ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 156

กระสุนตกกระทบไหล่ของเคนเนดี้ รอสซี เนื่องจากกระสุนติดอยู่ในกระดูกของเขา มันจึงทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

“นายพูดถูก แน่นอนว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม แทนที่จะเป็นพวกเรา แต่มันจะเป็นนายและตระกูลรอสซีทั้งหมด!” ไทร์กล่าว

ทันทีที่เขาพูดคำเหล่านั้น เคนเนดี้ ลูกน้องของเขารวมไปถึงสาวผมสีบลอนด์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขา รู้สึกราวกับว่าพวกเขาเพิ่งเคยได้ยินเรื่องตลกที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ทำไมชายหนุ่มผู้นี้จากจักริวรรดิเซเลสเชียลถึงมั่นใจขนาดนั้น?

เขากำลังท้าทายตระกูลรอสซี ซึ่งเป็นหนึ่งในหกตระกูลที่โดดเด่นที่สุดของมิลานในอิตาลีเขาไม่รู้หรือว่า ความสามารถของเขามีขีดจำกัด?

เมื่อถึงตอนนั้น เคนเนดี้ก็รู้สึกชาจากความเจ็บปวดทั้งหมดแล้ว พูดตามตรง หลังจากยิงครั้งที่สอง เขาไม่รู้สึกว่าเขาเจ็บปวดมากเท่านี้อีกต่อไป เคนเนดี้เริ่มหัวเราะออกมาดัง ๆ เหมือนคนบ้า หลังจากนั้นเขาเริ่มวิ่งหนีไปในขณะที่เขาตะโกนร้อง “จับมัน ไม่มีกระสุนอยู่ในปืนแล้ว!”

มิคาเอลและแอลเลนต่างก็สะดุ้ง

ในขณะเดียวกันไทร์ ยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม เขาไม่ได้พยายามวิ่งตามเคนเนดี้หลังจากที่เขาหนีไปได้

ในความเป็นจริงไทร์รู้ว่า ในปืนมีกระสุนเพียงสามนัดในขณะที่เขาถือมันไว้ในมือ ไทร์เคยบอกแม็กซ์ ชีเวอร์ว่า เขาเก่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ ดังนั้น เรื่องปืนและปืนไรเฟิลเขาก็เก่งไม่แพ้กัน เขาจึงสามารถระบุจำนวนกระสุนในปืนได้เมื่อเขาหยิบมันขึ้นมาโดยการตรวจสอบรุ่นและน้ำหนักของปืน ยิ่งกว่านั้น เขาได้จงใจใช้กระสุนจนหมดด้วยเหตุผลง่าย ๆ

ไทร์มีวิธีจัดการกับเคนเนดี้มากมายนับไม่ถ้วน อันที่จริง สิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ไม่ใช่การจับกุมผู้รับผิดชอบ มันเป็นเพียงการแก้แค้นแทนมิคาเอล

“ฉันต้องการให้มันมีชีวิตอยู่ ฉันอยากทรมานมันช้า ๆ และปล่อยให้มันรู้ว่าความสิ้นหวังที่แท้จริงคืออะไร” เคนเนดี้คำรามราวกับสัตว์เดรัจฉาน

ชายร่างใหญ่ชุดดำทั้งยี่สิบคนเล็งปืนไปที่ ไทร์ในขณะที่พวกเขาเริ่มล้อมไทร์เอาไว้

"มันจบแล้ว" แอลเลนและมิคาเอลรู้สึกขนลุกทั่วหนังศีรษะ

ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่พวกเขาสามคนที่มีปัญหาหนักหน่วง แต่กุชชี่ทั้งหมดก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันเพราะสิ่งที่พวกเขาทำกับตระกูลรอสซี

อย่างไรก็ตามไทร์เริ่มยิ้มอย่างผิดปกติ

“เคนเนดี้ รอสซี นายรู้ไหมว่านายกำลังเข้าใกล้นรกมากขึ้นเรื่อย ๆ? อันที่จริงแล้วไม่ใช่แค่นาย แต่นายและตระกูลรอสซีทั้งหมดของนายกำลังมุ่งหน้าลงสู่นรก” ไทร์กล่าว

“เรื่องตลกของแกไม่ตลกเอาซะเลย” เคนเนดี้ตะคอก

“นั่นไม่ใช่เรื่องตลก มันเป็นคำเตือน ไม่เคยมีใครกล้าชี้ปืนมาที่ฉัน เพราะใครก็ตามที่เคยทำเช่นนั้น มันผู้นั้นได้ตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันจะเสนอโอกาสให้นายกอบกู้ตระกูลรอสซีของนาย ถ้าพวก

นายทุกคนฆ่าตัวตายด้วยปืนของนายตอนนี้ ฉันอาจพิจารณาปล่อยให้ตระกูลรอสซีมีชีวิตอยู่ต่อได้ นายมีเวลาเพียงสิบวินาทีในการพิจารณา!” ไทร์กล่าว

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกสับสน อันที่จริง แม้แต่มิคาเอลและแอลเลนก็คิดว่าไทร์เป็นบ้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ไทร์เพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า มีปืนมากกว่ายี่สิบกระบอกชี้มาที่เขาในขณะที่เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อตั้งเวลา

