ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 54

พูดตามตรง ในตอนแรกไทร์ก็อยากจะใช้เส้นสายของแซคเคอรี่เพื่อช่วยให้วินนี่เฟรดได้ครองอันดับ สำหรับเขามันเป็นเพียงแค่การออกปากสั่งคำเดียวเท่านั้น

แต่เมื่อเขาเห็นความทุ่มเทและความจริงจังของวินนี่เฟรดในการถ่ายทอดประสบการณ์ออกแบบของเธอออกมาทั้งหมด ไทร์เลยเปลี่ยนใจ เขาเชื่อว่าด้วยทัศนคติและทักษะมืออาชีพของภรรยาเขา ต่อให้เขาไม่ได้ทำอะไร เธอก็สามารถจะครองอันดับได้ในการแข่งขันครั้งนี้ เขาศรัทธาแม้กระทั่งว่าเธอจะได้ที่หนึ่ง!

ในทางตรงกันข้ามกับความกระตือรือร้นของวินนี่เฟรด ไอริสนั้นขี้เกียจเหนือคำบรรยาย เมื่อไม่กี่วันก่อน ไอริสยังคงแสดงความสนใจอยู่บ้าง เธอจะไปอยู่ในแผนกออกแบบทุกวันเพื่อพัฒนาการออกแบบชิ้นงานที่ดีกับพนักงานที่นั่น แต่หลังจากสามวันแห่งความกระฉับกระเฉง ไอริสก็รู้ตัวว่าการออกแบบชิ้นงานที่ดีนั้นไม่ได้ง่ายเหมือนที่เธอคิด

ไม่ว่าจะความเป็นมืออาชีพ, จินตนาการ, หรือความเป็นผู้นำ เพื่อนำทีมออกแบบของเธอ เธอก็ยังด้อยกว่าวินนี่เฟรดอยู่หลายขุม ไอริสมีฝีมือไม่ได้ดีไปกว่านักออกแบบอิสระ หรือแม้แต่นักออกแบบมืออาชีพ

และดังนั้น ไอริสก็หมดความสนใจในการออกแบบไปง่าย ๆ แบบนั้น หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเธอกลายเป็นคนขี้เกียจมาก เธอหยุดที่จะเข้าไปในแผนกออกแบบ

ภายในชั่วพริบตาเดียว วันพรุ่งนี้ก็เป็นวันส่งผลงานสำหรับการแข่งขัน จอร์จเรียกไอริสเข้าไปในสำนักงานด้วยความโกรธเกรี้ยวกราดและคำรามใส่เธอ มันชัดเจนว่าเขาไม่พอใจกับการทำงานของไอริสในช่วงที่ผ่านมา

“ไอริส ซี พรุ่งนี้คือวันส่งผลงานแล้ว งานออกแบบของเธออยู่ไหน? ฉันมอบหมายงานสำคัญให้เธอทำเพียงเพราะว่าฉันเชื่อในตัวเธอ สรุปแล้วเธอทำอะไรกันแน่?”

ถึงอย่างไร ไอริสก็ดูใจเย็นขณะเธอกล่าว “ไม่ต้องห่วงคุณปู่ ฉันได้เตรียมงานออกแบบสำหรับการแข่งขันไว้เรียบร้อยแล้ว”

“เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว?” จอร์จสับสน มันชัดเจนที่ไอลิสไม่ได้ทำอะไรเลยตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ แผนกออกแบบก็ยังไม่ได้ส่งแม้กระทั่งโครงร่างมาให้ดู แล้วไอริสไปเอางานออกแบบมาจากไหน?

ไอริสยิ้มมีเลศนัย “ใจเย็นคุณปู่ ฉันได้จัดการทุกอย่างไว้แล้ว ฉันรับประกันกับคุณปู่ได้เลย ว่าฉันไม่ใช่แค่เพียงได้ครองอันดับต้น ๆ แต่ฉันจะทำให้ทั่วทั้งเมืองตกตะลึง!”

***

วันสุดท้ายก่อนลงทะเบียน ภายใต้การนำของวินนี่เฟรด เธอและทีมทำงานกันจนถึงสี่ทุ่ม ในที่สุดเสียงเชียร์ก็ดังกึกก้องในแผนกออกแบบ

“เสร็จแล้ว! ในที่สุดมันก็เสร็จ!”

“นี่มันคือผลงานศิลปะอันสมบูรณ์แบบ!”

“ท่านประธานซี ผลงานของเราจะต้องสร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งเมืองในระหว่างการแข่งขันออกแบบแฟชั่นของ Gucci อย่างแน่นอน”

ภายในห้องออกแบบ ถังขยะเต็มไปด้วยโครงร่าง และข้อเสนอการออกแบบต่าง ๆ ก็กองรวมกันเป็นภูเขาอยู่บนโต๊ะทำงาน

ในช่วงครึ่งเดือนนี้ วินนี่เฟรดและทีมงานของเธอทั้งหมด อยู่ทำงานกันทั้งวันทั้งคืนและต่อสู้ดิ้นรนให้ได้มาซึ่งผลงานออกแบบในฝันของพวกเขา ในคืนสุดท้าย เมื่อพวกเขามองดูภาพจำลอง สามมิติบนคอมพิวเตอร์ นักออกแบบทุกคนที่นั้นก็ตกตะลึงสุดหัวใจ

“ท่านประธานซี คุณคืออัจฉริยะ”

“ฉันอยู่ในวงการอุตสาหกรรมการออกแบบมานานหลายปี แต่ฉันก็ไม่เคยจะจินตนาการเลยว่าสักวันหนึ่งเราจะสามารถออกแบบผลงานชิ้นโบว์แดงขนาดนี้ได้”

“ทักษะออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้เปิดดวงตาของเราให้กว้างขวางขึ้นจริง ๆ!”

