร ผมจะรอจนคุณคิดตกขึ้นมาแล้ว” เย่ซือเฉินชิงพูดออกมาก่อน ทั้งสองคนเดินมาจนถึงทุกวันนี้ หรือเธอจะคิดจริง ๆ ว่าจะยังมีคนสามารถขวางกั้นอยู่ที่ตรงหน้าพวกเขาได้อีกงั้นเหรอ?

ยิ่งไปกว่านั้น แม่ก็ได้บอกแล้วว่าท่านไม่ได้เกลียดแม่ของฉิงฉิงเลย และก็ยอมรับเวินลั่วฉิงเป็นลูกสะใภ้ของท่านแล้วด้วย แล้วตนจะยอมแพ้ไปได้ยังไงกันล่ะ?

เวินลั่วฉิงยิ้มอย่างขมขื่นออกมา ไม่ได้พูดอะไร หลายเรื่อง ก็เหมือนกับทรายที่ถูกกำอยู่ในมือ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคุณไม่อาจจะคว้ามันเอาไว้ให้มั่นได้ ก็ยังอยากจะกุมมันเอาไว้ตลอดไปอย่างละโมบอีก จนกระทั่งเรื่องมากมายมันได้ค่อย ๆ บีบให้คุณยอมแพ้ไปทีละนิด ๆ

ตอนนี้ เธอกับเย่ซือเฉินได้เดินมาถึงทุกวันนี้ จะขาดก็แค่ก้าวสุดท้ายแล้ว ก้าวสุดท้ายก้าวนี้ ได้ถูกแม่ของเธอขวางกั้นเอาไว้ ไม่ว่าใครเธอสามารถไม่สนใจมันได้ทั้งนั้น แต่แม่เพียงคนเดียวของเย่ซือเฉิน เธอจะไม่คำนึงถึงความคิดของท่านเลยได้ยังไงกันล่ะ?

ทั้งสองคนกลับไปพร้อมกับความเงียบ เย่ซือเฉินเองก็ไม่ได้เร่งเร้าออกไปด้วยเช่นกัน เขารู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวฉิงฉิงก็คิดได้เอง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดมันก็ยังคงเป็นท่าทีของแม่เขา ถ้าแม่ของเขาสามารถยอมรับฉิงฉิงโดยที่ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเลยสักนิดได้ ฉิงฉิงเองก็จะต้องยอมรับเขาได้ด้วยเหมือนกัน

ข่าวที่เวินลั่วฉิงได้กลับมานั้น หลิวหยิงก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน ตอนที่เธอโทรเข้าไป เวินลั่วฉิงก็เพิ่งจะกลับไปพอดี ตอนที่รับสาย หลิวหยิงมีความตื่นตัวออกมาเล็กน้อย “ฉิงฉิง เป็นยังไงบ้าง จื่อโม่เองก็กลับมาด้วยใช่มั้ย?”

“อืม ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ฉันก็จะยืนอยู่ข้างเธอเสมอ ตอนนี้ เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว จะเป็นแม่คนแล้ว จะต้องดูแลตัวเองให้ดี” เวินลั่วฉิงพูด เรื่องของความรู้สึก มันไม่มีใครสามารถให้คำแนะนำพวกเขาได้ ทำได้แค่เพียงแค่ให้พวกเขาได้เดินกันไปเอง จะสามารถเดินไปด้วยกันได้หรือไม่นั้น มันจะต้องดูที่ความรู้สึกระหว่างคนสองคน ความรักนั้นแต่ไหนแต่ไรมามันก็ไม่ใช่การรีบเร่งที่จะเดินไปให้ถึงจุดหมายอยู่เพียงแค่ฝ่ายเดียวอยู่แล้ว

“ได้ ฉันรู้แล้ว ขอเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอไม่เป็นไรกันก็พอแล้ว” หลิวหยิงพูดยิ้ม ๆ ออกมา แล้วพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้แบบตามอารมณ์ แล้วก็ได้วางสายไป

นอนอยู่บนเตียงนอน หลิวหยิงได้โยนโทรศัพท์ออกไปข้าง ๆ เธอสับสนอยู่บ้าง ตอนนี้ ระหว่างเธอกับซือถูมู่หรง นับว่าเป็นอะไรกัน? กิ๊กเหรอ? ไม่ใช่ ช่วงเวลาห้าปีมันได้ครบกำหนดไปแล้ว ซือถูมู่หรงเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลย คนรักเหรอ? ก็ไม่ใช่ ซือถูมู่หรงไม่เคยจะให้การยอมรับใด ๆ กับเธอเลย สามีภรรยา? แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

หลิวหยิงคิดมาตลอดว่าตนนั้นไม่ใช่คนที่จะเห็นแก่ความรู้สึกของใครนักคนหนึ่ง แต่ในเรื่องของซือถูมู่หรงเรื่องนี้ เธอกลับลังเลขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

หลิวหยิงรู้สึกว่าตนได้หวั่นไหวไปแล้ว เธอคงจะชอบเขาไปแล้วล่ะมั้ง? ชอบซือถูมู่หรงไปเสียแล้ว เมื่อวันเวลาผ่านไปมันก็ได้บังเกิดเป็นความรักขึ้นมา ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีเหตุผล ถึงแม้ว่าความรู้สึกมากมาย ที่เมื่อตอนนั้นจะไม่เข้าใจมันเลย แต่ในตอนที่มันได้เปิดเผยออกมาครึ่งนึงแล้ว มันก็ไม่อาจจะยับยั้งมันไปได้อีกแล้ว

หลิวหยิงคิดว่าระดับความอดทนของแม่ตนที่มีต่อซือถูมู่หรงมันก็ได้เพิ่มสูงขึ้นแล้วเช่นกัน บางครั้งซือถูมู่หรงก็ยังสามารถมากินข้าวที่บ้านได้เลย และแม่ก็ไม่ได้มีการต่อต้านแสดงออกมาชัดเจนเลยด้วย เพียงแค่เงียบจนผิดปกติไป เธอเข้าใจ นี่คือแม่กำลังสับสนอยู่ และท่านก็ได้เริ่มที่จะค่อย ๆ ยอมรับซือถูมู่หรงขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจจะไม่มีความขุ่นข้องหมองใจอยู่เลยได้

หลิวหยิงเองก็เหมือนกัน ในใจของเขามีหนามแหลมคอยทิ่มแทงอยู่ตลอด เรื่องที่ซือถูมู่หรงได้ทำร้ายพ่อจนถึงแก่ชีวิตไปเมื่อตอนนั้น เธอคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันจะยอมรับมันได้ไปตลอดชีวิต แต่ความอ่อนโยนที่ซือถูมู่หรงได้มอบให้กับเธอมา เธอปฏิเสธมันไปไม่ได้อีกเช่นกัน ความรู้สึกทั้งสองอย่างนี้มันมีความเกี่ยวข้องกันอยู่ ทำให้หลิวหยิงตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน