ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 215

ทันใดนั้น วินนี่เฟรด ซี รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา โลกของอินเทอร์เน็ตน่ากลัวเกินไป

ตอนนี้เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของเหล่าคนดัง ที่ชื่อเสียงของพวกเขาถูกทำลายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนด้วยเรื่องอื้อฉาวและถูกทิ้งให้จมอยู่กับความสิ้นหวัง ตอนนี้วินนี่เฟรดเองก็ประสบในสิ่งเดียวกัน

เนื้อหาของบทความนี้เป็นความจริงบางส่วนและเป็นเท็จบางส่วน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการใส่ร้าย แต่เรื่องราวของวินนี่เฟรดนอนกับขอทานเมื่อหกปีก่อนและมีลูกก่อนแต่งงานนั้นเป็นความจริง ดังนั้นข่าวนี้จึงสามารถเผยแพร่ทางออนไลน์ได้

การล้างชื่อของเธอ คงจะยากกว่าการได้ขึ้นสวรรค์ในตอนนี้

เฮนรี่ วอคเกอร์รีบไปที่ออทัมน์ฟิลด์ด้วยความตื่นตระหนก และได้พบกับวินนี่เฟรด “มิสซี นี่จะต้องเป็นฝีมือของเฟเธอร์กรุ๊ปแน่นอน ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะไร้ยางอายและใส่ร้ายคุณด้วยวิธีนี้”

วินนี่เฟรดสูดหายใจเข้าก่อนถามว่า “มิสเตอร์...วอคเกอร์ เราจะแก้ปัญหานี้ได้ไหม?”

เฮนรี่ขมวดคิ้วอย่างหนักและตอบว่า “ผลกระทบมันยิ่งใหญ่เกินไป ถึงแม้ว่าเราต้องการชี้แจงในการหมิ่นประมาทโดยเจตนา แต่มันก็ยากที่เราจะพลิกสถานการณ์ได้และมันอาจจะแย่ลงถ้าหากสิ่งนี้ยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และทุกสิ่งที่เราทำก่อนหน้านี้ก็จะต้องสูญเปล่า ให้ตายสิ!”

เฮนรี่ทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ “ผมไม่นึกเลยว่า เฟเธอร์กรุ๊ป เจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นภาคใต้จะไร้ศีลธรรมได้มากขนาดนี้”

หัวใจของวินนี่เฟรดจมลงสู่ก้นบึ้งของหัวใจเธอ แม้แต่ราชาสื่อใหม่ของเมืองคานห์ ก็ยังหมดหนทาง โอกาสที่จะสามารถกู้คืนชื่อเสียงของออทัมน์ฟิลด์กลับมานั้นมีน้อยมากในตอนนี้

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากเฟเธอร์กรุ๊ปชี้แจงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว?” ในขณะนั้นไทร์ ซัมเมอร์ก็เดินเข้ามาในห้อง

เขาได้ยินข่าวนี้แล้ว และตอนนี้ เจตนาฆ่าก็ปรากฏขึ้นชัดในตัวตนของเขา ไทร์โกรธเคืองกับเหตุการณ์นี้มากเช่นกัน เขายังวางแผนที่จะใช้ความแข็งแกร่งของตำหนักราชันย์เพื่อทำลายล้างเฟเธอร์กรุ๊ปอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คำตอบของเฮนรี่ทำให้เขาตกใจ

“บราเธอร์ไทร์ เราไม่สามารถทำอะไรเฟเธอร์กรุ๊ปได้ในตอนนี้” เฮนรี่กล่าว

"ทำไมจะไม่ได้?" ไทร์ขมวดคิ้ว

เฮนรี่ตอบว่า “เนื่องจากเฟเธอร์กรุ๊ปเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของออทัน์ฟิลด์สำหรับจุดแนะนำของเซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่น และเราก็ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของเฟเธอร์กรุ๊ป ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเฟเธอร์กรุ๊ปในตอนนี้ พวกเขาจะโยนความผิดทั้งหมดมาที่ออทัมน์ฟิลด์ทันที่ และนั่นจะทำให้ออทัมน์ฟิลด์ต้องสูญเสียความโปรดปรานทั้งหมดไป ถ้าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงออทัน์ฟิลด์จะไม่มีวันฟื้นคืนมาได้อีก”

