ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 5

สรุปบท ตอนที่ 5: ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่

สรุปตอน ตอนที่ 5 – จากเรื่อง ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 5 ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้นบนภูเขา

““ ข้าคิดว่ามันคงเป็นอสูรร้ายถึงกล้าอาละวาดขนาดนี้ ที่แท้มันเป็นแค่เพียงเสือดาวเอง!”

“เจ้าเสือดาว รีบตายได้แล้ว พวกเราจะเมตตาให้ร่างกายของเจ้ายังคงสมบูรณ์!”

ชายหนุ่มสองคนและผู้หญิงอีกคนกำลังล้อมเสือดาวเป็นรูปสามเหลี่ยม

“ฮ่า ๆ ฮเด็กน้อยตัวเหม็นทั้งสาม กล้าที่จะขู่ข้ารึ วันนี้พวกเจ้าคืออาหารของข้า!” เสือดาวจิงหัวเราะ ร่างกายของมันกลายเป็นร่างมนุษย์ แต่แขนขาและศีรษะยังคงเป็นเสือ

““ หยุดพูดไร้สาระ ตายยยย!””

ทั้งสามคนวางกระบี่ยาวต่อหน้าตนเองและใช้นิ้วเช็ดกระบี่และพูดอย่างพร้อมเพรียงกันว่า: “วิชากระบี่จักรพรรดิ!”

กระบี่ยาวสามเล่มพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าโดยล้อมลูกแก้วของเสือดาวไว้ตรงกลาง และปราณจากกระบี่ก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

““ โฮ๊กกกกกกกกกกกกก!””

อสูรเสือดาวคำรามและเปิดปากของมันแก่นอสูรสีทองที่ส่องแสงสีแดงแปลก ๆบินออกจากปากของมัน

แก่นอสูรก่อตัวเป็นโล่แสงปกป้องอสูรเสือดาว

กริ๊ง!

กระบี่ยาวไม่สามารถทะลวงการป้องกันของโล่แสงได้

ทั้งสามคนตกใจและพูดไม่ออก: “เป็นไปได้ยังไง”

พวกเขาทั้งสามคนเป็นเพียงผู้ฝึกตนที่เพิ่มเริ่มหัดเดิน พวกเขาคิดว่าเหตุการณ์นี้จะทำให้เป็นกลายวีรบุรุษผู้กล้าหาญและสร้างชื่อให้กับตัวเอง แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับสัตว์อสูรที่ทรงพลังเช่นนี้

“อยากเป็นวีรบุรุษหลังจากผ่านการฝึกฝนมาไม่เพียง2-3ปีงั้นเหรอ นายท่านเสือดาวผู้นี้อยู่ระดับรากฐานการฝึกตนมามากกว่าสองร้อยปีแล้ว ข้าสามารถฆ่าเจ้าได้ด้วยมือเดียว!”

เมื่ออสูรเสือดาวได้รับชัยชนะ ดวงตาของมันเป็นประกายอย่างรวดเร็ว และแก่นอสูรก็เปล่งแสงสีแดงสามดวงยิงไปที่พวกเขาทั้งสามคน

ผู้ฝึกตนทั้งสามไม่สามารถหลบหนีได้ พวกเขาทรุดลงกับพื้นในทันที กระบี่ยาวสูญเสียพลังและตกลงไปที่พื้น

อสูรเสือดาวนำแก่นอสูรกลับและมองไปที่เด็กทั้งสามคน และในที่สุดก็จ้องมองไปที่หญิงสาว

มันเลียลิ้นของมัน “มนุษย์ผู้หญิงมีผิวที่บอบบางและเนื้อนุ่ม นางต้องอร่อยแน่”

อีกสองคนเป็นกังวลทันทีและตาแดงก่ำ ““ ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรน้องสาวของข้า เจ้าจะตายโดยไร้ที่ฝัง!””

“พวกเราเป็นศิษย์ของนิกายหมื่นกระบี่อมตะ และนิกายหมื่นกระบี่อมตะจะตามล่าเจ้าไม่รู้จบ!”

“ถิ่นทุรกันดารอย่างนี้งี้ ทำไมข้าจะไม่กล้า ข้าจะกินน้องสาวคนสวยของเจ้าอย่างช้าๆ!” เสือดาว จิง กล่าวอย่างโหดเหี้ยม

หัวใจของคนทั้งสามนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้า

เด็กหนุ่มอีกสองคนรีบพูดว่า: “ปล่อยน้องสาวข้า ถ้าเจ้าอยากกินก็กินเราก่อน!”

เสือดาวไม่สนใจและเดินเข้าไปหาหญิงสาวทีละน้อย

ฉา ฉา ฉา

ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น

พวกเขาทั้งสามออกมาจากความสิ้นหวังและเงยหน้าอย่างมีความหวัง

แต่เมื่อเห็นว่ามีสุนัขสีดำตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นช้า ๆ และเดินมาที่นี่อย่างไม่เร่งรีบ

จิตใจของพวกเขาตกจากสวรรค์ลงนรกหัวใจพวกเขาเย็นเฉียบ

เสือดาวจิงพูดอย่างเย็นชา: “หมาตัวนี้มาจากไหนกัน วันนี้ท่านเสือดาวอารมณ์ดีและจะไม่กินเจ้า ไปซะ!”

