ตระกูลข้า ใครอย่าแตะ นิยาย บท 60

มิคาเอลและอัลเลนจับมือกันด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก “มิสวินนี่เฟรด มาสเตอร์อัลเลนและผมเชื่ออย่างเต็มที่ว่าคุณออกแบบผลงานชิ้นนี้ เพราะมีเพียงผู้สร้างที่แท้จริงเท่านั้นที่สามารถบรรยายถึงจิตวิญญาณของมันได้”

“ไม่ มิคาเอล คุณคิดผิด มันไม่ใช่แบบนั้น" ไอริส หมดหนทางอย่างสิ้นเชิง เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น เธอกลายเป็นบ้าไปแล้วและตอนนี้เธอกำลังตะโกนและกรีดร้องอยู่บนเวที “ผลงานออกแบบนี้เรียกว่า ‘ฟีนิกซ์มรกต' ไม่ใช่ชื่อซื่อบื้ออย่าง ‘ออทัมน์ฟิลด์' มันเป็นการออกแบบของฉัน และวินนี่เฟรดใช้ประโยชน์จากมันด้วยการพ่นเรื่องไร้สาระเท่านั้น พวกคุณไม่สามารถตัดสินใจและตัดสินได้ด้วยตัวเอง ฉันเป็นผู้ชนะเลิศของการแข่งขันครั้งนี้ ฉันคือเจ้าของ ‘ฟีนิกซ์มรกต!"

ถึงจุดนี้ ไอริสยังคงพยายามโต้เถียง อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น ตำรวจสองคนได้นำตัวยาร่า แคมป์เบล มาหาพวกเขา

“มิสไอริส คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอีก ฉันสารภาพกับเขาหมดแล้ว!”

ไอริสมองมาที่ยาร่าอย่างสับสนและพูดอย่างไม่รู้ตัวว่า “ยาร่า แคมป์เบล แก… แกกลับมาทำไม?”

“มิสไอริส จิตใต้สำนึกของฉันไม่ปล่อยให้ฉันได้พักผ่อน ฉันก็เลยยอมมอบตัวและสารภาพกับตำรวจ” ยาร่าหันไปหาวินนี่เฟรดและโค้งคำนับให้ “ฉันขอโทษท่านประธานซี ฉันเองที่รับเงินของไอริส ซีมาเพื่อขโมยผลงานออกแบบของคุณ ฉันทำให้คุณผิดหวังทั้ง ๆ ที่ความเชื่อมั่นและการอบรมเลี้ยงดูที่คุณแสดงให้ฉันเห็น ฉันอยากจะกราบขอขมาคุณ!”

วินนี่เฟรดตกตะลึงขณะที่ไอริสเริ่มบ้าคลั่งอีกครั้ง “มันคือเรื่องโกหก ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องตอแ-ล! นี่คือนักแสดงที่ได้รับการว่าจ้างจากวินนี่เฟรดเธอพยายามจะใส่ร้ายฉัน”

มิคาเอลและอัลเลน ในตอนนี้เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง พวกเขาชี้ไปที่ไอริสและดุด่า “คุณสร้างความเสื่อมเสียแก่วงการนักออกแบบอย่างเรา! อัปยศ! คุณไม่เพียงแค่ทำสิ่งเลวทราม อย่างการขโมยงานของคนอื่น แต่คุณยังละเมิดกฎการแข่งขันของเราและกฎของนักออกแบบทุกหนแห่งด้วย! กฎหมายจะลงโทษคุณอย่างหนัก!”

ไอริสยังคงส่ายหัวของเธอ “ไม่ หยุดกล่าวหาฉัน ฉันถูกใส่ร้าย”

ตำรวจไปหาไอริส ต่อหน้าทุกคนและสื่อมวลชนทั้งหมด เขาใส่กุญแจมือไอริส “ไม่ว่าคุณจะถูกใส่ร้ายหรือไม่ก็ตาม เราจะรู้ได้เมื่อคุณตามเรามาที่สถานีตำรวจและให้ความร่วมมือในการสืบสวนของเรา ยังไงก็ตาม เราได้ดึงภาพจากกล้องวงจรปิดของคุณที่ติดสินบน ยาร่า แคมป์เบล ที่สถานีขนส่งแล้ว มันจบแล้วสำหรับคุณ!”