“ก็ได้ ฉันจะยังไม่รบกวนในตอนนี้” การแสดงออกของไทร์มืดมน “เฮนรี่ วอคเกอร์ ฉันไม่สนหรอกว่านายจะใช้วิธีใด แต่ฉันจะให้เวลานายสามวันในการจัดการกับเหตุการณ์นี้ ถ้าไม่เช่นนั้นนายจะต้องยอมรับกับผลที่ตามมา”

นี่เป็นคำสั่งที่ จู่ ๆ เฮนรี่ก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปที่กระดูกสันหลังของเขา

ถ้าเขาแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ภายในสามวัน ความโกรธของไทร์ไม่เพียงแต่จะกลืนกินเฟเธอร์กรุ๊ปเท่านั้น แต่มันยังจะเผาผลาญเฮนรี่อีกด้วย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน ถ้าเขาสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ไทร์ก็จะจดจำความสำเร็จของเขา

“ตกลงครับ บราเธอร์ไทร์!” ด้วยความที่เป็นคนกล้า เฮนรี่จึงตกลงทันที

"มิสเตอร์วอคเกอร์ คุณมีความคิดยังไง?” วินนี่เฟรดถาม

“จริงเหรอที่รัก?” ฮิลารีโอบแขนไปที่รอบคอของแฟรงกี้ด้วยความตื่นเต้นและทั้งคู่ก็หยอกล้อกันอีกครั้ง

วันรุ่งขึ้น ที่สำนักงานของออทัมน์ฟิลด์ วินนี่เฟรดที่นอนไม่หลับทั้งคืน ข่าวด้านลบอย่างท่วมท้นในกระทู้ทำให้ออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ปทั้งหมดต้องวิตกกังวล

ภัยพิบัติทางออนไลน์นี้ได้แพร่กระจายแม้กระทั่งในกลุ่มออฟไลน์ ในเวลาเพียงวันเดียว พันธมิตรทางธุรกิจจำนวนมากได้ยุติความร่วมมือกับออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ปทันที

ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน ลืมไปได้เลยกับการเปิดตัวแบรนด์ออนไลน์และการได้รับจุดแนะนำจากเซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่น ที่ตอนนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าบริษัทของเธอจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่

นี่คือพลังของอินเทอร์เน็ต มันสามารถช่วยคนให้ลุกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และก็สามารถทำให้คนล้มลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน!

“ฮิลารี ไวท์ เธอเป็นผู้หญิงที่โหดร้าย”

ในขณะนั้น ในกระทู้ของเซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่นก็มีอีกข่าวหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากพอ ๆ กับข่าวเชิงลบของวินนี่เฟรด

เฟเธอร์กรุ๊ป ได้เปิดตัวแบรนด์ออนไลน์ใหม่ ‘ซัมเมอร์สโนว์’ และเชื่อมโยงแบรนด์นี้เข้ากับหัวหน้านักออกแบบอย่างฮิลารี ไวท์ หลังจากนั้น เฟเธอร์กรุ๊ปก็เริ่มสร้างบุคลิกของฮิลารี บนช่องทางสื่อใหม่หลายสิบช่อง

ส่วนสำคัญของบุคลิกของเธอคือ ฮิลารีมาจากครอบครัวที่ยากจน ด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของเธอ เธอจึงสามารถเข้าสู่โรงเรียนออกแบบในฝันของเธอได้ หลังจากนั้นเธอถูกส่งไปยังเมืองแห่งแฟชั่นระดับโลกอย่างมิลานเนื่องจากผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเธอ เธอผ่านการทำงานหนักในมิลานและเธอก็ประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่แบรนด์กุชชี่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอเก่งขึ้นได้ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ในเวลาเพียงไม่กี่ปีเธอสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ได้

ตอนนี้ฮิลารีกลับมาและได้เซ็นสัญญากับเฟเธอร์กรุ๊ป ด้วยความมุ่งมานะของเธอในการขยายแบรนด์ใหม่ ‘ซัมเมอร์สโนว์’ ของเฟเธอร์กรุ๊ปให้ก้าวไปสู่ระดับสากล ด้วยบุคลิกเช่นนี้ ฮิลารีจึงกลายเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดบนช่องทางสื่อใหม่ทั้งหมดภายในเวลาเพียงวันเดียว และเธอก็เข้ามาแทนที่วินนี่เฟรดและกลายเป็น 'เทพธิดาผู้สร้างแรงบันดาลใจ' คนใหม่