ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 20

สรุปบท บทที่ 20 หุ้นส่วนทางธุรกิจ: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

บทที่ 20 หุ้นส่วนทางธุรกิจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

ตอนนี้ของ ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดย บัณฑิตติดบ้าน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายแฟนตาซีทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 20 หุ้นส่วนทางธุรกิจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

มีผู้ชายที่มีทักษะมากมายในตระกูลซัมเมอร์ อาเธอร์เองก็มีคนที่แข็งแกร่งมากมายอยู่ภายใต้การบัญชาของเขา แต่คราวนี้เขาประมาทเกินไป ไทร์จะไม่โชคดีเช่นนี้อีกในครั้งต่อไป

ทายาทคนแรกของตระกูลซัมเมอร์คือ คิริน ซัมเมอร์ เป็นคนโปรดของท่านหญิง ตอนนี้เด็กชายป่วยและมีเพียงไขกระดูกของไทร์เท่านั้นที่สามารถช่วยเขาได้ ตระกูลซัมเมอร์จึงไม่ยอมปล่อย ไทร์ไปง่าย ๆ แน่

แต่ทว่า อาเธอร์ไม่รู้ว่าพลังอำนาจและภูมิหลังที่น่ากลัวของไทร์ได้เติบโตขึ้นแค่ไหน เมื่อเทียบกับองค์กรในต่างประเทศอย่างตำหนักราชันย์ ตระกูลซัมเมอร์ไม่สามารถเทียบได้เลย

หลังจากเหตุการณ์นั้น ตระกูลซัมเมอร์ไม่ได้กลับมารบกวนไทร์มาระยะหนึ่งแล้ว ไทร์ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ไปส่งแบลร์และรับกลับจากโรงเรียนและอยู่บ้านเพื่อทำงานบ้าน วินนี่เฟรดยุ่งกับการทำงานอย่างมากกับตำแหน่งผู้จัดการคนใหม่ของเธอในแผนกออกแบบของซีกรุ๊ป

เธอใช้เวลาเช่นนั้น ผ่านไปครึ่งเดือน วันนี้ได้มีการเรียกประชุมด่วนที่ห้องประชุมของซีกรุ๊ป จอร์จนั่งอยู่ที่เก้าอี้ประธานพร้อมกับเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของบริษัททุกคน พวกเขาดูเคร่งขรึม

“รายชื่อบริษัทที่เข้าเกณฑ์ที่จะลงทุนในใจกลางเมืองใกล้จะเสร็จสิ้นสุดแล้ว สมิธกรุ๊ป แห่งเมืองคานห์จะเข้าร่วมทุน ส่วนใหญ่จะเป็นแฟชั่นเครื่องแต่งกายใจกลางเมือง นอกจากนี้ ฉันแน่ใจว่าพวกคุณคงเคยได้ยินว่าประธานของสมิธกรุ๊ปอย่าง แซคเคอรี่ สมิธ เพิ่งเดินทางไปอิตาลีเพื่อเจรจาเรื่องการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวกับแบรนด์กุชชี่กันนะ”

กลุ่มผู้บริหารพยักหน้า “เราเคยได้ยินสมิธกรุ๊ปได้วางแผนการเป็นหุ้นส่วนนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว เพื่อเป็นรากฐานสำหรับการเข้าสู่ใจกลางเมืองในอีกครึ่งปีต่อมา เนื่องจากสมิธกรุ๊ปได้ดำเนินโครงการหลายโครงการก่อนหน้านี้ ประกอบกับความต้องการจำนวนมากในใจกลางเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้น โรงงานแฟชั่นเครื่องแต่งกายของพวกเขาอาจจะไม่สามารถดำเนินต่อได้”

จอร์จพยักหน้าและกล่าวว่า “นั่นคือเหตุผลที่สมิธกรุ๊ปส่งหนังสือแจ้งว่าพวกเขากำลังมองหาพันธมิตรระยะยาว เราได้ทำธุรกิจกับสมิธกรุ๊ปมาโดยตลอด ดังนั้นครั้งนี้ซีกรุ๊ปจะปล่อยโอกาสนี้ไปไม่ได้ หากซีกรุ๊ปของเราสามารถเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของสมิธกรุ๊ปได้ เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีคำสั่งซื้อสินค้าเหล่านั้นเลย นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการพัฒนาในอนาคตของเราในใจกลางเมือง นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับซีกรุ๊ปในการประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราจึงต้องรักษาการเป็นหุ้นส่วนนี้ไว้”

ในตอนนี้ จอร์จกวาดสายตามองเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาและกล่าวว่า “นี่เป็นข้อตกลงที่สำคัญ พวกคุณคนไหนยินดีรับความท้าทายและเจรจากับสมิธกรุ๊ปในเรื่องนี้? ถ้าพวกคุณคนใดสามารถรักษาข้อตกลงนี้ได้ ฉันจะให้บุคคลนั้นดูแลโครงการทั้งหมดนี้เมื่อถึงเวลา”

