ลั่วซือหยูมีความคิดมากมายอยู่ในสมอง ส่วนหลี่เหนียนฟ่านก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
เล่นพิณ ปลูกดอกไม้ ตกปลา เขียนกลอน และวาดภาพเมื่อเขาสนใจ
ในวันนี้ขากำลังนั่งตกปลาอยู่ริมสระน้ำในสวนหลังบ้าน ส่วน ต้าเฮยกำลังนอนเล่นจ้องมองไปที่บ่อน้ำอย่างเงียบ ๆ
““ แปลก ข้าตกได้ปลาเยอะมากในทุกเดือน ทำไมช่วงนี้จตกปลาไม่ได้สักที””
หลี่ เหนียนฟ่าน ถือคันเบ็ดค่อย ๆ ขมวดคิ้วและมองไปที่ ต้าเฮยอย่างสงสัย ““เจ้าขโมยไปหรือเปล่า ข้าจำได้ว่าตอนแรกมีปลาคาร์ปสีทอง แต่ตอนนี้ข้าไม่เห็นมันเลย””
ต้าเฮยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและส่ายหัวไปมาเหมือนมนุษย์
“ดูเหมือนว่าข้าทำได้เพียงลงเลาไปซื้อปลาไ”
หลี่เหนียนฟ่านไม่ได้คิดมาก เมื่อเห็นว่าตกปลาไม่ได้สักที เขาจึงทิ้งเบ็ดตกปลาแล้วลุกขึ้นเพื่อลงไปจากภูเขา
การตกปลาช่วยให้ผ่อนคลายทำให้ร่างกายและจิตใจสงบจากภายในสู่ภายนอก หลี่เหนียนฟ่านสนุกกับความรู้สึกนี้มาก ในขณะเดียวกันเขาก็ชอบความอร่อยของปลา แต่น่าเสียดายที่เขากินมันในวันนี้ไม่ได้
“เสี่ยวไป๋ เจ้าเฝ้าบ้านรอนะ”
“ขอรับ นายท่าน”
มนุษย์หนึ่งคนและสุนัขหนึ่งตัวเดินลงจากภูเขาด้วยกัน
ตลอดห้าปีที่ผ่านมา แม้ว่า หลี่เหนียนฟ่านจะมีชีวิตที่คล้ายกับการอยู่อย่างสันโดษ แต่เขาก็ไม่ได้แยกตัวออกจากโลกภายนอก เขาไม่ใช่เซียนตัวจริง เขาคงเป็นบ้าถ้าไม่ได้เจอคนอื่นนาน ๆ ภูเขาที่เขาอาศัยอยู่อย่างสันโดษนั้นอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง
เมืองนี้มีชื่อว่า ลั่วเซียน มีผู้คนจำนวนมากในเมืองนี้ และยังมีผู้ฝึกตนบางคนที่ปักหลักอาศัยอยู่ที่นี่ ทั้งยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ฝึกตนบางคนที่ได้พบกับคนที่ถูกชะตาและรับเป็นลูกศิษย์
“เฮ้ นายน้อยหลี่มาปแล้ว”
“นายน้อยหลี่ ท่านลองมาชิมซาลาเปาของข้า ข้าไม่คิดเงินท่าน”
““ นายน้อยหลี่ ท่านวางแผนจะซื้ออะไร เข้าเมืองคราวนี้ท่านต้องอยู่ให้นานๆหน่อยนะ””
““ ใช่ ข้ายังมีเรื่องจะถามท่านอีกมาก””
เมื่อเขาเข้ามาในเมือง คนรู้จักมากมายทักทายหลี่เหนียนฟ่าน
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา หลี่เหนียนฟ่านได้ลงจากภูเขาเป็นครั้งคราว แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่ภายใต้การฝึกฝนอย่างเป็นระบบจากระบบ เขาก็มีความสามารถหลากหลาย เขาให้ความรู้เป็นครั้งคราว เวลาเจอคนป่วยก็จะช่วยเหลือ หลายคนในลั่วเซียนได้รับการช่วยเหลือจากเขา
หลี่เหนียนฟ่านตอบรับผู้คนด้วยรอยยิ้ม เขามาที่ตลาดการค้าในเมืองลั่วเซียน และเดินไปที่แผงขายปลาที่มาซื้อประจำ
“นายน้อยหลี่ ท่านมาซื้อปลาหรือ” เจ้าของร้านกับหลี่เหนียนฟ่านรู้จักกันอยู่แล้ว เขาก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม
หลี่เหนียนฟ่านพยักหน้าและกล่าวว่า “คราวนี้ข้าขอซื้อเพิ่มสองเท่า!”
“ได้สิ!” เจ้าของร้านหัวเราะและพูดขณะจับปลา “นายน้อยหลี่ ท่านเพิ่งซื้อไปมาเมื่อไม่นานมานี้ ทำไมท่านถึงต้องการมากขนาดนี้?”
หลี่เหนียนฟ่านถอนหายใจเบา ๆ : “อย่าพูดถึงมันเลย ข้าจำได้ว่าข้าเก็บปลาไว้ในบ่อแน่ๆ แต่ตอนตกปลาข้ากลับไม่ได้สักตัว”
การเคลื่อนไหวของเจ้าของร้านหยุดนิ่ง เขาลดเสียงลงและพูดอย่างระมัดระวัง “นายน้อยหลี่ นี่เป็นเรื่องผิดปกติไปหน่อยนะ”
“ข้าก็คิดอย่างนั้น”
เจ้าของแผงลอยเตือนว่า: “นายน้อยหลี่ข้าคิดว่าควรระวังไว้ดีกว่า อาจมีสัตว์อสูรอยู่ในสระน้ำ ดังนั้นท่านควรอยู่ห่าง ๆไว้ดีกว่า “
หัวใจของ หลี่เหนียนฟ่านพองออกมา
คงไม่มีสัตว์อสูรอยู่จริง ๆ หรอกใช่ไหม?
ปลาทั้งหมดที่เขาเลี้ยงถูกสัตว์อสูรกินหรือ?
เขารู้สึกว่างเปล่า เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเป็นเวลากว่าห้าปีแล้วเขาไม่เต็มใจที่จะย้ายไปไหน และถ้าเขาย้ายออกไปก็ไม่สามารถหาที่อยู่ใหม่ได้
““ นายน้อยหลี่ ข้าบังเอิญมีเต่ายักษ์อยู่ตัวหนึ่ง เต่าตัวนี้ขี้เกียจมาก มันจะขึ้นมาจากน้ำเพื่ออาบน้ำตอนเที่ยงของทุกวัน ท่านสามารถส่งมันลงในบ่อได้ ถ้ามันปลอดภัย หมายความว่าบ่อนี้ไม่มีอะไร ” เจ้าของร้าน สังเกตเห็นหลี่เหนียนฟ่านครุ่นคิด
นี่เทียบเท่ากับการใช้เต่าสำรวจทาง ถ้ามันไม่ออกมาจากบ่อตอนเที่ยง มีโอกาสสูง ที่จะถูกกินโดยสัตว์อสูร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่