ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 58

สรุปบท บทที่ 58 ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ

สรุปตอน บทที่ 58 ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง – จากเรื่อง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดย บัณฑิตติดบ้าน

ตอน บทที่ 58 ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ โดยนักเขียน บัณฑิตติดบ้าน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอริส ได้กลายเป็นดาวเด่นในสถานที่แห่งนี้ ตระกูลซีที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างโลดโผน แม้แต่มือของจอร์จก็สั่นระรัวด้วยความตื่นเต้น

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าไอริส จะทำผลงานชิ้นโบว์แดงออกมาได้ขนาดนี้”

“ใช่! มันเจิดจรัสมาก ไอริส สุดยอดมาก!”

“ที่หนึ่ง! ผลงานออกแบบของไอริสได้อันดับหนึ่ง! นั่นหมายความว่าซีกรุ๊ปของเราจะมุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จ!”

ลิเลียนหันมามองวินนี่เฟรดอย่างดูถูกและถ่มถุย “ไอริสพูดถูก ก่อนหน้านี้ธุรกิจซีกรุ๊ปของเราไม่เติบโตก็เพราะวินนี่เฟรด การออกแบบของเธอมันห่วยแตก วินนี่เฟรดเธอคือตัวอุปสรรคที่มาขัดขวางหนทางความสำเร็จของตระกูลเรา ขอบคุณมากที่ตอนนี้เธอได้ตัดขาดจากตระกูลเราไปแล้ว ไม่อย่างงั้นตระกูลของเราคงล่มจมเพราะเธอ”

มันเหนือจิตนาการที่คนเป็นป้าจะกล่าวอะไรกับหลานสาวของตัวเองในทำนองนี้ ตอนนี้ไอริสได้หลอมรวมเครือญาติของวินนี่เฟรดและทั้งตระกูลให้กลายเป็นคนสกปรกแบบเธอ

วินนี่เฟรดรู้สึกด้านชา เธอไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าไอริส คือคนคนที่ขโมยงานของเธอไป เธอทำมันลงไปได้ยังไง?

สีหน้าของไทร์ตอนนี้เหมือนแหล่งรวมก้อนเมฆดำและฝนฟ้าคะนอง “ไอริส ซี แกอยากตายรึไง?”

จากนั้นไอริสได้เดินขึ้นไปบนเวทีภายใต้สายตาของทุกคน รู้สึกองอาจ มิคาเอลกำไมค์ขณะเขายิ้มให้ไอลิส การที่จะได้พบกับผลงานชิ้นเอกในประเทศนี้ ทำให้เขาตื่นเต้น

“มิสไอริส ในตอนนี้คุณสามารถอธิบายถึงแนวคิดของ ‘ฟีนิกซ์มรกต’ ที่คุณออกแบบมันได้อย่างเต็มที่ และความคิด แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจในตอนที่คุณสร้างสรรค์มัน ผมเชื่อว่าด้วยคำอธิบายของคุณจะทำให้มวลชนมองเห็นบางส่วนในก้นบึ้งของหัวใจคุณ และเข้าใจจิตวิญญาณของผู้อยู่เบื้องหลังผลงงาน ‘ฟีนิกซ์มรกต’!”

ไอริส พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและหยิบไมค์โครโฟน

“ผลงาน’ฟีนิกซ์มรกต' ชิ้นนี้เกิดจากงานอดิเรกของฉัน ฉันเป็นสาววรรณกรรม และฉันชื่นชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับเทพนิยายโบราณในประเทศของเรา ฉันโหยหาสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ในเรื่องราวเหล่านั้น และนกฟีนิกซ์เป็นนกในตำนานที่ฉันโปรดปราน ดังนั้นฉันจึงตั้งชื่อผลงานออกแบบของฉันว่า 'ฟีนิกซ์มรกต' และใช้การไล่ระดับสีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดเป็นพื้นของฉัน ด้วยการจับคู่สีเขียวและสีเหลืองเพื่อเป็นตัวแทนของฟีนิกซ์สีเขียวและเปลวไฟสีเหลือง ฉันได้ออกแบบผลงานชิ้นโบแดงนี้เพื่อทุกคน!”