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารต่างก็ถูกรู้สึกมีแรงจูงใจ หากพวกเขาสามารถเป็นตัวแทนของโครงการนี้ได้ นั่นหมายถึงโบนัสประจำปีที่มีแนวโน้มดีก็จะตามมา แต่พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษมากมายระหว่างนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเต็มใจที่จะทำงานนี้ เพราะทุกคนที่นี่รู้ดีว่านี่ไม่ใช่งานมอบหมายที่ดีนัก

ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ในสมิธกรุ๊ปคือ เลียม สมิธ นายน้อยของครอบครัวสมิธ และเลียม สมิธ มีชื่อเสียงในเมืองคานห์ด้านการเป็ยคนหมกมุ่นในกาม ดังนั้นถ้าซีกรุ๊ปจะส่งคนไปเจรจา พวกเขาก็ต้องส่งผู้หญิงสาว ๆ สวย ๆ ไปหาเขา

กระนั้น ไม่มีสาวงามคนไหนที่ยอมเจรจาธุรกิจกับเลียม สมิธ นั่นเป็นเพราะเลียมไม่เพียงแต่หมกมุ่นในกามเท่านั้น แต่เขายังน่าเกลียดเหมือนคางคก และผู้ชายคนนั้นยังเป็นพวกที่ผิดปกติอีกด้วย หากเขาจับตาดูใครสักคน หากหญิงสาวคนนั้นรอดชีวิตมาได้ก็นับว่าโชคดีแล้ว มันมีข่าวเรื่องที่เขาฆ่าคนระหว่างทำกิจกรรมด้วย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหมาป่าผู้หิวโหยเช่นเขา ไม่มีใครกล้าอาสาตัวเองเข้าไปในกองเพลิงนี้ หากการเจรจาจบลงด้วยความล้มเหลว พวกเขาจะพิการ หากโชคดีก็อาจแค่พิการ แต่หากไม่ ความตายก็จะเป็นสิ่งที่รอเขาอยู่ มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย

เมื่อไม่มีใครตอบ ร่องรอยของความโกรธก็ปรากฏบนใบหน้าของจอร์จ

“คุณปู่คะ ฉันคิดว่าเราควรปล่อยให้วินนี่เฟรดเจรจาโครงการนี้” ทันใดนั้น ไอริสก็ยืนขึ้นและชี้ไปที่วินนี่เฟรด

ในทันทีนั้น ครอบครัวซีเกินครึ่งยกมือขึ้น วินนี่เฟรดกัดฟันอย่างขุ่นเคือง คนเหล่านี้ทุกคนในตระกูลซีก็เหมือนกันหมด พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะผลักเธอออกจากหน้าผา

ในที่สุด วินนี่เฟรดก็ทำได้เพียงมองดูจอร์จอย่างช่วยไม่ได้ งานนี้เดิมเป็นของแผนกธุรกิจของไอริส แล้วทำไมวินนี่เฟรดต้องไปด้วย? วินนี่เฟรดเชื่อว่าปู่ของเธอจะตัดสินใจอย่างยุติธรรม

ปัดโธ่เอ๊ย วินนี่เฟรดยังคงผิดหวังอย่างมาก

“ฉันคิดว่าสิ่งที่ไอริสพูดนั้นสมเหตุสมผล วินนี่เฟรด ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับสิทธิ์การลงทุนในใจกลางเมืองสำหรับบริษัทก่อนหน้านี้ แต่เธอได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการของแผนกออกแบบเร็วเกินไป ยังมีคนจำนวนมากในบริษัทที่ต่อต้านมัน แต่ถ้าเธอสามารถทำข้อตกลงนี้กับสมิธกรุ๊ปได้ ก็จะไม่มีใครในบริษัทนี้กล้านินทาเธออีก ดังนั้น การร่วมมือครั้งนี้จะเป็นความรับผิดชอบของเธอ”

“คุณปู่…”

วินนี่เฟรดไม่มีคำใดที่จะอธิบายความคับข้องใจของเธอ จอร์จ ซี หากคุณลำเอียง ก็พูดอย่างนั้นออกมาเลยเถอะ ไม่จำเป็นต้องมองหาข้อแก้ตัวที่หรูหรา!

“วินนี่เฟรด คุณปู่มอบหมายงานสำคัญให้เธอเพราะเขาเชื่อในตัวเธอ เรียนรู้ที่จะมีความกตัญญูซะด้วย ตอนนี้โครงการนี้เป็นของเธอในการเจรจาแล้ว ดังนั้นอย่าคิดที่จะหยุดงาน หากเธอไม่สามารถทำข้อตกลงนี้ได้ เธอสามารถออกจากบริษัทไปได้เลย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