สุนัขสีดำยังคงยืนอยู่ตรงจุดนั้นและอ้าปากอย่างไม่คาดคิด พูดอย่างเย็นชาว่า: “เสือดาว ตัดสินใจดี ๆ อย่าบังคับให้ข้าต้องลงมือ”

“หือ? มันกลายเป็นสัตว์อสูรหมาน้อย!”

เสือดาวตกตะลึงไปชั่วขณะแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ: “หมาดำ เจ้าโง่ใช่ไหม เจ้ารู้ไหมว่ากำลังพูดกับใคร”

อีกสามคนก็ตกตะลึงไม่แพ้กันและเกือบจะคิดว่าพวกเขาหูฝาดไป

อสูรสุนัขตัวนี้หยิ่งเกินไปแ

““ นายของข้ากำลังจะมาเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นข้าจะไม่พูดเรื่องไร้สาระกับเจ้า”” ต้าเฮยส่ายหัวและทำท่าหยิ่งผยองถึงขีดสุด ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาของมันเป็นแค่สุนัขสีดำธรรมดา คนอื่น ๆ ก็คงคิดว่ามันเป็นอสูรที่ทรงพลัง

“ฮิ ๆ หาที่ตาย!”

เมื่อทั้งสามคน เห็นสิ่งนี้ เลือดในร่างกายของพวกเขาก็แข็งตัว เส้นขนของพวกเขาตั้งชันขึ้น หัวใจของพวกเขาก็แทบจะหลุดออกมา

นี่คืออสูรสุนัขที่มีอุ้งเท้าปกคลุมท้องฟ้า แม้แต่เจ้านิกาย หรือกระทั่งนิกายของพวกเขา ก็ไม่สามารถหยุดอุ้งเท้านี้ได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้ผู้อาวุโสสุนัขกำลังถูกตบหัว โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!

พวกเขาไม่กล้ามองไปมากกว่านี้เพราะกลัวว่าผู้อาวุโสสุนัขจะโกรธ

หลังจากให้บทเรียนกับ ต้าเฮย หลี่เหนียนฟ่านก็มองไปข้างหน้า

ชายและหญิงสองคนรวมทั้งศพเสือดาวที่มีเลือดไหลออกมานอนสลบไสลอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ไกล

ดูเหมือนว่าอสูรเสือดาวจะถูกปราบโดยผู้ฝึกตนทั้งสามคน เขาโชคดีและพบกับสถานการณ์ที่ดีที่สุด

หลี่เหนียนฟ่านรีบวิ่งไปตรวจสอบสถานการณ์ของแม่หนูน้อยนางเพียงสลบเท่านั้น

“ข้าชื่อหลี่เหนียนฟ่าน วันนี้ข้าอยากจะขอบคุณวีรบุรุษทั้งสามที่สังหารอสูรร้ายลงได้ พวกท่านไม่เพียง แต่ช่วยเด็กน้อย แต่ยังทำให้เมืองลั่วเซียนกลับมามีความสงบสุข” เขาขอบคุณทั้งสาม

พวกเขาทั้งสามรู้สึกอาย จึงตอบอย่างอ่อนแรงว่า “นายน้อยหลี่เป็นคนสุภาพ เราไม่ได้พยายามอะไรมากเลย”

พวกเขาพบว่า หลี่เหนียนฟ่านไม่มีความผันผวนของพลังปราณใด ๆ ทั่วร่างกายของเขา ไม่ว่าจะมองอย่างไรเขาก็เป็นมนุษย์ และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบพูดในใจว่า:‘”ผู้อาวุโสปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนมาก’”

เหนียนฟ่าน เหนียนฟ่าน ไม่ใช่ว่าชื่อของเขาสื่อถึงฟ่านเฉิน(凡尘)หรือ

(凡尘 แปลว่า โลกในทางพุทธหรือเต๋า)

ไม่น่าแปลกใจที่มีผู้เชี่ยวชาญซ่อนตัวอยู่ในโลกมนุษย์นี้ได้ และแม้แต่ชื่อของเขาก็ดูมีศิลปะ สมควรเป็นผู้เชี่ยวชาญ!

ต่อหน้าผู้อาวุโสแบบนี้มันคงเป็นเรื่องโกหกที่จะบอกว่าพวกเขาไม่ประหม่า

หญิงสาวที่สวมชุดสีฟ้าพูดเบา ๆ ว่า ” ไป๋ลั่วซวง คารวะนายน้อยหลี่ สองคนนี้เป็นพี่ชายของข้า ลัวห่าว และ ฉินจู”

““ แท้จริงแล้วคือแม่นางไป๋ กับวีรบุรุษฉินและวีรบุรุษลัว”” หลี่เหนียนฟ่านกล่าวสวัสดีทีละคน เมื่อมองไปที่ร่างของเสือดาวเขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

ที่แท้อสูรเสือดาวมีรูปร่างเหมือนเสือดาวธรรมดา แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสัตว์อสูรในโลกแห่งการฝึกตน และมันก็ยังอยู่ใกล้มาก แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถมองเห็นขั้นตอนในการฆ่าสัตว์อสูรลงได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่