ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 218

ในบ่ายวันนั้น ความพยายามของเฮนรี่ ด้วยหัวข้อข่าวที่ใหญ่กว่าเริ่มแพร่ออกมาทีละข่าว

ถ้าหากบทความเกี่ยวกับสถาบันการออกแบบลาเวนเดอร์โรสยังไม่แน่นหนาพอ การเปิดเผยในตอนต่อไปก็ถือว่ามีรากฐานที่ดีดั่งเช่นภูเขาที่แข็งแกร่ง

และหลักฐานที่มิคาเอลรวบรวมมานั้นก็มากเกินพอ

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ ฮิลารี ไวท์เพิ่งได้เข้าวิทยาลัยเอเวอรี่ เธอสามารถเกลี้ยกล่อมอาจารย์คนหนึ่งของสถาบันได้ เป็นเวลาสองปีเธอได้ล่อลวงเหล่าอาจารย์ของวิทยาลัยทั้งหมดแปดคน หลังจากนั้น เธอจึงสามารถเข้าสู่กุชชี่ผ่านสายสัมพันธ์ของอาจารย์เหล่านี้

เมื่ออยู่ในกุชชี่ เธอใช้มารยากับผู้บริหารระดับสูงโดยวิธีการเดียวกัน ด้วยร่างกายของเธอในการได้เลื่อนตำแหน่ง

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับฮิลารี ไวท์ที่ทำศัลยกรรมพลาสติกอีกด้วย

ในที่สุด บัญชีเว่ยป๋อที่เป็นทางการของกุชชี่ในจักรวรรดิเซเลสเชียล ก็ได้โพสต์หลักฐานการไล่ฮิลารี ไวท์ ออกจากบริษัท

ครั้งนี้ กุชชี่ได้ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการเปิดเผยความลับที่สกปรกของฮิลารี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องสละตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยการเสียที่นั่งให้กับผู้มาใหม่ก็ตาม เพื่อที่พวกเขาจะได้แสดงความเคารพต่อไทร์ ซัมเมอร์

หลังจากการเปิดเผยเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้แล้ว กระทู้เซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่นทั้งหมดจึงเกิดความโกลาหลขึ้นในทันที

@แฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ: โอ้ พระเจ้า นี่เรื่องจริงเหรอ? ผู้หญิงไร้ยางอายเช่นนี้มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ได้ยังไง?

@คุณผู้หญิงซาง: เธอเป็นรถเมล์สาธารณะหรือเปล่า? ไม่สิ เธอแย่กว่ารถเมล์สาธารณะ เฟเธอร์กรุ๊ปปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เป็นหัวหน้านักออกแบบของแบรนด์ใหม่ได้ยังไงกัน? คุณพระช่วย

@จิลลี่น้อย: นี่มันน่าขยะแขยง น่าขยะแขยงโคตร ฉันเป็นลูกค้าประจำของเฟเธอร์กรุ๊ปมาตลอด แต่ฉันจะเลิกเป็นแฟนคลับของเขาแล้ว

@ใบเมเปิ้ลเหลือง: หลักการในชีวิตของเธอยุ่งเหยิงจริง ๆ ละครเรื่องนี้เด็ด!

@แฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ: ฮิลารี ไวท์ ช่างสารเลวจริง ๆ! การใส่ร้ายก่อนหน้านี้ทั้งหมดเกี่ยวกับวินนี่เฟรดนั้นก็มาจากฮิลารี ไวท์ใช่หรือไม่?

@นกคานารี: ต้องใช่ แน่ ๆ! รถเมล์สาธารณะเช่นนี้ทำได้ทุกอย่าง ดูเหมือนว่าเราจะเข้าใจเทพธิดาวินนี่เฟรดผิดไป

@แฟชั่นฤดูใบไม้ผลิ: ใช่ ใช่ เราต้องทวงความยุติธรรมให้เทพธิดาวินนี่เฟรด ฮิลารี ไวท์ ออกจากวงการแฟชั่นภาคใต้ไปซะ คว่ำบาตร เฟเธอร์กรุ๊ป คว่ำบาตร ซัมเมอร์สโนว์

