ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 160

ตอนที่ 160

ตูม!

แม้มันจะเป็นเพียงภาพวาด แต่อีกาดําก็ทําให้ทุกคนรู้สึกถึงความไม่แยแสโลกของมัน พลังที่น่ากลัวและไม่อาจจินตนาการได้กดทับใส่ทุกคนในทันที มันทําให้พวกเขาตกใจจนแทบจะคุกเข่าลงบนพื้นและกัมหัวคํานับ

ในขณะเดียวกันพวกเขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า แต่ราวกับว่าพวกเข้าเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเปลวไฟปกคลุมไปทั่วทั้งโลก

น่ากลัวเกินไป!

พวกเขาทั้งหมดตัวสั่นและถอนสายตาออกจากภาพวาดอย่างรวดเร็ว

อีกาสามขาแบบนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูร แต่ทุกคนไม่สามารถรู้สึกถึงความเป็นอสูรได้เลย ตรงกันข้าม พวกเขารู้สึกว่ามันร่ํารวย

(5 = ความร่ํารวย ฟุ่มเฟือย)

ฉางชิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “นายน้อยหลี่ ในรูปคือสัตว์อสูรใช่ไหม?”

“เจ้าไม่รู้จักกันจริงๆเหรอ?”

หลี่เหนียนฟานผงะไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าและกล่าวว่า “มันถูกเรียกว่าอีกาทองคําสามขา และมันเป็นสัตว์อสูร”

อีกาทองคําสามขา?

อีกาทองคํา? ไม่ได้หมายความว่ามันเกี่ยวกับดวงอาทิตย์?

ทุกคนเลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้ เมื่อนึกถึงจินตนาการที่พวกเขาเพิ่งสร้างขึ้น และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนังศีรษะด้านชา

พวกเขาอดไม่ดีจะจ้องมองไปที่ภาพวาดอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

จากนั้นพวกเขาก็ค้นพบว่าข้างหลังอีกาสามขา แม้ว่าแสงออร่าจะถูกวาดออกมาแบบสุ่มๆด้วยพู่กัน แต่มันก็ราวกับว่าจะเป็นดวงอาทิตย์สีแดง!

ใช่แล้วมันคือดวงอาทิตย์สีแดง

มองแวบเดียวพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความเร่าร้อนและเดือดพล่าน

ลั่วฮวงกัดฟันของเขาและกล่าวว่า: “นายน้อยหลี่ ข้างหลังอีกาทองคํา มันคือดวงอาทิตย์ใช่ไหม?”

“ใช่มันคือดวงอาทิตย์

หลี่เหนียนฟานพยักหน้าและกล่าวว่า “นี่คือบุตรชายของจักรพรรดิสวรรค์ตะวันออก มันคือวิหคศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ที่บินได้ และจักรพรรดิสวรรค์กับมเหเสีให้กําเนิดพวกเขาสิบตน! “

จักรพรรดิสวรรค์ตะวันออก?

วิหคแห่งดวงตะวัน?

สิบตน

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าพวกเขาหายใจไม่ค่อยออกและหัวใจของพวกเขาเต้นแรงขึ้น

ความลับโบราณ!

มันเป็นความลับของสมัยโบราณแน่นอน!

พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ หลี่เหนียนฟานโดยไม่กระพริบตาและเขาก็สัมผัสได้ถึงความปรารถนาของทุกคน

เล่าต่อ!

