วินนี่เฟรดยืนขึ้นและกล่าวเสียงดังลั่น “มิสเตอร์มิคาเอล ผลงานออกแบบนี้มันยังไม่สมบูรณ์ มันยังขาดชิ้นส่วนสุดท้ายไป!”
หลังจากที่เธอได้กล่าวมันออกไป ทั่วทั้งสถานที่ก็จ้องมองมาที่วินนี่เฟรดสับสนงวยงงในดวงตา แม้แต่ไทร์ยังตกใจ
มิคาเอลนั้นสะดุ้ง “มิสวินนี่เฟรด คุณหมายความว่ายังไง?”
วินนี่เฟรดเดินไปบนเวที “มิสเตอร์มิคาเอล ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้เรียกว่า ‘ฟีนิกซ์มรกต’ แต่มันคือ ‘ออทัมน์ฟิลด์’ ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้เป็นฝีมือของไอริส ฉันเป็นคนออกแบบผลงานชิ้นนี้ และไอริส ซี ขโมยผลงานฉันไป!”
แผ่นดินทลาย ฟ้าร้องสนั่น! ไม่มีใครคาดคิดว่าข่าวที่น่าตกใจ เช่นนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของการแข่งขันครั้งนี้!
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็เพ่งไปที่วินนี่เฟรด กล้องของสื่อมวลชนทั้งหมดมุ่งไปหาวินนี่เฟรดด้วย
“วินนี่เฟรด ซี แกจะพูดจาไร้สาระ บ้าบออะไร? ใครขโมยผลงานออกแบบของแก? ผลงานออกแบบนี้เป็นของฉัน ไอริส ซี และแกจะสื่ออะไร ‘ออทัมน์ฟิลด์'? ชื่อนี้ช่างซื่อบื้อ แม้ว่าแกกำลังพยายามใส่ร้ายฉัน แกกลับไปทำการบ้านมาก่อนมาไม่ดีกว่าหรอ? นังโสเภณี นังสำส่อน! แกแค่อิจฉาฉันใช่ไหม รปภ.! รปภ. มาโยนผู้หญิงโรคจิตคนนี้ออกไป!”
ไอริสกำลังตื่นตระหนก ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่ทำตัวหวาดระแวงมากนัก ตระกูลซีลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเคืองขณะที่พวกเขาตำหนิ วินนี่เฟรด เรียกเธอว่าคนหน้าไม่อายและไม่เจียมเนื้อเจียมตัว!
ในทางตรงกันข้าม ไทร์กลับสงบนิ่ง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเมื่อตระกูลซี ดูหมิ่นวินนี่เฟรดต่อหน้าเขา ไทร์จะลุกขึ้นไปตบหน้าพวกโง่นั่นทั้งหมด แต่คราวนี้ไทร์ไม่ได้ทำอะไรเลย
เขาเอามือมาเกยคาง ขณะจ้องมองภรรยาบนเวทีด้วยความพึงพอใจและความตื่นเต้นในดวงตาของเขา วินนี่เฟรดในที่สุดคุณก็ลุกขึ้นสู้กลับมาได้แล้ว!
แค่คำกล่าวของวินนี่เฟรด มันแน่นอนว่ายากที่จะโน้มน้าวมวลชนได้ ในตอนนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนดูเหมือนจะเข้ามาพาตัว วินนี่เฟรดออกไป แต่มิคาเอลรีบยกมือขึ้นเพื่อหยุดพวกเขา “รอก่อน…"
“มิสเตอร์ มิคาเอล คุณคงไม่เชื่อกับเรื่องไร้สาระของนังโสเภณีคนนี้ใช่ไหม?”
มิคาเอลไม่สนใจไอริส เขาหันไปหาวินนี่เฟรดและพูดว่า “มิสวินนี่เฟรด ผมอยากได้ยินเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบของคุณ สำหรับผลงานออกแบบนี้จะเป็นของคุณหรือไม่ หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของคุณ เราจะสามารถให้คำตัดสินที่ยุติธรรมแก่คุณตามความเชี่ยวชาญของเรา แต่ผมขอเตือนคุณว่าจะมีการดำเนินคดีหมิ่นประมาท แน่นอนว่าผู้ที่ขโมยการออกแบบจะต้องถูกจัดการด้วย!”
วินนี่เฟรดก้มโค้งคำนับให้มิคาเอล “ขอบคุณ มิสเตอร์มิคาเอล สำหรับการที่มอบโอกาสให้กับฉัน”
หลังจากนั้น วินนี่เฟรดก็เริ่มอธิบายอย่างหนักแน่น
“การออกแบบนี้เรียกว่า ‘ออทัมน์ฟิลด์' แรงบันดาลใจมาจากลูกสาวและฉัน ชะตาชีวิตของเราก็เหมือนถนนในหมู่บ้านที่เป็นโคลน เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่เท่ากัน น่าสังเวช…”
ต่อไป วินนี่เฟรดใช้เวลาสองสามนาทีเพื่ออธิบาย ถึงแบลร์และชีวิตของเธอ รวมถึงการเผชิญหน้าของพวกเขาในช่วงหกปีที่ผ่านมา การเผชิญหน้าเหล่านี้เป็นหัวข้อต้องห้ามอย่างมากสำหรับวินนี่เฟรด เธอลังเลที่จะหยิบขึ้นมากล่าวก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ เธอได้ละทิ้งความกลัวไปโดยสมบูรณ์แล้วเพื่อเล่าชะตากรรมของเธอให้ทุกคนได้ฟัง
หลายคนรู้สึกซาบซึ้งกินใจ ขณะที่พวกเขาหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวอันน่าเศร้าของวินนี่เฟรด
“อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทุ่งฤดูใบไม้ร่วงจะเหี่ยวเฉาเป็นสีเหลือง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยชีวิต เช่นเดียวกับลูกสาวของฉันและตัวฉัน แม้จะต้องเผชิญกับอคติของชีวิต แต่เราจะไม่เชื่อในพรหมลิขิต เรามองโลกในแง่ดีและมีแรงจูงใจ เราเชื่อว่าในที่สุดแสงจะส่องเข้าสู่โลกที่มืดมิดและสีเทาที่เราอาศัยอยู่ ตราบใดที่เรายังมีสีสันในใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ
รอๆๆๆฟ...
ไม่อัพเดสเลย...
ไม่มีต่อแล้วหรือครับ...พอดีรอมา 2 วันแล้วครับ...