***

ตลอดช่วงบ่าย กระดานสนทนาพูดคุยกันอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการกระทำผิดศิลธรรมของฮิลารี ผู้คนหลายคนด่าทอเธอ

สิ่งที่วินนี่เฟรดเคยประสบมาก่อนหน้านี้ยังน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันของฮิลารี

นอกจากนี้ เฮนรี่ได้ใช้โอกาสนี้ในการโพสต์เพื่อช่วยให้วินนี่เฟรดล้างชื่อของเธอ ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง วินนี่เฟรดก็พ้นข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จทั้งหมด และเธอก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับจำนวนมาก

ความนิยมของวินนี่เฟรดเพิ่มขึ้นจากสถิติของเธอก่อนหน้านี้

"เราทำได้!"

ภายในห้องทำงานของประธานของออทัมน์ฟิลด์ วินนี่เฟรดและเฮนรี่กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น

“มิสซี เราทำได้แล้ว วิธีนี้ ฮิลารี ไวท์จะไม่มีวันฟื้นคืนชีพได้อีกและชื่อของคุณก็จะบริสุทธิ์เช่นกัน ต่อไปจะมีการสวนกลับครั้งใหญ่ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ความนิยมของมิสซีและแบรนด์ออทัมน์ฟิลด์จะต้องเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายแน่นอน”

ใบหน้าของวินนี่เฟรดแดงก่ำด้วยความยินดี ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เธออยู่ในความกลัวและสิ้นหวัง

ในที่สุด ในที่สุดพวกเขาก็ชนะสงครามครั้งนี้

***

ที่เมืองทาโคมา ภายในสำนักงานของประธานเฟเธอร์กรุ๊ป

“เ**ย…เ**ย...ไอ้เ**ย” แฟรงกี้ แทนเนอร์ส่งเสียงคำราม

แฟรงกี้โกรธจัดเมื่อพบว่าเซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่นเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับเฟเธอร์กรุ๊ปที่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันมาเป็นเวลานานและยังไปเซ็นสัญญากับออทัมน์ฟิลด์อีก

ห้องทำงานที่หรูหราของเขาถูกรื้อทิ้งกระจัดกระจายจากความบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าความโกรธของเขาถึงจุดแตกหักแล้ว

“สะ…สามี…” ฮิลารียืนนิ่งด้วยท่าทางหวาดกลัวและรู้สึกวิตก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นแฟรงกี้โกรธจัด

“นังโสเภณี อย่าเรียกฉันว่าสามีอีก ฉันอยากจะอ้วกทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ”

การกระทำของฮิลารี ได้แพร่กระจายไปทั่วกระทู้ของเซาท์เทิร์นโซฟิสติเคชั่น แฟรงกี้ไม่เคยคิดฝันว่าผู้หญิงที่เขารักจะเป็นคนไร้ยางอายและน่าขยะแขยงได้ถึงเพียงนี้

ฮิลารีรู้สึกหงุดหงิด “แฟรงกี้ ได้โปรดอย่าฟังคำโกหกทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต มันก็แค่คำพูดจากผู้หญิงเลวเท่านั้น วินนี่เฟรด ซีกำลังพยายามใส่ร้ายฉัน สิ่งเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ฉันเข้าเรียนที่วิทยาลัยเอเวอรี่และสามารถเป็นผู้บริหารระดับสูงของกุชชี่ได้เพราะฉันทำงานหนัก ฉันไม่ได้เกลี้ยกล่อมใครหรือมอบร่างกายของฉันให้ และทุกส่วนในร่างกายของฉันก็เป็นของจริง ฉันไม่เคยทำศัลยกรรมพลาสติก คุณจะต้องเชื่อฉัน พวกเขาแค่พยายามจะใส่ร้ายฉัน สามี คุณต้องหาทนายมาฟ้องวินนี่เฟรด…”

เพี๊ยะ!

ในขณะที่ฮิลารีกำลังพูด แฟรงกี้ก็ตบเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างแรงด้วยความโกรธ

ทันใดนั้น ครึ่งหนึ่งของใบหน้าของฮิลารีก็เสียโฉมทันที