ผู้คนในโลกแห่งการฝึกตนยังคงชอบฟังเรื่องราวเกี่ยวกับตํานาน อาจเป็นเพราะพวกเขามักหมกมุ่นและโหย หาสิ่งที่เป็นอมตะ

ถ้าเขาหยุดพูดอย่างกะทันหันพวกเขาอาจระเบิดความโกรธออกมาได้

งั้นข้าควรเล่าให้สั้นๆดีกว่า

หลี่เหนียนฟานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า: “เด็กทั้งสิบคนคือดวงอาทิตย์ พวกเขาอาศัยอยู่บนสวรรค์ เดิมที่พวกเขาจะออกไปเป็นแสงส่องสว่างให้โลกครั้งละหนึ่งตน แต่วันหนึ่งดวงอาทิตย์ทั้งสิบดวงอยากจะเล่ นด้วยกัน พวกเขาทั้งสิบเลยออกไปพร้อมกัน “

555+ พอไปค้นหามันเป็นบริษัท00cl เลยแปลว่า สวร

(ที่ๆดวงอาทิตย์ทั้งสิบอาศัยอยู่ มันเป็นประโยคนี้ รค์ แทนนะครับ )

เมื่อพูดถึงจุดนี้หลี่เหนียนฟานก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่การแสดงออกของพวกเขา แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขามีใบ หน้าที่หวาดกลัวและหัวใจของเขาก็กังวลในทันที

ฉินหม่านหยุนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และอดไม่ได้ที่จะอุทานว่า “ดวงอาทิตย์สิบดวง?”

คนอื่น ๆ ก็กลืนน้ําลายลงคอและอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าหากมีดวงอาทิตย์สิบดวงปรากฏขึ้น มันจะเป็นภาพยังไง

พวกเขาต้องการกระตุ้นให้หลี่เหนียนฟานพูดเร็ว ๆ แต่โชคดีที่พวกเขาเก็บคําพูดนั้นไว้และกลืนมันกลับลง

หลี่เหนียนฟานไม่ปล่อยให้ทุกคนรอนานเกินไปและพูดต่อ: ภายในสิบวัน พวกเขาฆ่าพืชและต้นไม้ ผู้คนไม่มีที่ทํามาหากินและอดยาก ในตอนนั้นเอง ชายที่ชื่อโฮวอี้ ได้ปรากฏตัวขึ้น ทักษะการยิงธนูของเขาโดดเด่นมาก เขามาที่ฝั่งทะเลจีนตะวันออกปีนขึ้นไปบนภูเขาสูงชันในทะเลจีนตะวันออก เขาง้างคันศรและยิงดวงอาทิตย์ตกทีละดวง ทีละดวง จนเหลือเพียงหนึ่งดวงบนท้องฟ้า!”

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าวิญญาณของพวกเขากําลังสั่นสะท้านและพวกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้ยิน

พวกเขาจินตนการถึงจุดจบเรื่องราวไว้มากมาย ไม่มีอะไรมากไปกว่าการถูกโน้มน้าวหรือถูกจักรพรรดิด้อยค่า หรือทั้งสิบเหนื่อยล้าจากการเล่น พวกเขาจึงกลับไป แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะถูกยิงและถูกฆ่าตาย!

พวกเขาไม่เคยกล้าคิดถึงเรื่องนี้เลยจริงๆ!

นั่นคือดวงอาทิตย์

แม้จะเพียงจ้องมองขึ้นไปพวกเขาก็รู้สึกร้อนและถูกกดดัน? แต่เก้าในสิบกลับถูกยิงตาย!

ต้องมีพลังขนาดไหนถึงจะทําได้!

“เอาล่ะ เราหยุดพูดถึงเกี่ยวกับภาพวาดนี้กันเถอะเดี๋ยวมันจะยาวเกินไป” หลี่เหนียนฟานยิ้มและพูดว่า: “อันที่จริงมันเป็นแค่เรื่องเล่า ไม่ใช่เรื่องจริง”

ถ้าไม่ใช่เพราะการทําให้ภาพวาดที่เขามอบให้จะมีความหมายและดูมีคุณค่ามากขึ้น หลี่เหนียนฟ่านจะไม่เล่าเรื่องนี้เลย ถ้าคนอื่นไม่รู้จักเรื่องเล่า ภาพวาดจะดูไร้ค่าเกินไป

เมื่อมันมีเรื่องราว ภาพวาดจะดูมีค่าขึ้นมาทันตาเห็น

หัวใจของพวกเขาผันผวนอยู่ตลอดเวลาและยากที่จะสงบลงเป็นเวลานาน

ถ้าเราเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องจริงแสดงว่าเราโง่!

