“คุณแน่ใจว่าจะปล่อยมือไปงั้นเหรอ? ปล่อยมือไปจากฉันเหรอ?” หลิวหยิงจ้องมองตรงไปที่ซือถูมู่หรง คนนี้เธอคุ้นเคยดี อยู่ด้วยกันจนเช้าจรดเย็นมาห้าปีกว่า บางครั้งสายตาหนึ่งของเขา เธอก็รู้ว่าซือถูมู่หรงกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าตอนนี้สายตาของซือถูมู่หรงถึงแม้ว่าจะเยือกเย็น แต่ก็ไม่ได้แตกหักไป เหมือนกับจำใจต้องวางมือไปเลยก็ไม่ปาน
เขาโน้มน้าวตนงั้นเหรอ? หรือว่าเขาคิดตกแล้ว รู้ว่าระหว่างเขากับเธอนั้นสุดท้ายแล้วก็ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น หลิวหยิงมองซือถูมู่หรง คาดหวังว่าเขาจะสามารถให้โอกาสตนสักครั้ง และก็ให้โอกาสเขาสักครั้งนึงด้วย
หลิวหยิงไม่ได้พูดถึงลูกขึ้นมา เธอไม่อยากใช้ลูกมารั้งซือถูมู่หรงเอาไว้ ระหว่างพวกเขา ไม่ควรจะเกี่ยวโยงกันเพียงเพราะว่าเด็กคนหนึ่งเท่านั้น
ซือถูมู่หรงไม่ได้พูดอะไรออกมา เขามองหลิวหยิง ในชั่วขณะนึงก็รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงมากขึ้นมาทันที เขารับรู้ถึงมันได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกที่หลิวหยิงมีต่อเขา มันไม่ใช่การต่อต้าน เธอกำลังรอให้ตนค่อย ๆ ยอมรับเขาไปอย่างช้า ๆ ให้ทุกสิ่งอย่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมันสามารถไม่กลายมาเป็นสิ่งที่จะคอยขัดขวางกันอีกต่อไป
“หยิงเอ๋อร์...” ซือถูมู่หรงอดไม่ได้ที่จะพูดออกไป แต่พอพูดออกไปแล้ว เขาก็นึกเสียใจภายหลังขึ้นมาทันที วันนี้เขามา ไม่ใช่เพื่อที่จะมาพลอดรักกับหลิวหยิง เขามาเพื่อให้หลิวหยิงทิ้งเขาไป อีกทั้ง เขาก็ไม่มีเวลามากมาย ไม่อาจพูดกับหลิวหยิงไปให้มากมายได้
“ซือถูมู่หรง ก่อนหน้านี้คุณเคยพูดว่าจะอยู่กับฉันไปตลอด รอจนฉันจะยอมรับคุณ มาตอนนี้ นึกเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว?” หลิวหยิงถามออกไป ความรู้สึกที่ได้เผยออกมาเมื่อครู่ หลิวหยิงจับได้อย่างรวดเร็ว
“แล้วคุณล่ะ จะยอมรับผมเหรอ?” ซือถูมู่หรงฟื้นกลับมาเย็นชาเหมือนก่อนหน้านี้ “คุณถามใจตัวเองดู ว่าคุณสามารถยอมรับผมได้จริง ๆ งั้นเหรอ? ยอมรับเรื่องเมื่อตอนนั้น คุณสามารถอยู่กับผมแบบไม่มีความขุ่นเคืองใจเลยสักนิดได้จริง ๆ งั้นเหรอ?”
