ช่อเอื้องตีมึนก้าวผ่านดราม่า แล้วลงมือเก็บเสื้อผ้าและของใช้ เตรียมจะย้ายออกจากหอพักพร้อมกับสองสาว
“นี่แหละที่เขาว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว” เอ็นจอยนั่งไล่อ่านคอมเมนต์ตีกลับดรีมอย่างรู้สึกสะใจ เพราะเริ่มมีคนขุดว่าเคยเห็นช่อเอื้องหิ้วกระเป๋าใบนั้นใบนี้ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
“ดีนะที่ดรีมไม่รู้ว่าพี่ภีมเป็นพี่รหัสของเอื้อง” แฮปปี้รู้ว่าดรีมแอบชอบภีมรภัทร แต่รุ่นพี่สุดหล่อกลับมาสนอกสนใจช่อเอื้อง แถมเธอยังทำหน้าที่เป็นแม่สื่อที่คอยเอาขนมต่างๆ มาให้เพื่อนสาวอยู่บ่อยๆ
“นั่นสิ! แอบหลงรักมาตั้งนาน” เอ็นจอยบอกพลางหัวเราะอย่างรู้สึกขำๆ เพราะดรีมหาข้อมูลของภีมรภัทรอย่างหนัก ทั้งบ้าน รถ และสถานที่ที่อีกฝ่ายชอบไป
“ไกลเกินเอื้อม พี่ภีมน่ะวางตัวดีจะตาย” แฮปปี้ส่ายหน้าอย่างรู้สึกอายแทนดรีมที่รีบแจ้นตามไปทุกร้านที่รุ่นพี่สุดหล่อเช็คอิน จนช่วงหลังๆ อีกฝ่ายต้องแกล้งเช็คอินหลอกๆ เพราะรำคาญ
“ฉันว่าพี่ภีมมาดเยอะนะ ไม่งั้นคงจีบเอื้องตรงๆ ไปแล้ว” เอ็นจอยเอ่ยหยอกคนที่มัวแต่เก็บของ
“บ้า!” ช่อเอื้องหันไปมองค้อนเพื่อนสาวทันใด
“สรุปวันนี้ไปกินเลี้ยงฉลองที่รีสอร์ตอินธิรากรณ์นะ” แฮปปี้ถามเรื่องสำคัญ เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ. แล้ว
“อืม! ว่าแต่ไม่คิดจะไปกินที่ร้านอื่นกันบ้างเหรอ?” ช่อเอื้องพยักหน้ารับก่อนจะแกล้งถาม เพราะช่วงหลังๆ เพื่อนสาวทั้งสองไปทานที่รีสอร์ตบ่อยมาก เนื่องจากชื่นชอบอาหารสไตล์เกาหลีและปิ้งย่างของทะเลสดๆ
“ไม่! ร้านนี้ดีที่สุดจ้ะ อีกอย่างถ้าเราไปกินวันนี้ ฉันกับเอ็นจอยจะได้แก้วกาแฟน่ารักๆ คนละชุด” แฮปปี้บอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
“ใช่! ฉะนั้นวันนี้แผนของเราคือบุฟเฟต์ทะเลกับโซจู” เอ็นจอยบอกจุดยืนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“อืม! บุฟเฟต์ทะเลกับโซจูเท่านั้น” แฮปปี้เอ่ยตามด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
“คิกๆๆ” ช่อเอื้องหัวเราะขึ้นอย่างขบขัน เพราะสำหรับสองฝาแฝดแล้ว เรื่องกินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว เรื่องกินถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด
สองวันต่อมา...แม่ทัพพาช่อเอื้องนั่งเครื่องบินไปทำบุญครบรอบวันที่ศรชัยจากไป ที่กรุงเทพฯ.
“คิดถึงพ่อชัยอยู่เหรอ?” แม่ทัพเอ่ยถาม หลังจากพากันไปทำบุญมาเสร็จ สาวเจ้าก็อยู่ในอาการเหม่อลอย
“ค่ะ คิดถึงวันเก่าๆ” ช่อเอื้องยักหน้ารับเบาๆ
“อืม...ตอนวันแม่ พ่อชัยขี่มอเตอร์ไซค์พาหนูไปเที่ยวที่ไหนบ้าง?”
“หลายที่เลยค่ะ”
“งั้นไปย้อนรอยความหลังกันไหม?” แม่ทัพเอ่ยชวน
“พี่ทัพว่างเหรอคะ” ช่อเอื้องขมวดคิ้วถามอย่างรู้สึกเกรงใจ
“สำหรับหนูพี่ว่างเสมอครับ”
ช่อเอื้องขยับตัวไปหอมแก้มเจ้าชายอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างเลย”
“พี่ยินดีครับ” แม่ทัพบอกพลางจูงมือนางฟ้าคนสวยให้ลุกขึ้น
“หนูเอาโกศของพ่อไปด้วยได้ไหมคะ” ช่อเอื้องถามอย่างอายๆ แม้จะดูเหมือนคนบ้าไปสักนิด แต่เธอก็อยากจะพาพ่อไปด้วย
“ได้สิ! ได้อยู่แล้ว” แม่ทัพพยักหน้ารับอย่างเอ็นดูและเข้าใจความรู้สึกของสาวตรงหน้า
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องฉีกยิ้มกว้างแล้วโผเข้ากอดคนตัวโตที่ทั้งหล่อและใจดีกับเธอเสมอ
แม่ทัพกอดตอบและโยกตัวเบาๆ จากนั้นก็พานางฟ้าคนสวยไปเปลี่ยนชุดให้เข้ากับการนั่งซ้อนท้ายชอปเปอร์ของตน
สิบห้านาทีต่อมา...หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จช่อเอื้องก็ลงลิฟต์มายังชั้นจอดรถของแม่ทัพ ก็เห็นรถชอปเปอร์คันใหญ่จอดอยู่ใกล้ๆ กับบอดี้การ์ดสองคน ที่ยืนถือหมวกกันน็อกรออยู่
แม่ทัพหยิบหมวกกันน็อกมาสวมเสร็จ ก็หยิบอีกใบมาสวมให้นางฟ้าคนสวยที่สะพายกระเป๋าด้านหลังซึ่งมีโกศของคุณพ่ออยู่ จากนั้นก็เดินไปนั่งคร่อมชอปเปอร์คันใหญ่แล้วกดสตาร์ทเครื่อง
ปรื้น...ปรื้น...
เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มนิดๆ ทำให้ช่อเอื้องรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ขึ้นมาสิครับ” แม่ทัพหันไปขยิบตาให้นางฟ้าคนสวยที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)