ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 170

สรุปบท บทที่ 170 เป้าหมายที่แท้จริงของพลูโต: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

ตอน บทที่ 170 เป้าหมายที่แท้จริงของพลูโต จาก ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 170 เป้าหมายที่แท้จริงของพลูโต คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ ที่เขียนโดย บัณฑิตติดบ้าน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ไทร์สูดหายใจเข้าในขณะที่ความหนาวเย็นไหลลงมาตามกระดูกสันหลังของเขา

พลูโตยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ไทร์ ซัมเมอร์ เป้าหมายของออร์เฟอุส คือทำให้แกจมลง ทำให้แกล่มสลาย นายท่านบอกว่า สักวันหนึ่งออร์เฟอุสจะแข็งแกร่งขึ้นและเราจะกำจัดตำหนักราชันย์ของแกให้สิ้นซาก เราจะนำความรุ่งโรจน์ที่เคยเป็นของเงาแห่งความมืดกลับคืนมา เราคือราชาแห่งราตรี อย่าแม้แต่พยายามตามหาเรา แม้ว่าตำหนักราชันย์ ของแกจะครอบครองโลก แต่อย่าคิดว่าแกจะสามารถหาเราเจอได้ เพราะว่าเราซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดของราตรีกาล เหมือนดั่งเช่นผีที่คอยตามหลอกหลอนตำหนักราชันย์ของแกตลอดไป ออร์เฟอุสถูกกำหนดให้กลายเป็นฝันร้ายของแก!”

ตูม!

ไทร์ทนไม่ไหวจนชกเข้าที่หัวของพลูโต หัวของเขาถูกทุบเข้ากับผนังและระเบิดออกเหมือนกับแตงโม

ถึงตอนนี้ แมทธิวและชายผิวดำได้แลกหมัดกันไปแล้วกว่าร้อยครั้ง ชายผิวดำนั้นคล่องตัวกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับแมทธิว แม้ว่าความแข็งแกร่งของหมัดที่พอ ๆ กับของแมทธิว แต่แมทธิวก็ยังได้รับความเสียหายมากกว่าอย่างน้อยสามเท่าตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม ความทนทานทางกายภาพของแมทธิวนั้นบ้ามาก แม้ว่าหมัดเหล่านั้นจะทำให้หน้าอกของเขายุบลงแต่ก็ไม่มีเสียงครวญครางจากเขาให้ได้ยิน นอกจากจะเงียบแล้วเขายังยิ้มออกมาด้วยซ้ำ มันเป็นรอยยิ้มที่ดุร้าย รอยยิ้มที่วิปริต รอยยิ้มที่ทำให้หนังศีรษะของคน ๆ หนึ่งชูชัน

ปัง! หมัดสุดท้ายจากแมทธิวส่งชายผิวดำบินกลับไปแปดเมตรทันที

ชายผิวดำตกใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะได้พบกับสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในจักรวรรดิเซเลสเชียล

“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเจ้านายของฉันหมายถึงอะไรในก่อนหน้านี้ แต่ฉันรู้ดีว่า ฉันควรจะซัดนายให้ตาย”

ตูม! แมทธิวชกหมัดหนักครั้งสุดท้ายลงบนหน้าอกของชายผิวดำ หน้าอกของเขาเปิดออกและเสียชีวิตในทันที

“นายท่าน ผมชนะแล้ว ผมทุบเขาจนตายแล้วครับ” แมทธิวกระโดดอย่างตื่นเต้น

อย่างไรก็ตาม ไทร์ไม่ได้แสดงความยกย่องอย่างที่เขาเขาคาดหวัง ทว่าการแสดงออกของไทร์กลับมืดหม่นราวกับน้ำขุ่น และรัศมีที่เปล่งออกมานั้นทำให้คนประหลาดอย่างแมทธิวยังต้องตัวสั่นด้วยความกลัว

“นายท่าน… คุณ… เป็นอะไรไป?”

“นั่งแท็กซี่กลับเมืองคานห์ด้วยตัวเอง” ไทร์สั่งอย่างเรียบง่าย หลังจากนั้น เขาก็รีบออกจากคฤหาสน์ด้วยความเร็วสูงสุด เขาขึ้นรถของเขาและรีบตรงไปที่เมืองคานห์ทันที

ในขณะนั้นดวงอาทิตย์สูงขึ้นบนท้องฟ้า รถยนต์ไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศ แต่ภายในรถของไทร์เย็นราวกับน้ำแข็ง จิตใจที่กระวนกระวายของเขา เขาประมาทเกินไป ไม่ จะโทษเขาที่ประมาทเลินเล่อก็ไม่ถูก ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าดาร์คชูร่าจะให้พลูโตจัดการกับเรื่องนี้