ไอริสถูกตำรวจควบคุมตัวไปง่าย ๆ แบบนั้น ในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตของเธอ

สมาชิกตระกูลซี คนอื่น ๆ รู้สึกวิงเวียนปวดกบาล ในระหว่างที่การมองเห็นของจอร์จเลือนลาง และเขาได้หมดสติสลบคาที่

หลังจากการพลิกผันหลายครั้ง ในที่สุดการแข่งขันก็สิ้นสุดลงด้วย ‘ออทัมน์ฟิลด์' ที่เป็นผู้ชนะเลิศ!

ออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ป เซ็นสัญญาชิ้นใหญ่กับ Gucci และ วินนี่เฟรดก็กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีกับมิคาเอล

ในขณะเดียวกัน เนื่องจากการแสดงที่ตระการตาของ ‘ออทัมน์ฟิลด์' ในการแข่งขันครั้งนี้ ออทัมน์ฟิลด์กรุ๊ป ที่เพิ่งก่อตั้งใหม่จึงกลายเป็นที่พูดถึงของเมือง! ชื่อเสียงของมันในตอนนี้ได้ก้าวกระโดดขึ้นมาเทียบเท่ากับสมิธกรุ๊ป

นอกจากนั้น หลังจากการหารือระหว่างมิคาเอลและอัลเลน พวกเขาได้ตัดสินใจเชิญวินนี่เฟรดอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมงานจัดแสดงแฟชั่นระดับนานาชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น กับ “ออทัมน์ฟิลด์" ของเธอ หากวินนี่เฟรดเจิดจรัสในงานจัดแสดงแฟชั่นนั้น เธอจะกลายเป็นนักออกแบบมือใหม่ที่ทรงคุณค่าของโลกด้าน ในฐานะนักออกแบบรุ่นเยาว์

นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับวินนี่เฟรด ที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองในโลกการออกแบบ ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล

ในการแข่งขันครั้งนี้ วินนี่เฟรดและออทัมน์ฟิลด์เป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด! และผู้แพ้ที่โหลยโท่ยที่สุดคือซีกรุ๊ป

ตอนนี้ ซีกรุ๊ป อยู่ในสภาพที่เปราะบาง พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถฟื้นคืนกลับมาผ่านการแข่งขันครั้งนี้ได้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องอื้อฉาวครั้งมโฬารจะเกิดขึ้น ในชั่วพริบตาตระกูลซีถูกต้อนจนมุม และชื่อเสียงของพวกเขาก็ถูกทำลายลงทันที

ไอริสถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวน หากผู้จัดงานและวินนี่เฟรดต้องการแจ้งข้อกล่าวหา การกระทำของไอริสถือเป็นการละเมิดกฎหมาย และอาจต้องโทษจำคุก

ที่ประตูของออทัมน์ฟิลด์ รถยนต์ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดรถ ประตูเปิดออกและคนห้าคนก้าวลงมา คนเหล่านี้คือ จอร์จ, แจ็คสัน, ลิเลียน และพ่อแม่ของไอริส, เจเรด ซีและ ลิลี่ จุง แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะร่วงหล่นจากความรุ่งโรจน์และซีกรุ๊ปก็มาถึงทางตัน แต่ตระกูลซีก็ยังคงโอหังเหมือนเดิม

"แกกำลังทำอะไร? กล้าดียังไงถึงมาหยุดเรา? ไม่รู้หรอว่าเราเป็นใคร?” ลิเลียนเอามือเท้าสะเอวขณะเธอตะคอกเสียงดัง

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นพนักงานใหม่ที่ไม่รู้ว่าบรรดาคนเหล่านี้เป็นใคร "คุณคือใคร? หากไม่มีบัตรผ่าน คุณก็ไม่สามารถเข้าบริษัทได้”

