ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 57

เธอหันมาที่ไทร์และกล่าวอย่างลำบากใจ “ไทร์ ในเมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว ฉันจะต้องบอกความจริงกับนาย ผลงานที่เราได้ออกแบบกันก่อนหน้านี้มันไม่ใช่ผลงานที่เราส่งเข้าประกวด”

“ทำไมล่ะ?” ไทร์ไม่เข้าใจ

“เพราะว่าผลงานออกแบบถูกขโมยไป! ผลงานออกแบบชิ้นนี้คือผลงานชิ้นเก่าของฉัน ทีมของเราได้ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อประกอบร่างมันขึ้นมา มันเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง!”

ไทร์ดูตกใจ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะมีเรื่องราวอะไรแบบนี้เกิดขึ้น

“ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนหน้านี้? เธอจับคนที่ขโมยผลงานได้ไหม?”

“เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยในแผนกออกแบบ ถึงแม้ว่าการสืบสวนจะยุติแล้วแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยถูกจับ” วินนี่เฟรดถอนหายใจ “แต่มันจะมีประโยชน์อะไร ต่อให้เราจะจับตัวเธอมาได้? การแข่งขันมันก็สิ้นสุดแล้ว”

ไทร์ถอนหายใจเช่นกัน “มันเยี่ยมมาก ที่เธอยังคงได้อันดับมาครองในการแข่งขันนี้ไม่ว่าจะยังไง”

จากนั้น นางแบบอีกสองคนก็ได้เสร็จสิ้นการเดินของพวกเธอ แต่คะแนนก็ยังไม่เหนือกว่าของวินนี่เฟรด

“สามอันดับแรกเรียบร้อย!”

วินนี่เฟรดครวญครางตอบกลับ แต่เธอยังคงถอนหายใจ “อันที่จริง นักออกแบบทุกคนหวังว่าจะได้นำเสนอผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติอย่าง มิคาเอลและอัลเลน ผลงานออกแบบก่อนหน้านี้ของเราจะทำให้โลกตื่นตาและขึ้นเป็นที่หนึ่งอย่างแน่นอน แต่ผลงานชิ้นนี้ในวันนี้มีค่าแค่อันดับสามเท่านั้น!”

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ว่าผลงานชิ้นรองสุดท้ายนั้นได้คะแนนเก้าสิบห้าแต้ม

ไทร์กล่าว “ในอนาคตเดียวมันก็มีโอกาสอีก แต่ฉันสงสัยว่าผลงานชิ้นโบว์แดงของเธอมันหน้าตาเป็นยังไง เรากลับไปกันเมื่อไหร่ ช่วยออกแบบให้ฉันอีกที และฉันจะคิดหาทางเอามันไปให้มิคาเอลดู...”

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของไทร์ก็ไร้การตอบรับจากวินนี่เฟรด

นั่นก็เป็นเพราะความสนใจของวินนี่เฟรดกำลังจดจ่ออยู่บนรันเวย์

ผลงานชิ้นสุดท้ายของค่ำคืนนี้ในงานแสดงเดินแบบแคทวอล์คกำลังถูกนำเสนอ ขณะนางแบบในชุดเดรสยาว ค่อย ๆ ก้าวเดินลงมาที่รันเวย์ วินนี่เฟรดตกตะลึง

มวลชนกลับกลายเป็นส่งเสียงอึกทึก!

“โอ้พระเจ้า มัน... มันช่างงดงามมาก!”

“ยอดฝีมือคนไหนออกแบบผลงานชิ้นนี้? พวกเขาสร้างสรรผลงานบรรเจิดชิ้นนี้ขึ้นมาได้ยังไง?”

“ใช่ ใช่! มันสวยเกินไป มันเหมือนทำมาจากมือของเทพเจ้า!”

ในทันใด สถานที่ก็เต็มไปด้วยความปั่นป่วน มันเหมือนกับตอนที่มิคาเอล แจ็คสัน ได้ยืนบนเวทีเป็นเวลาสองนาทีเมื่อปีก่อนในระหว่างที่แฟนคลับของเขาส่งเสียงเชียร์และสรรเสริญ!

การออกแบบและสไตล์ของเดรสยาว นั้นใช้นวัตกรรมล่าสุดและสิ่งที่กำลังนิยมมากที่สุด ทุกโครงสร้างและการผสมผสานทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ เมื่อนางแบบสวมชุดเดรสยาวชิ้นนี้ ผลงานก็เน้นทรวดทรงของนางแบบอย่างเต็มที่ ทำให้ทุกคนคลั่งไคล้!

และนั่นยังไม่ใช่ส่วนที่ดีที่สุด! สิ่งที่บรรเจิดที่สุดเกี่ยวกับชุดนี้คือสีของมัน มันใช้กระแสล่าสุดในปัจจุบันคือการไล่ระดับสี! ลำตัวช่วงบนบริเวณหน้าอกเป็นสีเหลืองเนย และเมื่อลดระดับสายตามองลง สีก็ค่อย ๆ สว่างขึ้นจนกลายเป็นสีเหลืองเข้มในที่สุด ตามมาด้วยจุดตัดเปลี่ยนผ่านสีขาวโพลน ส่วนท้องเป็นสีเขียวชอุ่มที่สว่างขึ้นเมื่อมองลงไปเรื่อย ๆ และท้ายสุดส่วนเข่าของกระโปรงก็เป็นสีเขียวขจี

ในการผสมสี สีเหลืองกับสีเขียวไม่มีทางเข้ากันได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การไล่ระดับสีบนชุดนี้กลับทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจ เมื่อจับคู่กับการออกแบบของชุดเดรสยาวตัวนี้ ก็ทำให้ชุดนั้นดูน่าทึ่งในทันที!