ไอริส พูดอย่างฉะฉานบนเวที เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เธอขโมยการออกแบบของวินนี่เฟรด เธอได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการเตรียมสิ่งนี้ คำบรรยายเหล่านี้เป็นความคิดของเธอที่เตรียมไว้ล่วงหน้าโดยนักออกแบบแฟชั่นมืออาชีพที่เธอจ้างมา

เมื่อไอริสกล่าวเสร็จสิ้น มหาชนด้านล่างก็เริ่มปรบมือให้เสียงดัง

อย่างไรก็ตาม มิคาเอลและอัลเลนไม่ได้ปรบมือ ในทางตรงกันข้ามกลับมีร่องรอยของความผิดหวังปรากฏบนใบหน้าของมิคาเอล คำพูดและคำอธิบายนี้น่าทึ่งมากสำหรับคนทั่วไปและมันก็รวบรัด แต่สำหรับนักออกแบบชั้นนำอย่างมิคาเอลและอัลเลน มันเป็นเพียงระดับเปลือกนอกและยังขาดจิตวิญญาณ

จากนั้นอัลเลนก็ลุกขึ้นยืนและถาม “มิสไอริส คุณมีคำอธิบายเพียงเท่านี้สำหรับผลงานของคุณอย่างงั้นเหรอ?”

ไอริสตกใจก่อนจะตอบ “ใช่ ฉันได้พูดไปหมดแล้วในสิ่งที่ต้องการ”

อัลเลนหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น มิสซี คุณจงใจวางงานยากให้กับคณะกรรมการผู้ตัดสินตอนคุณส่งผลงานออกแบบนี้มารึเปล่า? อย่างเช่น คุณตั้งใจจะพลาดรายละเอียดจุดสุดท้ายและต้องการนำเสนอให้เราทราบในเวลาแบบนี้หรืออะไรทำนองนั้น เพื่อจะนำเสนอผลงานชิ้นโบว์แดงที่สมบูรณ์แท้จริงให้เราฟัง”

"ใช่แล้ว คุณคือผู้ชนะ!” มิคาเอลพยักหน้าสั้น ๆ รู้สึกผิดหวังใหญ่หลวงอยู่ในใจ งานชิ้นนี้ในค่ำคืนนี้น่าจะอลังการยิ่งกว่านี้ กระทั่งมิคาเอลแอบจะเพิ่มรายละเอียดชิ้นสุดท้ายนั้น และเตรียมรอดูผลงานที่จะตามมา แต่ผลงานออกแบบนี้ไม่ใช่ของเขา เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลงานออกแบบของคนอื่นในการแข่งขันที่มโหฬารเช่นนี้ได้

ดังนั้น งานชิ้นนี้จึงได้คะแนนเพียงเก้าสิบแปดแต้ม หากเพิ่มรายละเอียดชิ้นสุดท้ายเข้าไป มันจะเป็นร้อยคะแนนเต็ม ทำให้มันเป็นผลงานชิ้นเอกที่แท้จริง

“ขาดรายละเอียดชิ้นสุดท้าย รายละเอียดที่หายไปที่มิคาเอลพูดถึง… หรือว่าเขาได้คิดเหมือนที่ฉันทำ?”

ขณะที่ทุกคนส่งเสียงเชียร์ไอริสสำหรับการครองอันดับหนึ่ง วันนี่เฟรดกลับรู้สึกโมโหแทน

“มันจะต้องเป็นแบบนั้นแน่ ฉันใช้เวลาทั้งคืนในการคิดขั้นตอนชิ้นสุดท้ายนั้น ขั้นตอนสุดท้ายคือรายละเอียดชิ้นสุดท้าย แต่เมื่อฉันต้องการใส่รายละเอียดชิ้นสุดท้ายนั้น ผลงานออกแบบก็ถูกขโมยไป ผลงานออกแบบชิ้นนี้จะมาสิ้นสุดเพียงแค่นี้ไม่ได้ มันถูกลิขิตมาให้ตะลึงทั่วทั้งโลก!”

ก่อนหน้านี้ เมื่อใดก็ตามที่วินนี่เฟรด ถูกกระทำรังแกที่เป็นอันตรายจากไอริส เธอจะยอมอดทนให้พวกเขา แต่คราวนี้วินนี่เฟรดตั้งใจจะไม่ทนอีกต่อไป แม้ว่ามันจะสามารถทำลายตระกูลซี แต่เธอก็ต้องผลักดันผลงานออกแบบนี้ไปสู่จุดสูงสุด ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเธอเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรับผิดชอบต่องานศิลปะด้วย ยิ่งสำหรับทีมของเธอที่ทำงานร่วมกับเธอทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาสิบห้าวัน

นี่คือการต่อสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรม!

ตอนนี้วินนี่เฟรดไม่สามารถอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนได้ จิตใจของของเธอเคยปวดร้าว เพราะพวกเขาต้องการให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างอนาถ แต่ตอนนี้ วินนี่เฟรดตัดสินใจแล้วว่าจะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