“บัตรผ่านอะไร? ฉันเป็นป้าท่านประธานซีของแก ไอ้เด็กเวร กล้าดียังไงมาขวางทางเรา”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกตะลึง แต่เขาไม่กล้าปล่อยให้คนเหล่านี้เข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาทันทีและรายงานเรื่องนี้กับผู้อำนวยการโรงงาน เกรแฮม เดวิส

ไม่กี่นาทีต่อมา เกรแฮมเดินติดตามหลังโจเซฟขณะที่พวกเขาเดินมาที่ประตู

เมื่อเขาเห็นจอร์จและพรรคพวกที่ประตู โจเซฟก็กร่นด่าอยู่ในใจ โจเซฟไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่ซีกรุ๊ปเมื่อครั้งก่อน ใครทำอะไรก็จะได้อย่างนั้นดูเหมือนวันนี้จะถึงคราวของนายแล้ว จอร์จ

“พี่สอง ท่านประธานที่ยอดเยี่ยมแห่งซีกรุ๊ปอย่างนาย มาทำอะไรอยู่ที่บริษัทเล็ก ๆ ของเรา? มันไม่สมกับสถานะของนายเลย”

จอร์จดูรำคาญขณะพูดอย่างเย็นชา “ไอ้แก่สี่ ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อแก ฉันมาที่นี่เพื่อจะพบวินนี่เฟรด”

“นายมีธุระอะไรกับท่านประธานซีของเรา? นายไม่ได้ไล่ตะเพิดท่านประธานซีออกจากตระกูลซีแล้วหรอกเหรอ? ฉันได้ยินมาว่า จอร์จ ซี นายได้ตัดขาดกับหลานสาวของตัวเองแล้ว อะไรทำให้นายรู้ตัวและนึกถึงหลานสาวคนนี้ของตัวเองได้?”

สีหน้าของจอร์จมืดดำลงในทันที “ไอ้แก่สี่ นี่เป็นเรื่องของครอบครัวฉัน คนนอกอย่างแกควรเลิกเล่นตลกกลบเกลื่อนสักที พาวินนี่เฟรดออกมาที่นี่ เดี๋ยวนี้! อะไรกัน? เธอคิดว่าตอนนี้เธอแข็งแกร่งมากถึงขนาดมาดูหมิ่นคุณปู่ของเธอได้รึยังไง?”

แจ็คสันและลิเลียนรีบส่งเสียงสะท้อนอยู่ข้าง ๆ จอร์จ “ใช่! เราเป็นผุ้อาวุโสของเธอ แต่เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อต้อนรับเราด้วยซ้ำ เธอเป็นใครถึงทำตัวแข็งกร้าว?”

โจเซฟสูดหายใจเข้า เขารู้ว่าตระกูลซีมาที่นี่เพื่ออะไร “พี่สอง ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่นายจะต้องเปลี่ยนสันดานแย่ ๆ ของนาย”

โจเซฟไม่แสดงความเคารพต่อจอร์จเลยแม้แต่เล็กน้อย “พวกนายมาที่นี่ก็เพื่อขอให้ท่านประธานซีแก้ต่างให้ไอริส ซี ใช่ไหม? เพื่อหยุดมิคาเอลและศูนย์กลางเมืองไม่ให้ฟ้องไอริส และเพื่อให้ท่านประธานซีไม่ดำเนินคดีใด ๆ กับเธอ ไม่อย่างนั้นไอริสจะต้องถูกตัดสินจำคุกใช่ไหม? อีกอย่างหนึ่งคือชื่อเสียงตระกูลซีของนายก็ฉาวโฉ่อย่างสิ้นเชิง และนายมาที่นี่เพื่อจะขอให้ออทัมน์ฟิลด์สั่งซื้ออีกด้วย ฉันพูดถูกไหม? ในเมื่อนายมาที่นี่เพื่อจะขอ นายก็คงจะเป็นเหมือนขอทาน กำจัดความโอหังของนายออกไป ไม่อย่างนั้น ออทัมน์ฟิลด์ของพวกเราจะไม่ซื้อมัน!”