“สิบ เก้า แปด” ไทร์เริ่มนับ

***

“จับไอ้โง่นั่นซะ มันเป็นแค่เศษขยะ!” เคนเนดี้ตะโกน

“สาม สอง หนึ่ง หมดเวลาแล้ว” ไทร์กล่าว

เมื่อชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินไปหาไทร์ ไทร์ก็เงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ชายคนนั้น ทว่ารอยยิ้มที่เขามอบให้นั้นเปรียบเสมือนรอยยิ้มจากเทพมรณะ

ปี๊น ปี๊น ปี๊น

ทันใดนั้น เสียงรถยนต์บีบแตรก็ดังขึ้นจากด้านนอกคฤหาสน์รอสซี

หลังจากนั้น ทุกคนสามารถเห็นรถยนต์หรูหราถูกขับเข้ามาข้างในทีละคัน รถหรูแต่ละคันมีธงเล็ก ๆ อยู่ข้างหน้า ธงทั้งหมดมีโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ ในขณะนั้น ทุกคนที่อยู่ในนั้นต่างก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก

“นกอินทรีหัวขาวเป็นตัวแทนของตระกูลคิฟเฟอร์” ใครบางคนกล่าว

“แกะขาวเป็นตัวแทนของตระกูลแฟนติน” บุคคลนั้นกล่าวเสริม

“ภูเขาไฟสีแดงเป็นตัวแทนของตระกูลดามาร์ช” ใครบางคนกล่าวเสริม

***

"เกิดอะไรขึ้น?" มีคนถาม

ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกสูญเสีย แม้แต่เคนเนดี้ก็ยังตกอยู่ในสภาพที่ไม่เชื่อสายตา ทำไมผู้คนจากครอบครัวเหล่านี้ถึงมาที่คฤหาสน์ของตระกูลรอสซี?

ไม่นาน รถยนต์หรูก็หยุดอยู่ข้างหลังไทร์ เมื่อเปิดประตูออก ชายแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสก็ก้าวออกจากรถแต่ละคัน

“ตระกูลคิฟเฟอร์ ตระกูลแฟนติน ตระกูลดามาร์ช ตระกูลลูคัส ตระกูลราอูซ์” ใครบางคนกล่าว

“สวัสดีครับมิสเตอร์ซัมเมอร์!” ผู้ชายทั้งหมดพูดพร้อมกัน

บรึม…

เคนเนดี้รู้สึกราวกับว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด

ในขณะเดียวกัน มิคาเอลและแอลเลนก็รู้สึกปวดที่หัวเช่นกัน ผู้ใต้บังคับบัญชามากกว่ายี่สิบคนของเคนเนดี้ รีบเอาปืนลงกันอย่างพลันวัน นั่นเป็นเพราะว่าไม่มีใครกล้าเล็งปืนไปที่คนเหล่านั้นได้

นอกเหนือจากตระกูลรอสซีแล้ว พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นหัวหน้าของตระกูลที่โดดเด่นอีกห้าตระกูล

ไทร์ ซัมเมอร์ คือใคร? เขาไม่ใช่เด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าจากจักรวรรดิเซเลสเชียลหรอกหรือ? เขาจะได้รับการสนับสนุนจากห้าตระกูลที่โดดเด่นในมิลานได้อย่างไร? คงต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่นอน บางทีมันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ

เคนเนดี้ส่ายหัวอย่างต่อเนื่อง

“ลูคัส บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น? นี่มันหมายความว่ายังไง? ทำไมทั้งห้าตระกูลถึงมาอยู่ที่นี่?” เคนเนดี้มองดูไปยังชายคนหนึ่งที่มีผมสีขาว

โดยปกติ ตระกูลลูคัสและตระกูลรอสซีจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้นลูคัสและเคนเนดี้จึงถือเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น ลูคัสมองดูเคนเนดี้อย่างดูถูก

“เคนเนดี้ รอสซี นายกล้าหาญเกินไปสำหรับผลประโยชน์ของตัวเอง นายกล้าดียังไงไปยุ่งกับมิสเตอร์ซัมเมอร์ ฉันเกรงว่าตระกูลของนายจะหายไปจากมิลานอย่างถาวรนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” ลูคัสกล่าว

"อะไรนะ?" เคนเนดี้รู้สึกราวกับว่าฟ้าผ่าลงมากระทบเขา

“ฮ่า ฮ่า นี่มันอะไรกัน? วันนี้เป็นวันโกหกเหรอ?” เขาเริ่มหัวเราะเสียงดัง

“แม้ว่าชายผู้นี้จากจักรวรรดิเซเลสเชียล จะเป็นคนเรียกนายออกมา แล้วยังไงล่ะ? นายคิดว่านายเป็นตระกูลแฮริออทแห่งอิตาลีหรือยังไง? นายคิดว่านายสามารถทำให้ตระกูลรอสซีหายไปได้เหรอ? น่าตลกอะไรเช่นนี้” เคนเนดี้เพิ่งพูดจบ เมื่อได้ยินเสียงรถอีกคันที่ขับเข้ามา

หลังจากนั้นไม่นาน มีรถยนต์มากกว่าหนึ่งโหลเข้ามาในบริเวณนั้น รถแต่ละคันมีธงเล็ก ๆ อยู่ข้างหน้า

ทันใดนั้น เคนเนดี้ก็ล้มลงกับพื้น ธงนั้นมีโลโก้ของทหารเสือทมิฬ มันคือโลโก้ของตระกูลใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ตระกูลแฮริออท!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