ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 168

ถัดจากพลูโต คนผิวดำและแบล็กโรสก็เงยหน้าขึ้นเช่นกัน รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าของพลูโต จากนั้นพวกเขาเดินออกไปที่ประตู

เสียงนกส่งเสียงร้องดังออกมาจากภายในสวน ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะเก้าโมงเช้าแล้ว แสงแดดจ้าที่ให้ความอบอุ่น ในขณะที่ไทร์และแมทธิวเดินไปยังคฤหาสน์ รัศมีที่พวกเขาเปล่งออกมาดูเหมือนจะลดอุณหภูมิรอบตัวพวกเขาลงทันที

ในที่สุดไทร์แลแมทธิวก็ก้าวเข้าสู่ธรณีประตูของคฤหาสน์และเดินเข้าไปข้างใน

ตรงข้ามของพวกเขา พลูโตและคนอื่น ๆ ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

เมื่อสบตากัน ริมฝีปากของพลูโตก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ

“นายแห่งตำหนักราชันย์เรย์น ไทร์ ซัมเมอร์! เป็นเกียรติมาก ฉันเคยได้ยินชื่อของนายจากนายท่านมามากกว่าหนึ่งครั้ง นายมีชื่อเสียงมากจริง ๆ นายท่านบอกว่านายแข็งแกร่ง นายเป็นมังกรตะวันออกที่แท้จริง แต่สิ่งที่ฉันจินตนาการเอาไว้กับความเป็นจริงมันต่างกัน นายดูอ่อนกว่าวัยเมื่อเทียบกับรูปภาพของนาย มันยากที่จะจินตนาการได้ว่านายสามารถปกครองตำหนักราชันย์ได้”

พลูโตไม่ใช่คนพูดมาก แต่เขาพูดมากกว่าปกติหลังจากได้พบไทร์ เห็นได้ชัดว่าพลูโตรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้จากดาร์คชูร่า เพราะคนตรงหน้าคือชายผู้ที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร

“แค่สามคนเหรอ?” ไทร์เหลือบมองอย่างเย็นชาและรู้สึกผิดหวัง

“ไม่พอรึไง?” พลูโตกล่าวเสริมว่า “นายก็มีแค่สองนี่?”

ขณะที่พูด พลูโตก็ยื่นมือออกไป และถัดจากเขา แบล็กโรสก็หยิบไวน์สองแก้วมาใส่ในมือให้พลูโต

พลูโตถือแก้วไวน์ในมือของเขาและมองไปที่ไทร์ “เจ้าตำหนักซัมเมอร์ ฉันมีเกียรติที่จะดื่มกับนายหรือไม่?”

“นายไม่มี” ไทร์ตอบอย่างเยือกเย็น “บางทีเจ้านายของนาย ดาร์คชูร่าอาจจะได้รับเกียรตินี้ ส่วนนาย ดาร์คชูร่าได้ส่งนายมาที่นี่เพื่อตาย แต่นายดูยังมีความสุขอยู่มากนะ”

พลูโตขมวดคิ้วเล็กน้อย เนื่องจากไทร์ไม่ดื่ม เขาจึงโยนแก้วไวน์ลงบนพื้น “ไทร์ ซัมเมอร์ หยุดพูดจาจองหองได้แล้ว ตั้งแต่นายมาที่นี่วันนี้ ฉันมั่นใจว่านายจะไม่มีทางรอดกลับไปได้ วันนี้นายแห่งตำหนักราชันย์จะต้องตายด้วยมือของฉัน และพรุ่งนี้ชื่อของฉันก็จะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก มันน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ฉันนึกถึงมัน”

ริมฝีปากของไทร์โค้งขึ้นเล็กน้อย “ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ฉันให้โอกาสนายวางกับดักแล้ว แต่ดูเหมือนนายจะมั่นใจเกินไปหน่อย กับดักนี้ที่นายตั้งไว้ ไม่มีอะไรให้ดูมากนัก”

สีหน้าของพลูโตมืดลงเมื่อเขาเห็นริมฝีปากของไทร์โค้งขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย

“เจ้านายของนาย ดาร์คชูร่าสามารถหลบกระสุนของสไนเปอร์จากระยะการยิงแปดร้อยเมตรได้ แล้วนายคาดเดาได้ไหมว่าฉันสามารถหลบได้เท่าไหร่?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของพลูโตก็มืดลงทันที ข้างหลังเขา สีหน้าของชายผิวดำและแบล็ก โรสก็มืดลงเช่นกัน

สายตาของไทร์แหลมคมขึ้นทันที เขาหันไปทางอาคารแปดชั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ เป็นอาคารบันเทิงที่มีร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ห้องออกกำลังกาย และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสันทนาการอื่น ๆ นี่คืออาคารที่สูงที่สุดในบริเวณที่พักของเพนนินซูล่าการ์เด้น ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้ความบันเทิงกับคนร่ำรวยที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์เหล่านี้

ในขณะนั้น บนดาดฟ้าของอาคารมีชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าสีดำ นอนหงายไม่ขยับเขยื้อน ปืนยาวขนาดใหญ่ถูกตั้งขึ้นต่อหน้าเขาโดยเล็งไปที่หัวของไทร์

