ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 56

บ่ายวันนั้น เมื่อยาร่าได้หายตัวไปจากบริษัท ทุกคนก็พอจะเดาออก วินนี่เฟรดไม่เคยคิดว่านักศึกษามหาวิทยาลัยที่ไร้เดียงสาอย่างเธอจะทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้

ตำรวจเริ่มการสืบสวนแล้ว แต่ยาร่าได้หนีออกจากเมือง แม้ว่าพวกเขาจะได้ตัวเธอกลับมาตอนนี้ แต่ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์ เรื่องมันก็ได้เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นวินนี่เฟรดจึงไม่อยากไล่ล่าติดตามต่อไปอีก

เพื่อป้องกันไม่ให้ไทร์และเฮเลนเป็นกังวล วินนี่เฟรดไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

หลังจากส่งผลงานของพวกเขาไปแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็เพียงแค่รอข่าวจากผู้จัดการแข่งขัน แม้ว่าผลงานชิ้นเอกของเธอจะหายไป แต่วินนี่เฟรดยังคงมั่นใจในผลงานออกแบบของเธอที่ส่งไปก่อนหน้านี้

การแข่งขันออกแบบแฟชั่นแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือให้ผู้เข้าแข่งขันเตรียมผลงานและส่งระหว่างการสมัครลงทะเบียน กระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ขั้นตอนที่สองนั้นสำหรับผู้จัดงานที่จะให้ คณะกรรมการผู้ตัดสินมืออาชีพเลือกผลงานออกแบบยี่สิบอันดับแรก หลังจากนั้นผู้จัดงานก็จะให้โรงงานผลิตผลงานออกแบบ ทั้งยี่สิบแบบเหล่านี้

รอบสุดท้ายคือการมีนางแบบมืออาชีพมาสวมชุดพวกนี้บนรันเวย์ เพื่อตัดสินการจัดอันดับในท้ายที่สุด!

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ผู้จัดงานได้เลือกยี่สิบอันดับแรกสำเร็จแล้ว ผลงานออกแบบของ วินนี่เฟรดได้ผ่านเข้ามาในรอบนี้

อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา การออกแบบทั้งหมดได้ถูกผลิตขึ้น รอบสุดท้ายของการแข่งขันออกแบบแฟชั่น ของ Gucci ที่งานแสดงเดินแบบแคทวอล์ค กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า

เวลาเก้าโมงเช้า ชั้นสามของศูนย์กลางเมืองในห้องโถงจัดแสดงงานแฟชั่น เต็มไปด้วยผู้คน นอกเหนือไปจากนักออกแบบแฟชั่นจากยี่สิบบริษัทพร้อมด้วยผู้ติดตามของพวกเขาแล้ว ผู้จัดงานยังได้เชิญคนมีชื่อเสียงในจังหวัดมาชมการแข่งขันอีกด้วย

แท่นคณะกรรมการผู้ตัดสินการแข่งขันประกอบด้วยบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในระดับสากล นอกเหนือจากมิคาเอล หัวหน้านักออกแบบระดับโลกแล้ว ผู้จัดงานยังได้เชิญมาสเตอร์อัลเลน ซึ่งมีสถานะใกล้เคียงกับมิคาเอลให้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่าการแข่งขันครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมิคาเอล

“เธอกังวลมากไหม?”

ณ ที่นั่งผู้ชม ไทร์เห็นวินนี่เฟรดขบเคี้ยวริมฝีปากของเธอ เขาจับมือเธอโดยไม่รู้ตัวและพบว่ามันเปียกชุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อ

“นายกำลังจะทำอะไร?” วินนี่เฟรดรีบดึงมือของเธอกลับมา!

“ฮี่ฮี่ เธอดูกังวลมาก ฉันเลยอยากให้กำลังใจเธอบ้าง” ไทร์ หยิบทิชชู่ไว้ในมือของวินนี่เฟรด พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา “เช็ดเหงื่อของเธอหน่อย หน้าผากของเธอเปียกหมดแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้น ฉันเชื่อในความสามารถของเธอ เธอจะเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน ท้ายที่สุด นี่คือผลงานออกแบบที่เธอและทีมของเธอร่วมสร้างกันขึ้นมา หลังจากทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งเดือนมานี้ มันจะทำให้มวลชนตกตะลึงอย่างแน่นอน!”

ไทร์ ตัดสินใจที่จะให้วินนี่เฟรดได้แสดงออกอย่างเต็มที่ในการแข่งขันครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มองลึกลงไปในเรื่องการแข่งขัน ถ้าวินนี่เฟรดไม่มีวันจะบอกเขา ไทร์ก็ไม่มีทางรู้ว่างานของเธอถูกขโมยไป ดังนั้น ไทร์ยังคงเหมารวมว่าผลงานที่ส่งประกวดคือผลงานที่วินนี่เฟรดและทีมของเธอได้ใช้เวลาครึ่งเดือนในการออกแบบ

วินนี่เฟรดสูดลมหายใจเข้า อยากจะบอกความจริงกับไทร์ แต่ท้ายที่สุดเธอก็เก็บมันไว้

ทันใดนั้น ไอริส, จอร์จ, แจ็คสัน และผู้บริหารระดับสูงของซีกรุ๊ปก็เข้ามาในสถานที่ บังเอิญที่นั่งของพวกเขาถูกจุดสรรมาให้นั่งติดกับวินนี่เฟรด

“คุณปู่ คุณลุง คุณป้า...” แม้ว่าในตอนนี้วินนี่เฟรดจะมีบริษัทเป็นของตัวเองแล้ว เธอก็ยังคงลุกขึ้นยืนทักทาย จอร์จและพรรคพวกของเขาในทันที

จอร์จชำเลืองมองวินนี่เฟรดอย่างเฉยเมย และหันหลังหนีโดยไม่กล่าวอะไร แจ็คสันและลิเลียนกลับแค่นเสียง ใบหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความดูแคลนเมื่อมองไปที่วินนี่เฟรด

“วินนี่เฟรด ฉันไม่เคยคิดว่าแกจะโชคดีขนาดนี้ที่สามารถเข้ารอบหนึ่งในยี่สิบอันดับแรกมาได้ แต่มันก็แค่เพียงยี่สิบอันดับแรกเท่านั้น ต้องมีฝุ่นเข้าไปในดวงตามิคาเอลแน่นอน เขาถึงเลือกผลงานออกแบบของแก” ไอริสตั้งใจมานั่งข้าง ๆ วินนี่เฟรด เธอต้องการใช้วิธีนี้เพื่อตบหน้าวินนี่เฟรดแรง ๆ

“วินนี่เฟรด ซี ฉันจะให้แกเห็นว่าวันนี้ฉันมันแน่แค่ไหน วันนี้แกถูกลิขิตให้เป็นที่สุดท้ายแล้ว ฉันจะเป็นผู้ชนะเลิศ!”

ไทร์แค่นเสียง “เธอไม่กลัวจะสูญเสียลิ้นจากการขี้โม้มากเกินไปรึไง? มันเหมือนกับสุภาษิตว่า 'สําเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล' คนที่ไม่มีมารยาทก็จะไม่มีวันเจริญ!”

ไอริสก็ลุกขึ้นยืนและชี้นิ้วไปที่ไทร์ “ไทร์ แกด่าใคร?”

“ใครก็ได้ ที่กำลังตะโกนอยู่” ไทร์กรอกตามองที่ไอริส “เธอจะชี้มาที่ฉันอีกทีก็ได้ ถ้าเธอกล้า”

ไอริสตัวสั่นเทา ภาพของไทร์ต่อยทะลุโต๊ะเป็นรูวนกลับมาฉายอยู่ในหัวของเธอ “ใครจะอยากไปเสียเวลากับไอ้ขอทานและคนเถื่อนอย่างแก?”

