ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 55

ไม่มีคำอธิบายความรู้สึกในสถานการณ์ของวินนี่เฟรด มันเหมือนกับว่าพลังงานในร่างกายของเธอถูกดูดให้แห้งเหือดไปในทันที หัวของเธอว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะร้อนรนรวบรวมสติกลับคืนมา

“ทุกคนกลับไปไประจำตำแหน่ง”

เมื่อวินนี่เฟรดสั่ง นักออกแบบคนอื่น ๆ ก็เข้าประจำที่ของตัวเองในทันที

“ท่านประธานซี คุณกำลังพยายามทำอะไร?”

วินนี่เฟรดตอบ “เราไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว แต่ออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ปของเราจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราจะออกแบบให้ได้ในหนึ่งชั่วโมง!”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนมองไปที่วินนี่เฟรด รู้สึกไร้หนทาง การออกแบบภายในหนึ่งชั่วโมงมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย แม้ว่าพวกเขาจะทำได้แต่มันก็คงจะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นอย่างแน่นอน ทำอย่างไรถึงจะได้ตำแหน่งในการแข่งขัน?

“แค่ทำตามที่ฉันบอก”

เวลายิ่งใกล้เข้ามาเท่าไหร่ หัวของวินนี่เฟรดก็รู้สึกชัดเจนมากขึ้น

“ก่อนหน้านี้ ฉันได้ออกแบบงานไว้หลายชิ้น ฉันมีแม้กระทั่งโครงร่างพื้นฐาน ตอนนี้เราแค่จะต้องทำมันให้เสร็จสมบูรณ์ และมันก็จะพอไปได้ ทุกคนทำตามที่ฉันบอก”

บรรดานักออกแบบก็รวบรวมกำลังใจขึ้นมาในทันที

“ยัสมิน ได้โปรดช่วยไปหยิบโครงร่างพื้นฐานในลิ้นชักห้องทำงานฉันมาให้หน่อย เร็วเข้า!”

ยัสมินพยักหน้าในทันที “รับทราบค่ะ ท่านประธานซี”

หลังจากนั้น วินนี่เฟรดมองไปที่ลีอา ผู้ซึ่งเป็นคนคุมฝ่ายแบบแผน “เริ่มเปิดแอปพลิเคชั่นและผสมสีตามที่ฉันบอก”

“และน้องสาวโคลอี้ ฉันจะส่งงานออกแบบก่อนหน้านี้ไปให้เธอทางคอมพิวเตอร์ ทำตามคำแนะนำของฉันและเริ่มการประกบโครงสร้าง”

“ทุกคน! ฉันให้เวลาพวกคุณห้านาทีจัดการกับโครงร่างพื้นฐานของฉัน หากคุณมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ แจ้งมาได้ทันที!”

หลังจากแจกจ่ายคำสั่งของเธอแล้ววินนี่เฟรด แจ้งให้เกรแฮมเตรียมรถยนต์ไว้ที่ทางเข้าโรงงาน เมื่อไหร่ที่พวกเขาเสร็จสิ้นผลงานออกแบบชิ้นใหม่นี้แล้ว พวกเขาจะต้องไปที่ศูนย์กลางเมืองเพื่อส่งผลงาน

แผนกออกแบบทั้งหมดเข้าสู่ภาวะสงคราม ทุกคนพยายามอย่างตั้งใจและเต็มที่ และมีกำลังใจที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วตามคำสั่งแต่ละคำของวินนี่เฟรด!

สิบนาที...

ครึ่งชั่วโมง...

หนึ่งชั่วโมง...

หนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมา เมื่อโคลอี้กดปุ่ม 'Enter' บนแป้นพิมพ์ งานออกแบบชิ้นใหม่ก็ถูกพิมพ์ออกมา! ในตอนนั้น วินนี่เฟรดได้จัดเรียงส่วนประกอบทั้งหมดเกี่ยวกับการออกแบบนี้และใส่ลงในแฟ้มเอกสาร

นี่เป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่วินนี่เฟรดใช้เวลาในการออกแบบมาอย่างยาวนานก่อนหน้านี้ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบเท่าชิ้นงานที่ถูกขโมยไป แต่มันก็ค่อนข้างเป็นผลงานที่ดีทีเดียว ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยายามในความสิ้นหวัง

วินนี่เฟรดคว้าแฟ้มใส่เอกสารและไดร์ฟปากกาก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถ “มันยังพอมีเวลาเหลือยี่สิบนาที ผู้อำนวยการโรงงานเดวิส ได้โปรดช่วยด้วย”

เกรแฮมพยักหน้า “ไม่ต้องห่วงท่านประธานซี ก่อนหน้าจะมาทำงานโรงงาน ผมเคยเป็นคนขับรถแท็กซี่ ผมจะต้องไปส่งคุณถึงที่นั่นทันเวลาแน่นอน”

รถ Benz แล่นออกไปเหมือนม้าป่าที่วิ่งอย่างอิสระ เกรแฮมไม่ทำให้ผิดหวัง เขาพาวินนี่เฟรดไปถึงศูนย์กลางเมืองได้สำเร็จ ในนาทีสุดท้ายของการส่งผลงาน

หลังจากนั้นวินนี่เฟรดก็ได้ส่งมอบไดรฟ์ปากกาและแฟ้มเอกสารการออกแบบให้กับแผนกลงทะเบียนและทำการลงสมัครส่งผลงานพวกเขาได้สำเร็จ

เมื่อเธอออกมาจากศูนย์กลางเมือง วินนี่เฟรดก็ถอนหายใจยาว ด้วยความโล่งอกสบายใจ

“ท่านประธานซี ผมเกรแฮม เดวิส ไม่เคยนับถือใครมากเท่านี้มาหลายปีแล้ว รองผู้จัดการซี คือหนึ่งในนั้นและคุณก็เป็นอีกคนหนึ่ง”

“อย่างนั้นเหรอคะ?” วินนี่เฟรดยิ้ม รอยยิ้มของเธอขมขื่นเล็กน้อย

เกรแฮม พูดอย่างจริงจังว่า “เหตุการณ์ในวันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นจุดจบ แต่ภายใต้การนำทางของคุณ คุณและทีมได้ค้นพบเส้นทางใหม่ในการเอาตัวรอด มิสซี ผมรู้สึกว่าการที่จะได้ติดตามคุณไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของผมคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด ด้วยเจ้านายอย่างคุณและทีมงานแบบนี้ ผมเชื่อว่า ออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ป จะสามารถขจัดปัดเป่าปัญหาต่างๆ ออกไปได้ เพื่อเติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น!”

ทันใดนั้น ไอริสผู้ซึ่งเพิ่งจะส่งผลงานเพื่อสมัครลงทะเบียน ก็เดินเข้ามาหา

“ว้าว วินนี่เฟรด ดูเหมือนแกจะทำได้ดี มีคนคอยประจบประแจงแกแล้วในตอนนี้ แกคงรู้สึกดีที่ได้ฟังคำสรรเสริญเยินยอแบบนี้ แต่ทำไมฉันกลับถึงรู้สึกขยะแขยง? บริษัทขยะอย่างออทัมน์ฟิลด์ของแกต้องการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอย่างงั้นเหรอ? ฝันต่อไปเถอะ!”

