แสงที่บริสุทธิ์ที่สุดถูกขยายโดยรอยสักมันคือลูกศรที่เทพีแห่งภูมิปัญญา
ชาวกรีกใช้ [ลูกศรแสงจันทร์ LV 11 ของ อาเธนา] พุ่งไปอย่างเงียบๆแต่มันกลับกลืนกินทั้งท้องฟ้าและพื้นดิน
เมื่อลูกศรบินข้ามท้องฟ้าโลกก็เปลี่ยนเป็นสีขาว มอนสเตอร์ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดถูกเผาทั้งเป็นโดยแสงจันทร์ที่ยิ่งใหญ่ แม้ว่ามันจะเป็นเวลาบ่ายโมง แต่ท้องฟ้าก็มืดลงเพราะแสงจันทร์ที่ส่องผ่านในความมืด
“…ขึ้นมานี่”
ผมเรียก จินซาฮยอค ที่กำลังมองมาที่ผมอยู่นาน เธอยังดูสับสนอยู่แต่ผมไม่มีเวลาเหลือแล้ว
“ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่นี่ ถ้าเธอยังไม่มา”
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก…
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าของกองทัพอสุรกายดังออกมาจากขอบฟ้า จินซาฮยอค ตกใจและมองไปตามเสียงที่ขอบฟ้าแล้วมองมาที่ผมพร้อมกระโดดขึ้นมาบนหน้าผาที่ผมยืนอยู่
“นายมาทำอะไร ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วก็….”
ผมปล่อยให้จินซาฮยอคพูดอะไรก็ไม่รู้ต่อไปและเปิดใช้พลังวิญญาณของผมออกมา ผมมุ่งเน้นพลังวิญญาณของผมไปที่ ‘การเคลื่อนไหว’ พร้อมตั้งค่าพิกัดในหัวของผมและเลียนแบบพรสวรรค์ของคาลิฟา
‘พอร์ทัล’ เนื่องจากผมใช้รอยสักไปเกือบทั้งหมดในการโจมตีครั้งล่าสุดผมจึงไม่เหลือที่จะใช้สำหรับพอร์ทัลอีกแล้ว
วิ้งงงงงงงงง…
พลังวิญญาณของผมสร้าง ‘พอร์ทัล’ และผมคว้า จินซาฮยอค และผลักเธอเข้าไปข้างในจากนั้นผมก็ตามเธอเข้าไป
พวกเรามาถึงถ้ำมืดๆบนชายฝั่งแอฟริกา
“…แก ไอ้เจ้าบ้า แกเตะฉันแล้วทำไมนายมาหาฉันทำไม”
ทันใดนั้นจินซาฮยอค ก็จับคอของผมแต่ผมแค่มองตาเธอไม่ตอบอะไร
“อะไรกัน นายจะไม่สนใจฉันงั้นเหรอ ฮะ? เอ้ะ นั่นมัน?”
เบลล์เล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับจินซาฮยอค เกี่ยวกับชีวิตที่เธอต้องใช้ชีวิตบนโลกหลังจากการตายของเธอใน อคทรีน่า เส้นทางที่เธอต้องฟันฝ่ากว่าจะถึงตรงนี้และความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญ
“เฮ้ คิมฮาจิน! คิม-ฮาจิน! คิม-ฮา-จินนนนนนนนนนน-!”
เมื่อผมได้ยินเบลล์พูดแบบนั้น ผมรู้สึกมีความหวังว่าบางทีตอนจบของนิยายที่ผมแต่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในนิยายของผมจินซาฮยอค เป็น
ตัวร้ายที่ไม่อาจยกโทษให้ได้และเป็นทรราชที่สิ้นหวัง แต่ในโลกนี้เธอเปลี่ยนไปเพราะเธอได้พบกับ ‘เบลล์’ ตัวละครที่ไม่มีตัวตนในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของผม
“นายหูหนวกหรือไง?”
แน่นอนว่าผมไม่เชื่อมั่นใน เบลล์ อย่างสมบูรณ์ผมยังมีข้อสงสัยมากมายในตัวเขาและเขามีความลับมากมายที่ผมต้องขุดคุ้ยแต่ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญ ผมไม่ได้กังวลเลย
ท้ายที่สุดผมก็มี ‘หนังสือแห่งความจริง’ อยู่กับผม
“ตอบฉัน-!”