ชายคนนี้มีชื่อว่า ฟอลคอน เขาเป็นมือปืนระดับโลกที่มีพื้นฐานทางทหารในประเทศแถบเอเชีย หลังจากเกษียณอายุ เขาก็ไปยังตะวันออกกลางและทำงานเป็นทหารรับจ้างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้นเขาได้รับคัดเลือกจากดาร์คชูร่าให้เข้าร่วมกับออร์เฟอุส

ในบรรดาสมาชิกของออร์เฟอุสปัจจุบันที่ใช้อาวุธปืน ฟอลคอนนั้นเป็นที่สามในด้านความแม่นปืน สำหรับภารกิจในการจัดการกับไทร์ ดาร์คชูร่าได้แต่งตั้งให้ฟอลคอนมากับพูลโต และนั่นทำให้เขาเป็นดั่งไพ่ตายของพูลโต เพราะการฆ่าด้วยอาวุธปืนนั้นทำได้ง่ายกว่าใบมีดมาก

นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่พลูโตและกลุ่มของเขาเลือกที่จะลักลอบเข้ามายังเมืองริเวอร์เดลของจักรวรรดิเซเลสเชียล ด้วยอาวุธปืน พวกเขาจึงไม่สามารถเข้าประเทศอย่างถูกต้องได้

ในขณะนั้น พลูโตรู้สึกเย็นยะเยือกที่กระดูกสันหลังของเขาอย่างอธิบายไม่ได้ ฟอลคอนเป็นฝ่ายสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในการล้มไทร์ แม้ว่าไทร์จะมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีและการยิงจะไม่ได้ฆ่าเขา อย่างน้อยก็อาจทำให้เขาพิการได้ แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่ไทร์มาถึง เขาจะสัมผัสถึงการมีอยู่ของฟอลคอนทันที

ในเมื่อไทร์รู้สึกถึงตัวฟอลคอน แล้วพวกเขาจะยังมีโอกาสอยู่อีกไหม? พลูโตไม่มีความคิดหรืออารมณ์ที่จะต้องพิจารณา แต่ความรู้สึกแย่ ๆ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของเขา

เมื่อถึงเวลานั้น ฟอลคอนได้ล็อคเป้าไปที่ไทร์แล้ว นิ้วของเขาพร้อมที่จะเหนี่ยวไก

“นายแห่งตำหนักราชันย์เรย์น ไทร์ ซัมเมอร์! ชายผู้สามารถทำให้บุคคลสำคัญทั่วโลกสั่นสะท้านด้วยความกลัว นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สามารถจบชีวิตของนายได้ในวันนี้ ไม่มีใครหนีกระสุนของฟอลคอนได้หรอก ขอให้มีความสุขในโลกหลังความตาย!”

ปัง! เสียงทุ้มเหมือนดอกไม้ไฟระเบิดขึ้น กระสุนพุ่งขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ผ่านกล้องส่องของปืนไรเฟิล ฟอลคอนไม่เห็นหัวของไทร์ระเบิด เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นวิถีกระสุนนั้นปกติดี และไทร์ก็ไม่ขยับจากจุดของเขาด้วยซ้ำ กระสุนนั้นดูเหมือนจะลงไปยังพื้นที่คู่ขนานของไทร์

กระสุนที่ควรจะมีไว้สำหรับระเบิดหัวของไทร์ กลับข้ามไประเบิดกำแพงตรงข้ามพวกเขาจนเป็นรู มันไม่ใช่พื้นที่คู่ขนาน แต่ในเสี้ยววินาทีที่กระสุนจะเจาะเข้าหัวของไทร์ เขากลับขยับศรีษะของเขาในชั่วพริบตา แล้วหันกลับไปที่เดิม เขาได้หลีกเลี่ยงการยิงด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าด้วยวิธีแบบนั้น

ความหนาวเย็นไหลลงกระดูกสันหลังของฟอลคอน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพลาด และมันทำให้เขาได้รับผลกระทบอย่างมาก สำหรับมือปืนชั้นยอดอย่างเขามีกฎห้ามยิงนัดที่สอง ถ้านัดแรกพลาด เขาจะถอยทันที ไม่เช่นนั้นตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย และนั่นจะเป็นอันตรายต่อเขา

ในตอนนั้น ฟอลคอนกำลังจะเป็นบ้า เขาลังเลที่จะถอย เขาต้องการยิงอีกนัด เขาอยากเห็นหัวของไทร์ระเบิด แต่แล้วในขณะที่เขาเล็งไปที่ไทร์อีกครั้งด้วยช่องมองภาพและพร้อมที่จะเหนี่ยวไก เขาก็ต้องตกใจที่เห็นไทร์หันมาหาเขาและยิ้มแปลก ๆ ให้เขาก่อนจะโบกมือ

แสงสีขาวส่องผ่านท้องฟ้าและบินเข้ามาหาเขา!

ฟึบ!

ฟอลคอนไม่รู้ว่าแสงสีขาวนั้นคืออะไร แต่เขาสัมผัสได้ถึงความตายอย่างแรงกล้าที่ปกคลุมร่างกายของเขา

ในที่สุด แสงสีขาวก็ดับลง และฟอลคอนก็มองเห็นได้ผ่านช่องมองภาพ

มันคือมีดขว้าง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