จากนั้น ผู้เข้าแข่งขัน คณะกรรมการผู้ตัดสิน ผู้ชม และสื่อมวลชนทั้งหมดก็มาถึงสถานที่จัดงาน นางแบบที่สวมใส่ผลงานออกแบบของผู้เข้าแข่งขันก็พร้อมที่จะปรากฏตัว

เมื่อการแข่งขันออกแบบแฟชั่นที่จัดร่วมกันโดย Gucci และศูนย์กลางเมือง เข้ามาสู่รอบสุดท้าย การแสดงเดินแบบแคทวอล์คบนเวทีก็เริ่มขึ้น!

บรรยากาศภายในงานเริ่มตึงเครียดขึ้นมาทันที

เมื่อดนตรีการแสดงบนแคทวอล์คเริ่มขึ้น นางแบบตัวสูงที่มีลักษณะโดดเด่นก็ขึ้นเวทีอย่างมีสไตล์ นางแบบแต่ละคนเดินไปตามรันเวย์และโพสท่าทางต่าง ๆ ที่ปลายรันเวย์เพื่ออวดความเย้ายวนใจของเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ หลังจากนั้นคณะกรรมการผู้ตัดสินด้านล่างจะให้คะแนนพวกเขา

รวมถึงมิคาเอลและอัลเลน มีคณะกรรมการผู้ตัดสินทั้งหมดสิบคน ด้วยคะแนนสูงสุดจากผู้ตัดสินแต่ละคนสิบคะแนน รวมเป็นหนึ่งร้อยคะแนน

ในไม่ช้า นางแบบสวมชุดผลลงานส่งประกวดของวินนี่เฟรดก็ปรากฏตัวขึ้นที่รันเวย์ ทุกคนต้องยอมรับว่าเมื่อพูดถึงการออกแบบแฟชั่น วินนี่เฟรดมีความสามารถและประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้ว่าผลงานชิ้นโบเอกที่เธอและทีมออกแบบไว้เป็นเวลาครึ่งเดือนจะถูกขโมยไป แต่ผลงานชิ้นใหม่ของเธอที่นางแบบสวมอยู่บนเวทีก็ยังคงทำให้เกิดเสียงอึกทึกมโหฬาร

ในที่สุด คณะกรรมการผู้ตัดสินก็แสดงผลคะแนน สิบคะแนนห้าคน เก้าคะแนนสามคน และแปดคะแนนสองคน รวมเป็นเก้าสิบสามคะแนน! ถือว่าเป็นแต้มที่สูงมาก!

นางแบบของวินนี่เฟรดคือนางแบบห้าคนสุดท้ายที่ขึ้นเวที และในตอนนี้คะแนนของเธอสูงที่สุด ด้วยเหตุนี้ วินนี่เฟรดมั่นใจหนักแน่นว่าได้ครองอยู่ในห้าอันดับแรก และมีโอกาสสูงที่เธอจะอยู่ในสามอันดับแรก แม้แต่การได้อันดับหนึ่งก็ดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้!

การติดอันดับห้าอันดับแรกหมายความว่าตอนนี้พวกเขาสามารถรับคำสั่งซื้อจากศูนย์กลางเมืองและ Gucci ได้แล้ว ดังนั้นวินนี่เฟรดจึงถือว่าประสบความสำเร็จ

“วินนี่เฟรด ฉันบอกเธอตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอทำได้!” ไทร์ไม่ได้ต้องการให้วินนี่เฟรดจำเป็นต้องได้อันดับหนึ่ง อันดับปัจจุบันของเธอเพียงพอที่จะทำให้ไทร์พอใจ “จะมีรางวัลและผลตอบแทนเสมอหลังจากการทำงานหนัก นี่คือผลงานของเธอและทีมที่ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้มันได้เฉิดฉายอยู่ในเวทีการแข่งขันครั้งนี้แล้ว”

อย่างไรก็ตาม ขณะที่วินนี่เฟรดกำลังจะเริ่มเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขนี้กับไทร์ ความมืดมัวก็ฉายวาบในดวงตาของวินนี่เฟรด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