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเล่า แต่เป็นสิ่งที่นายน้อยหลี่พบเจอมากับตัว ไม่เช่นนั้นเขาจะวาดอีกาสีทองสามขานี้ได้อย่างไร?

แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็ถูกสังหารได้ นั้นคือความสามารถของผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ!

เป็นเพราะมันเป็นเรื่องในสมัยก่อน? นายน้อยหลี่เลยไม่ต้องการพูดต่อ มีโอกาส 8 ส่วน ที่เขาไม่อยากจําสิ่งเหล่านั้นในตอนนั้น ก็เหมือนกับเราที่ไม่อยากพบเจอเรื่องน่าเศร้า

ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน นายน้อยต้องเห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มามากเกินไป หัวใจของเขาจึงอยากเป็นคนธรรมดา

แม้ว่าพวกเขาจะอยากได้ยินเรื่องราวในสมัยโบราณ แต่ในเมื่อนายน้อยหลี่ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ พวกเขาจึงก็ไม่กล้าขอร้องให้เล่าต่อได้แต่ยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านข้าง

หลี่เหนียนฟานกล่าวว่า “อีกาทองสามขาเหล่านี้สามารถถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิในหมู่อสูร ข้าหวังว่าเจ้าหุบเขาก่จะชอบมัน”

“ข้าชอบมันมากจริงๆ ขอบคุณนายน้อยหลี่สําหรับภาพวาด!”

ก่ฉางชิงพยักหน้าซ้ํา ๆ เกือบจะร้องไห้ด้วยความตื่นเต้นและตัวสั่น ก่อนยื่นมือออกไปรับอย่างระมัดระวัง

พี่น้องคู่และผู้อาวุโสทั้งสามคนของหุบเขาเมฆครามก็สั่นสะท้านทั้งร่างกายและจิตใจเช่นกันและสมองของพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสภาพมึนงง

แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

หุบเขาเมฆครามกําลังจะแข็งแกร่งขึ้น!

นี่คือภาพวาดของปรมาจารย์และภาพวาดยังคงเป็นภาพวาดที่แสดงถึงดวงอาทิตย์!

! ข้ากลัวว่าแม้แต่เซียนก็ต้องมองว่ามันเป็นสมบัติสุดล้ําค่า!

ล้ําค่าเกินไป!

เขาไม่เคยกล้าที่จะคิดถึงเรื่องแบบนี้และเกือบจะเป็นลม

สําหรับ ลั่วฮวงและคนอื่น ๆ พวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาและอยากได้ภาพวาด แม่ใบหน้าของพวกเขาจะทําเป็นว่ายินดีกับคู่ฉางชิง แต่หัวใจของพวกเขากําลังเลือดออก

เฮ้มันยากเกินไปสําหรับข้า!

ประจบ!

หลังจากกลับไปแล้ว ข้าต้องตั้งใจประจบประแจงให้มากๆ!

หลี่เหนียนฟานเห็นว่าคู่ฉางชิงมีความสุขจากกันบึงของหัวใจ เขายิ้มและพูดต่อเล็กน้อย: “ถ้าท่านชอบมันก็ดี งั้นข้าขอตัว ลาก่อน!”

“ข้าขอไปส่งนายน้อ

ก่ฉางชิงเดินไปส่งหลี่เหนียนฟานออกจากแท่นสูง จากนั้นเขาก็เฝ้ามองเรือลมปราณจากไปอย่างไม่เต็มใจ

หลี่เหนียนฟานยืนอยู่บนเรือเหาะและโบกมือลาพวกเขา ก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างไม่เต็มใจ

ผู้ฝึกตนที่มีมารยาทและรอบคอบแถมใจดีขนาดนี้หาได้ยากจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่