ไทร์คิดเสมอว่าออร์เฟอุส ของดาร์คชูร่าและตระกูลชั้นยอดในเมืองไพร์มนั้น มีวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป และระดับของพวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน ดังนั้น ไทร์จึงไม่เคยคิดว่าออร์เฟอุสจะใช้วิธีการที่ไม่คุ้นเคย

แต่ไทร์คิดผิด เขาคิดผิดไป ดาร์คชูร่าได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากประสบกับการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว

ความสยดสยองที่แท้จริงของบุคคลนั้นไม่ใช่ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด จิตใจของเขาเป็นดั่งกุญแจสำคัญ วิธีการที่ไร้ยางอายนั้นเป็นกุญแจสำคัญในบรรดากุญแจทั้งหมด

เป้าหมายของดาร์คชูร่า ในการส่งพลูโตมาที่นี่ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับไทร์ แต่เพื่อจัดการกับครอบครัวของไทร์ในเมืองคานห์ และไทร์คาดการณ์เอาไว้แล้วว่า พลูโตจะไม่ฆ่าครอบครัวของเขา แต่เขาจะใช้วิธีการที่โหดร้ายและยืดเยื้อที่สุดเพื่อทรมานพวกเขาแทน

หากว่าครอบครัวของไทร์ถูกทรมาน ไทร์จะต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดตลอดไป การจมลงอย่างช้า ๆ เช่นนี้จะทำให้เขาเสื่อมกำลังลง เช่นเดียวกับที่พลูโตกล่าวไว้ว่านี่คือเป้าหมายและจุดประสงค์หลักของพวกเขา

พวกเขาไม่สามารถฆ่าไทร์ได้และไม่เคยคิดที่จะฆ่าไทร์ แต่พวกเขาจะทำลายจิตวิญญาณของไทร์แทน!

นำเสือออกจากถ้ำและลวงโจมตีที่นี่และที่นั่น ในขณะที่ต้องการข้ามแม่น้ำอย่างลับ ๆ…ดูเหมือนเป็นกลอุบายง่าย ๆ แต่ครอบคลุมทุกอย่าง ซึ่งไทร์ไม่สามารถแม้แต่จะป้องกันมันได้

แบลร์พ่นลมหายใจ “คุณยายสัญญากับแบลร์ว่า ถ้าแบลร์ได้คะแนนเต็ม คุณจะเลิกเรียกหนูว่าสัมภาระส่วนเกิน พ่อบอกว่าสัมภาระส่วนเกินไม่ใช่ชื่อเล่นที่ดี”

เฮเลนหัวเราะคิกคัก “ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ ฉันจะหยุดเรียกเธอว่าสัมภาระส่วนเกิน ฉันจะเรียกเธอว่าแบลร์ที่รัก”

หลังจากนั้น เฮเลนกำลังจะกลับบ้านกับแบลร์ ทันใดนั้น รถปอร์เช่ คาเยนน์ สีดำก็วิ่งเข้ามาและหยุดข้าง ๆ เฮเลนและแบลร์

ประตูเปิดออก หญิงสาวหน้าตาธรรมดาแต่แต่งตัวดีเดินลงมาจากรถ มันคือชาร์ล็อท ฟิชเชอร์ ตามมาข้างหลังเธอคือชายร่างใหญ่สองคนในชุดดำ

“แบลร์ ซีใช่ไหม? ฉันเป็นเพื่อนของคุณพ่อของเธอ” ชาร์ล็อทยิ้มอย่างตื่นเต้นในขณะที่เธอมองไปที่แบลร์ หลังจากนั้น เธอต้องการจับมือกับแบลร์ แต่เด็กหญิงตัวเล็กได้ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังของเฮเลน

"คุณเป็นใคร?" เฮเลนถามอย่างระมัดระวัง

ชาร์ล็อทตอบว่า “ฉันเป็นเพื่อนของไทร์ ซัมเมอร์ เขาขอให้ฉันส่งของบางอย่างให้ลูกสาวของเขา” ขณะที่เธอพูด ชาร์ล็อทก็หยิบขวดดินเผาสีดำขนาดเล็กออกมาด้วยรอยยิ้ม มันคือสิ่งที่พลูโตได้มอบให้เธอ

“แบลร์น้อย ทำไมเธอไม่แบ่งลูกอมให้ฉันบ้างล่ะ?”

เฮเลนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจับมือแบลร์และต้องการจะเดินออกไป อย่างไรก็ตาม ชายร่างใหญ่สองคนที่อยู่ข้างหลังของชาร์ล็อทก็คว้าตัวเฮเลนทันที

หลังจากนั้น ชาร์ล็อทก็คว้าแบลร์ ซี และบีบเข้าที่ปากของเด็กหญิงตัวน้อย เธอเปิดฝาออกจากขวดดินเผา และยัดยาเม็ดสีดำเข้าไปในปากของแบลร์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