วินนี่เฟรดไม่อาจจะปิดบังความตื่นเต้นภายในใจของเธอได้ “ทั้งหมดนี่ก็ต้องขอบคุณความทุ่มเทของทุกคน ขอขอบคุณพวกคุณทุกคน”

หลังจากนั้นวินนี่เฟรดก็จับจ้องไปที่การแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์ เธอทั้งยังหลงใหลในงานศิลปะสมบูรณ์แบบชี้นนี้ด้วย แต่ในไม่ช้าวินนี่เฟรดก็หน้านิ่วเล็กน้อย

“มีอะไรผิดปกติงั้นหรอ ท่านประธานซี?”

“ไม่มีอะไร” วินนี่เฟรดลุกขึ้นยืนและกล่าว “ทุกคนคงจะเหนื่อยมากแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ”

“โอเค”

นักออกแบบทั้งหมดก็กลับไป โดยทิ้งวินนี่เฟรดไว้ข้างหลัง นอกจากเธอแล้วก็ยังมีนักออกแบบรุ่นเยาว์อีกหนึ่งคน เพิ่งจบการศึกษามาจากโรงเรียนออกแบบที่มีชื่อเสียงเมื่อไม่นานมานี้

“ยาร่า ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่?”

นักออกแบบรุ่นเยาว์ ยาร่า แคมป์เบล รีบตอบ “หนูกำลังจะกลับ ท่านประธานซี แล้วทำไมคุณยังอยู่ที่นี่? คุณคิดว่างานออกแบบนั้นยังไม่สมบูรณ์แบบพอใช่ไหม?”

“ใช่ มันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างแต่ฉันก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร...” วินนี่เฟรดส่ายหัวและลุกขึ้นยืน “ไม่แน่ฉันอาจจะคิดมากเกินไป กลับบ้านกันเถอะ!”

กลับมาที่บ้าน วินนี่เฟรดไม่ได้นอนหลับเต็มที่ วันพรุ่งนี้คือวันส่งผลงาน วินนี่เฟรดได้นำทีมเพื่อออกแบบผลงานชิ้นเอก แต่เธอก็ยังคงรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรขาดหายไป

เธอใช้เวลาคิดหนักทั้งคืน!

ในที่สุดเมื่อแสงแรกเริ่มของยามเช้าสาดส่องขึ้นมาเหนือพื้นดิน และสายลมโชยอ่อน ๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง วินนี่เฟรดก็ตระหนักรู้

“นั่นไงล่ะ... ลม! มันคือสายลม! ในที่สุดฉันก็รู้ว่าอะไรหายไป”

วินนี่เฟรดลุกขึ้นจากเตียงอย่างตื่นเต้น และหยิบปากกาออกแบบกับกระดาษในทันที เธอใช้เวลาสองชั่วโมงในการแต่งเติมขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์

หลังจากที่เธอแต่งตัวล้างหน้าให้สดชื่นแล้ว เธอก็รีบไปที่บริษัทพร้อมกับโครงร่างที่อยู่ในมือ โดยไม่ทานอาหารเช้าเลยด้วยซ้ำ เธอจำเป็นจะต้องเพิ่มรายละเอียดสุดท้ายนี้ลงในงานผลงานเพื่อให้มันเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเข้าไปสู่แผนกออกแบบ วินนี่เฟรดก็พบว่าทั้งแผนกกำลังวุ่นวายยุ่งเหยิง “เกิดอะไรขึ้น?"

เมื่อมองดูสีหน้าท่าทางของบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอ วินนี่เฟรดสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเลวร้ายได้เข้ามารุกรานตัวเธอ ยาร่าเหงื่อแตกไหลพรั่งพรูกับน้ำตาในดวงตาของเธอ

“ท่าประธานซี นี่มันหายนะ งานออกแบบที่เราใช้เวลาถึงครึ่งเดือน มันถูกขโมยไป!”

ซ่า... หัวของวินนี่เฟรดว่างเปล่า งานออกแบบถูกขโมย?

เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงก่อนการส่งผลงานแข่งขันออกแบบแฟชั่นของ Gucci วินนี่เฟรดและทีมของเธอใช้เวลาครึ่งเดือนเต็มในการออกแบบผลงานชิ้นนี้ และมันถูกขโมยไปในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้? นี่มันเป็นเรื่องตลกแบบไหนกัน?

วินนี่เฟรดเปิดแฟ้มเอกสารในคอมพิวเตอร์และเริ่มต้นแอปพลิเคชั่นการออกแบบ มันกลับว่างเปล่า!

ทันใดนั้นวินนี่เฟรดก็รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเธอหมุนเหวี่ยงไป

“ท่านประธานซี ข้อมูลและผลแสดงภาพภายในแฟ้มเอกสารและแอปพลิเคชั่น ถูกใครบางคนลบออกไป”

“แล้วโครงร่างล่ะ?” วินนี่เฟรดเกือบจะโวยวาย

“โครงร่าง รวมถึงการออกแบบทั้งหมดที่เรารวบรวมไว้... หายไปทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง”

“ตึกสำนักงานก็เจอกับไฟฟ้าดับกระทันหันเมื่อคืน กล้องวงจรปิดเลยจับภาพอะไรไม่ได้”

“เราได้แจ้งตำรวจไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะมาถึงภายในไม่ช้า”

วินนี่เฟรดหน้าซีดเสียวและหมดปัญญา “เหลือเวลาแค่อีกสองชั่วโมงก่อนการส่งผลงานลงทะเบียนอย่างเป็นทางการจะสิ้นสุดลง มันสายไปแล้ว ทุกอย่างสายเกินไป!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