วินนี่เฟรดเหลือบสายตามองไอริส ตั้งใจจะเพิกเฉยต่อผู้หญิงที่อาฆาตมาดร้ายคนนี้

อย่างไรก็ตาม ไอริสก็ไม่ไยดี เธอยังคงดูถูกวินนี่เฟรดต่อไป “วินนี่เฟรด ด้วยทักษะที่ไม่มีเฉิดฉายอะไรของแก แกไม่รู้สึกละอายใจเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันของ Gucci บ้างหรอ? งานที่แกเคยออกแบบตอนอยู่ในซีกรุ๊ปล้วนแต่เป็นขยะ แค่รอดูเท่านั้นวินนี่เฟรด คราวนี้ผลงานของไอริส ซี จะเจิดจรัสในการแข่งขันครั้งนี้ อันดับหนึ่งต้องเป็นของฉันแน่นอน และแกก็จะได้เป็นที่หนึ่งเช่นกัน แค่นับกลับหลังมาเท่านั้น”

เมื่อได้กล่าวเช่นนั้น ไอริสก็หัวเราะออกมาดังลั่นขณะที่เธอเดินจากไป

***

เมฆดำปกคลุมท้องฟ้าที่มีแสงแดดจ้าในทันใด ที่ป้ายรถโดยสารประจำทางระยะไกลของเมืองคานห์ ยาร่าถือกระเป๋าสัมภาระขณะที่เธอรอที่ป้ายรถโดยสารประจำทางด้วยท่าทางกังวลใจ

ทันใดนั้น รถยนต์ Benz ก็มาจอดหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ คนที่ขับมาคือทราวิส เจนเซ่น ประตูเปิดออกและไอลิสก็ก้าวลงมา

“มิสไอริส” ยาร่าเงยหน้าขึ้นและเร่งรีบเข้าไปหาไอริส

“ฉันโอนเงินให้แกแล้วหนึ่งแสน นี่คือตั๋วรถโดยสารของแก”

ไอริสมอบตั๋วรถโดยสารให้ยาร่าเพื่อไปยังเมืองอื่น “ออกไปจากเมืองคานห์เดี๋ยวนี้! และยาร่า แคมป์เบล แกน่าจะรู้วิธีการของฉันดี แกมาที่เมืองคานห์ก็เพื่อเรียนมหาวิทยาลัยเท่านั้น ไม่ใช่พลเมืองของที่นี่! รับเงินนี้ไป กลับไปที่เมืองของแกและอย่าได้กลับมาที่นี่อีก! ถ้าแกกล้าสาระแนแอบกลับมาอย่างลับ ๆ อย่ามาโทษฉันที่จะไม่มีความเมตตากับแก”

ยาร่าพยักหน้า “อย่ากังวลไปเลยมิสไอริส ฉันจะไม่กลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นอน ฉันรู้สึกเสียใจมากสำหรับท่านประธานซี เกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าครอบครัวของฉันไม่ได้ล้มป่วยและต้องการเงิน ฉันคงจะไม่…”

"หุบปาก!" ไอริสเห่าหอนใส่ด้วยความรังเกียจ “ฉันไม่มีอารมณ์จะฟังแกสำนึกผิด ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ยาร่าหยุดพูดและเดินไปที่ป้ายรถโดยสารประจำทางพร้อมกับตั๋วในมือ

กลับมาที่ด้านในของรถ ไอริสยิ้มเยาะเย้ย รอยยิ้มนี้ทำให้ทราวิสตัวสั่นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เริ่มดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ทราวิสเองก็เริ่มหวาดกลัวเล็กน้อย

“ทำไมคุณให้เธอหนีไปเร็วจังล่ะ?”

“ถ้าฉันไม่ให้เธอหนีไป ฉันควรรอให้วินนี่เฟรดมาจับเธอรึไง?” ไอริสแค่นเสียง “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอีธาน ลินช์ ครั้งล่าสุดนั้นเกือบจะทำให้เสียเรื่องไปแล้ว ครั้งนี้ฉันจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก”

ไอริสเริ่มส่งเสียงเอะอะในทันที “ฉันต้องขอบอกว่างานออกแบบของวินนี่เฟรดในครั้งนี้น่าตกใจจริง ๆ เมื่อฉันได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ด้วยผลงานออกแบบของเธอ ฉันอยากเห็นหน้าตาของเธอ มันคงจะเหมือนกับว่าแม่ของเธอเพิ่งตายไป! มันจะน่าสนใจขนาดไหน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