เป็นการถามเชิงบังคับให้ตอบ หลิวหยิงรู้สึกได้ถึงมันอย่างชัดเจน การบังคับที่ซือถูมู่หรงแสดงต่อเธอนั้นเขาต้องการคำตอบนึง ต้องการตอนนี้เลย ไม่ให้เวลาเธอได้ลดระดับแรงโจมตีให้เบาลงไปเลย
หลิวหยิงเงียบไป ความเคยชินเป็นเรื่องหนึ่ง และการที่ค่อย ๆ ยอมรับไปอย่างช้า ๆ มันก็เป็นเรื่องหนึ่ง สามารถยอมรับได้โดยสมบูรณ์มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกของตัวเองแล้ว ก็อยากจะลองดูสักหน่อย
“อันที่จริงมันไม่มีทางหรอก เพียงแค่เจอหน้าผม คุณก็จะนึกถึงการตายของพ่อของคุณเมื่อตอนนั้นขึ้นมา จะนึกถึงเรื่องที่ผมได้ทำให้คุณบ้านแตกสาแหรกขาดกัน แล้วก็การทรมานเมื่อห้าปีนั้นขึ้นมา” ซือถูมู่หรงพูดออกไปอย่างเหี้ยมโหด หลิวหยิงไม่อยากจะนึกถึง อย่างนั้นแล้ว เขาจะพูดออกมาแทนเธอเอง “ตอนนี้คุณอยากจะยอมรับผม ไม่ใช่ว่าอยากจะยอมรับผมจริง ๆ แต่เป็นเพราะว่าเด็กคนนี้ คุณใจอ่อนเพราะเด็กคนนี้ และยังอยากมอบครอบครัวที่สมบูรณ์ อนาคตที่งดงามให้กับเด็กคนนี้ ดังนั้นแล้ว คุณถึงได้ลองยอมรับผมดู ไม่ใช่เพราะว่ารักผม”
ซือถูมู่หรงจ้องมองตรงไปที่หลิวหยิง สายตาเย็นชา หลากหลายเรื่องมันก็รู้ชัดเจนกันอยู่แล้วทั้งคู่ แต่ก็ไม่อาจเอามาโชว์ออกมาให้เห็นกันได้ เพราะถ้าเกิดว่าพูดถึงขึ้นมาแล้ว ก็จะเกิดบรรยากาศคุกคามออกมา หลิวหยิงปิดซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้ ได้อ่อนลงไปทีละนิด ๆ นี่เป็นสิ่งที่เมื่อก่อนซือถูมู่หรงอยากจะเห็นมัน แต่ว่าในตอนที่ไม่ต้องการแล้ว มันก็คือมีดเล่มหนึ่งที่สามารถแทงเข้ามาในใจของหลิวหยิงไปอย่างง่ายดายได้เลย เลือดสดที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายมันได้ทำให้หลิวหยิงก้าวออกไปไม่ได้เลยแม้นเพียงแค่ครึ่งก้าว
หลิวหยิงมองซือถูมู่หรงไปอย่างเยาะหยัน ที่แท้เขาก็รู้นี่ ในเมื่อเขารู้ทุกอย่างหมดแล้ว ทำไมถึงได้มาก่อนกวนเธอต่ออีกล่ะ? สนุกมาก? หรือว่าแก้แค้นเธอที่โหดร้ายกับเขา เพราะถึงยังไง ซือถูมู่หรงที่สูงส่งเหนือใครทั้งมวล เมื่อไหร่กันที่มาถูกผู้หญิงคนหนึ่งสลัดทิ้งไป? เขาอยากได้อะไร มันไม่ใช่ว่าจะถูกใครเขาน้อมถวายให้กันอยู่แล้ว คน เกรงว่ามันก็คงจะเหมือนกัน
“ไม่เลว งั้นก็จบกันแค่เพียงเท่านี้ มันเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว” หลิวหยิงเองก็ได้สงบลงไปเหมือนกัน เขาคิดว่ามีเพียงแค่เขาที่จะวางมือไปได้งั้นเหรอ? ตั้งแต่เริ่มแรกคนที่จะวางมือไปก็คือเธอ ก็แค่อยากให้โอกาสตัวเองกับเขาไปสักครั้งนึงเท่านั้นเอง ในเมื่อมันเกินความจำเป็น อย่างนั้นก็เก็บมันกลับไปเลยจะดีกว่าเยอะ