ตอนนั้นจินซาฮยอค ก็เริ่มสั่นตัวผม ร่างกายของราวกับตุ๊กตาทำจากกระดาษเพราะความแข็งแกร่งของเธอ
ผมตอบอย่างเมินเฉยว่า “เป็นเรื่องธรรมดาที่คนรับใช้จะอยู่กับกษัตริย์ของเขา ใช่ไหม”
จินซาฮยอค ตกใจมากมือของเธอยังอยู่รอบคอของผมและเธอพูดพึมพำอย่างเย็นชา “…นั่นมันเป็นเรื่องไร้สาระ”
“เธอหมายถึงอะไร” ผมยักไหล่ของผม
ผมบอกได้เลยว่าเธอกำลังสงสัยผม ‘ไคด์สปริง’ และ ‘คิมฮาจิน’ เธอกำลังสับสนระหว่างทั้ง 2 คน
“ยังไงก็ตามฉันตัดสินใจที่จะฝึกฝนเธอแทน เบลล์ ตลอดเวลา 6 เดือนข้างหน้าหรือสั้นกว่านี้ถ้าเป็นไปได้”
“อะไรนะ?”
จินซาฮยอค จับตัวผมแน่นขึ้นในทันที
“ฝึกฝน? บ้าสิ นายเคยเจอเบลล์แล้วเหรอ? พวกนายคุยเรื่องอะไรกันบ้าง?”
“ก็ดี….แต่ก่อนอื่นเธอปล่อยฉันไปก่อนได้ไหม”
ผมมองดูคอของผม เธอจับแรงมากเกิดไปเอาแบบตรงๆผมไม่สามารถขยับได้เลย ผมรู้สึกราวกับว่าร่างกายของผมถูกผูกมัดแม้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้นกำลังกอดคอของผมเอาไว้ ความแตกต่างในค่าสถานะพื้นฐานของพวกเรานั้นต่างกันเกินไป
“ทำไมฉันถึง-”
“ไปกันเถอะ.”
ผมหน้าบึ้ง อย่างไรก็ตามจินซาฮยอค ไม่ได้ปล่อยมือและจ้องมองที่ผมในดวงตาของเธอไม่มีร่องรอยของความกลัว
‘…เมื่อไม่นานมานี้เธอไม่กล้าทำตัวแบบนี้ต่อหน้าผมนี้น่า’
“…นายคิดว่าเป็นแค่เรื่องตลกหรือไง คิดว่าฉันจะเป็นคนง่ายๆเหมือนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมางั้นเหรอ”
“อะไรนะ?”
จินซาฮยอค กัดฟันของเธอและไม่ตอบทีนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกำหนด ความสัมพันธุ์ให้ตรงกันผมเหลือรอยสักแค่ 1 เส้นแต่ผมยังมั่นใจว่าผมจะชนะ ตราบใดที่ผมมี [โชคชะตา] ผมจะไม่มีวันแพ้ จินซาฮยอค
“ปล่อยฉันก่อนที่ฉันจะนับถึง 3 ”
ผมยก 3 นิ้วขึ้นมา
” 1 2.”
ผมพับนิ้วลง 2 อัน
“3.”
แล้วก็นิ้วสุดท้ายแต่มือของจินซาฮยอค ยังคงอยู่รอบคอของผม เธอยิ้มเยาะ
“เหอะ อะไรกันนายคิดว่าฉันจะกลัวนายงั้นเหรอ”
ผมเปิดใช้ [โชคชะตา] ทันทีค่าสถานะทั้งหมดของผมเพิ่มขึ้น 300% ผมรู้สึกถึงพลังที่แท้จริงที่ครอบคลุมทั้งร่างกายของผม ผมใช้ [โชคชะตา] รวมกับ [การเร่งความเร็วเกิดขีดจำกัด] ที่แนบมากับชุดดอกบัวสีดำ
เลือดของผมสูบฉีดและความเร็วของผมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อโลกชะลอตัวลงจนหยุดลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The Novel’s Extra