นอกจากนี้ เมื่อนางแบบเดินไปถึงหน้ารันเวย์ และแสงไฟสาดส่องกระทบชุดกระโปรง สถานที่จัดงานก็โกลาหล! นั่นก็เพราะว่าสีของชุดนั้นไม่ใช่ผ้าย้อม แต่ละสีเป็นเส้นใยผ้าที่ประดับประดาบนชุดเดรสทีละชิ้น ด้วยวิธีนี้จะทำให้สีดูไม่แข็งทื่อ แต่ดูเหมือนกับขนนกแทน! ราวกับว่ามันมีชีวิต!

สิบคะแนนเต็ม

สิบคะแนนเต็ม

สิบคะแนนเต็ม

คณะกรรมการผู้ตัดสินแปดคนได้มอบสิบคะแนนเต็มเป็นที่เรียบร้อย มีเพียง มิคาเอลและอัลเลนที่มอบให้เก้าคะแนน

ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญสองคนนี้จะไม่ได้มอบคะแนนเต็มให้ เก้าคะแนนนั้นก็ถือได้ว่าสูงมาก!

ผลงานมีชื่อว่า ‘ฟีนิกซ์มรกต’ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่มันคือผลงานที่ตกตะลึงงานแสดงเดินแบบแคทวอล์ค มันแม้กระทั่งชนะเลิศอันดับหนึ่งในคะแนนรวมทั้งหมด เก้าสิบแปดแต้ม!

มิคาเอลไม่สามารถจะอดกลั้นความตื่นเต้นภายในใจของเขาได้ และเขาลุกขึ้นยืน เขามีบางสิ่งที่อยากจะกล่าวดังนั้น สถานที่จึงเงียบสงบในทันที

ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษของเขาไม่ได้ดีเลิศ มิคาเอลก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษแสดงความคิดเห็นแด่ “ฟีนิกซ์มรกต’ เพื่อแสดงความนับถือสำหรับนักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ

“ผมไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะได้เห็นผลงานที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ ในการแข่งขันออกแบบครั้งนี้ อันที่จริง ขณะที่เรากำลังคัดกรองผลงานที่สมัครเข้ามา เมื่อเราเห็นภาพแสดงสามมิติของผลงานชิ้นนี้เป็นครั้งแรก อัลเลนและผมก็ต้องตะลึงกับการออกแบบ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจให้โรงงานผลิตผลงานชิ้นนี้ในทันทีและจัดการเรียงลำดับให้ขึ้นมาเป็นตอนจบที่อลังการ ผลตอบรับและความน่าทึ่งของมันเมื่อจัดแสดงนั้นดีกว่าที่เราคิดไว้ ผลงานชิ้นนี้จะเป็นผู้ชนะเลิศในค่ำคืนนี้ ได้โปรดอนุญาตให้ผมเรียกนักออกแบบคนนี้ว่า หัตถ์แห่งเทพเจ้า!”

“ผมไม่สามารถอดกลั้นความตื่นเต้นของตัวเองได้อีกต่อไป เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่านี้… ผมแทบรอไม่ไหวที่จะให้นักออกแบบคนนี้แบ่งปันความคิดของเธอเกี่ยวกับการออกแบบผลงานชิ้นนี้กับทุกคน มีเพียงตัวนักออกแบบเองเท่านั้นจะที่สามารถนำเสนอจิตวิญญาณของชิ้นงานได้อย่างแท้จริง! เอาล่ะ เรามาปรบมือให้กับมิส…”

เมื่อมิคาเอลมองข้ามมาที่วินนี่เฟรด วินนี่เฟรดนั้นรู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังจะกระโจนออกมา ในการตอบสนอง เธออยากจะลุกขึ้นยืนแต่ไทร์ดึงตัวเธอไว้

“วินนี่เฟรด เธอกำลังจะทำอะไร?”

วินนี่เฟรดกระวนกระวายและกล่าว “ไทร์ นั่นมันผลงานออกแบบของฉัน นี่แหละ ผลงานที่ถูกขโมยไป”

“อะไรนะ?” ไทร์ตกใจ

จากนั้น มิคาเอลก็ได้ประกาศชื่อนักออกแบบ “มิสไอริส ซี!”

ในทันใด ทุกคนให้ความสนใจจดจ่อมาที่ไอริส ซี ไอริสผู้ซึ่งรอแทบจะไม่ไหวแล้วก็ลุกขึ้นยืนในทันที ภายใต้สายตาของทุกคน เธอมีรอยยิ้มไร้ยางอายขณะที่เธอเตรียมจะขึ้นเวที

วินนี่เฟรดก็ซีดเซียวในทันที “ไอริส ซี กล้าดียังไงถึงมาขโมยผลงานออกแบบของฉัน!”

ไอริสเดินไปหาวินนี่เฟรด และยิ้มเยาะ “แกพูดเรื่องไร้สาระอะไร วินนี่เฟรด? แกเสียสติไปแล้วรึไง? 'ฟีนิกซ์มรกต' คือผลงานของฉัน มันเป็นการออกแบบของฉัน ขยะอย่างแกอย่ามาใส่ร้ายฉันดีกว่า”

เมื่อพูดอย่างนั้น ไอริสก็จงใจเดินชนกระแทกวินนี่เฟรด ภายใต้แสงสปอตไลท์ เธอเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างเย่อหยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