ซือถูมู่หรงมองหลิวหยิง สายตาหม่นลง ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พ่อของหลิวหยิงก็คือเกล็ดใต้มังกรของหลิวหยิง ไม่สามารถถูกพูดขึ้นมาได้เป็นอันขาด ก่อนหน้านี้พวกเขาได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ชีวิตได้ผ่านไปอย่างสงบสุข เพียงแค่เพราะว่าทั้งสองคนต่างละเลยเรื่องบางอย่างกันไปทั้งคู่ ถึงได้อยู่ร่วมกันเป็นปกติได้ ถ้าเกิดพูดถึงขึ้นมาแล้ว แม้แต่จะพูดคุยกันมันก็ยังยากไปหมด
“ผมเองก็เพียงแค่จะมาแจ้งให้คุณทราบเท่านั้น” ซือถูมู่หรงพยายามฝืนตัวเองให้พูดออกไป สายตาของเขาได้จับจ้องไปที่บนใบหน้าของหลิวหยิง มันอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากปล่อยไป ใบหน้านี้ คนคนนี้ เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะปล่อยมือไปเลยชั่วชีวิต
ซือถูมู่หรงพยักหน้าตอบรับออกไป เขาผันร่างออกไป เดินไปก้าวหนึ่ง แล้วก็หยุดลง และก็ได้สาวเท้าเดินก้าวยาว ๆ ออกไปอีกที ไม่อาจหันกลับไปได้ ไม่ควรหันกลับไป ต้องเดินไปข้างหน้าเท่านั้น มันถึงจะสามารถเหลือทิ้งเรื่องราวในอดีตเอาไว้ได้ เขากลัวว่าถ้าหันกลับไปแล้วเห็นหลิวหยิงก็จะไม่อยากจากไปขึ้นมาอีก
หลิวหยิงมองตามซือถูมู่หรงออกไป เดินไปที่ริมหน้าต่าง มองซือถูมู่หรงกลับไปที่ในรถ เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับว่าจะเห็นซือถูมู่หรงจะโงนเงนไปเล็กน้อย จะเป็นไปได้ยังไงกันน่ะ? คงจะเป็นเพราะว่าเธอตาฝาดไปล่ะมั้ง
เมื่อกี้คุณแม่หลิวคอยฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด เธอไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกไป เห็นซือถูมู่หรงออกไป จึงได้มองไปทางหลิวหยิง สีหน้าของเธอได้สงบนิ่งเหมือนเคย ทำให้คุณแม่หลิวรู้สึกกลัวอยู่บ้าง เธอยอมให้หลิวหยิงร้องห่มร้องไห้ออกมาให้ดี ๆ เสียดีกว่า บางทีก็อาจจะเผยสีหน้าไม่มีความสุขออกมาตรง ๆ ก็ได้เลย แต่อย่าได้เป็นอย่างนี้ ใบหน้าไร้อารมณ์ จะบอกว่ามีความสุขก็ไม่ใช่ บอกว่าเสียใจมันก็เหมือนกับจะไม่เลยอีก ก็เหมือนกับไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้ายังไงออกมาดี
“หยิงเอ๋อร์?” คุณแม่หลิวเรียกหลิวหยิงไปทีนึง
หลิวหยิงถอนหายใจยาวเหยียดออกมา “แม่ ในที่สุดหนูก็สามารถมองดูไปอย่างสบายใจ ปล่อยวางไปโดยสมบูรณ์ได้เสียที” หลิวหยิงแตะไปที่ท้อง พลางพูดออกมาอย่างเนิบช้า
“อะไรนะ?” คุณแม่หลิวถามออกไปด้วยความประหลาดใจ ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้สงบนิ่งขนาดนี้กันล่ะ?
“ในที่สุดหนูก็สามารถปล่อยมือไปจากซือถูมู่หรงอย่างเป็นทางการได้เสียที” หลิวหยิงพูดอธิบายออกไป เธอใจอ่อน เพราะเด็กคนนี้ จึงยิ่งใจอ่อนมากกว่าเดิม ถึงได้ปล่อยให้ตัวเองเอาแต่สับสนมาตลอด แต่ตอนนี้ ไม่ต้องแล้ว ซือถูมู่หรงยอมแพ้ไปแล้ว ตนเองก็สามารถปล่อยวางให้กับตัวเองได้แล้วเหมือนกัน เอาความคิดทั้งหมดไปไว้ที่ตัวลูก แล้วเธอก็สามารถลดภาระทางด้านจิตใจไปได้เยอะเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...