ไม่อยากจะเชื่อ! บอสพาเด็กมาฟาดที่เพนต์เฮาส์เหรอวะ?’
“สวัสดี” แม่ทัพตอบก่อนจะเดินตรงไปยังรถแอสตัน มาร์ตินสีดำเงาที่จอดอยู่ แล้วค่อยๆ ปล่อยสาวในอ้อมกอดลงยืนบนพื้นอย่างช้าๆ
“นี่รถคุณเหรอคะ” ช่อเอื้องจ้องมองรถซูเปอร์คาร์อย่างรู้สึกตื่นเต้น
“ใช่ รีบๆ เข้าไปนั่งสิ” แม่ทัพสะกิดเตือนหญิงสาว
“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับ แล้วย่อตัวลงไปนั่งที่เบาะหนังนุ่มๆ อย่างรู้สึกประหม่า
แม่ทัพก้มตัวลงไปดึงเข็มขัดมาคาดให้นางฟ้าคนสวย จากนั้นก็ปิดประตูรถให้ แล้วรีบเดินอ้อมไปประจำตำแหน่งของตน ก่อนจะค่อยๆ ขับออกไปตามทาง
สามสิบนาทีต่อมา...
ช่อเอื้องที่ตื่นเต้นกับการได้นั่งรถหรูเพียงครู่ ก็เริ่มกลับมากังวลใจ เพราะอีกแค่สองแยกไฟแดงก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่รถกลับติดนานจนแทบจะไม่ขยับไปไหนมาร่วมสิบนาที เธอจึงหยิบปากกาของเขาที่วางอยู่ใกล้ๆ มาจดเบอร์โทร. ของตัวเองใส่ที่ด้านหลังของสลิปใบเสร็จร้านสะดวกซื้อ แล้วยัดมันลงในมือของคนเถื่อน
“หนูรอไม่ไหวแล้วค่ะ นี่เบอร์โทรของหนู” หญิงสาวบอกจบก็เตรียมจะปลดเข็มขัดที่คาดอยู่ออก
“จะทำอะไร” แม่ทัพขมวดคิ้วถามอย่างมึนงง
“หนูจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ตรงนั้นไปค่ะ” ช่อเอื้องบอกด้วยสีหน้าจริงจัง อะไรบางอย่างทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่มและกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ได้! เธอต้องไปกับฉัน” ชายหนุ่มหันไปกดล็อกประตูรถทันที
“แต่หนูเป็นห่วงพ่อค่ะ” ช่อเอื้องบอกอย่างใจคอไม่ดี
“พ่อเธอไม่เป็นไรหรอกเอื้อง” แม่ทัพรีบปลอบใจสาวขี้แยที่ทำท่าจะร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่...” ช่อเอื้องพยายามจะเอ่ยท้วง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายตัดบท
“ไฟเขียวแล้ว” แม่ทัพรีบออกรถไปทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนสี
ช่อเอื้องน้ำตาคลอ ยกมือขึ้นไหว้อธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองบิดาของเธอให้ปลอดภัย แม่ทัพหันไปมอง เห็นสาวเจ้าน้ำตานองหน้า จึงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูส่งให้อย่างรู้สึกแน่นไปทั้งหน้าอก
สิบห้านาทีต่อมา...โรงพยาบาล
ช่อเอื้องลงจากรถเสร็จ ก็วิ่งเข้าไปข้างในโรงพยาบาล โดยไม่รอฟังเสียงเรียกของสารถีที่ขับรถมาส่ง พอเข้าไปถึงด้านหน้าล็อบบี เธอก็เห็นนิลยากับคงศักดิ์ ยืนหันหลังอยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉิน จึงรีบเดินเข้าไปถามอย่างร้อนใจ
“ป้านิลคะ! พ่อเป็นยังไงบ้าง”
“ฮึก...” นิลยาหันไปมองตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย พลัน! น้ำตาที่ยังไม่ทันแห้งก็ไหลทะลักออกมาอีกครั้ง
“เอื้อง...พ่อเขาหมดทุกข์แล้วลูก” คงศักดิ์หันไปตอบแทนภรรยาด้วยสายตาแดงก่ำ ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะกะทันหันแบบนี้
“มะ...ไม่จริง!” ช่อเอื้องส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้ รีบวิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที พอเห็นร่างของบิดานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเผือด จึงเข้าไปเขย่าเรียก
“พ่อ! พ่อตื่นสิ พ่อทิ้งเอื้องไปไม่ได้นะ ฮือๆๆ แล้วต่อไปนี้เอื้องจะอยู่กับใคร ฮือๆๆ” คนที่ทั้งชีวิตมีแต่พ่อปล่อยโฮออกมาทันใด
“เอื้อง...” นิลยาเตรียมจะเข้าไปกอดเด็กสาว แต่ก็ถูกสามีห้ามเอาไว้
“ปล่อยให้เอื้องได้สั่งลาพ่อเถอะนิล” คงศักดิ์บอกขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง แม้จะไม่ใช่ญาติกัน แต่เอื้องกับศรชัยก็เป็นยิ่งกว่าคนในครอบครัว เพราะไปมาหาสู่กันนับสิบกว่าปีแล้ว
“เอื้อง!” คนที่วิ่งตามมา ยืนจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างรู้สึกหดหู่ เตรียมจะเข้าไปปลอบสาวเจ้าที่ร้องไห้จนตัวสั่น แต่ก็ถูกใครอีกคนดึงแขนเอาไว้
“คุณเป็นใคร?” นิลยาถามชายหนุ่มที่รูปร่างสูงอย่างรู้สึกคุ้นหน้าของอีกฝ่าย
“เอ่อ...ผมมากับเอื้องครับ” แม่ทัพตอบด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เมื่อเห็นผู้ใหญ่ทั้งสองยืนจ้องใบหน้าของตนนิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)