ยี่สิบนาทีต่อมา...ช่อเอื้องเดินออกจากห้องมาด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ รู้สึกแปลกๆ กับชุดและรองเท้าคัทชูสีขาวมีส้นนิดๆ อย่างบอกไม่ถูก
“ฉันเตรียมแฮมเบอร์เกอร์เอาไว้แล้ว คิดว่าจะทานในรถ จะได้ประหยัดเวลา” แม่ทัพอมยิ้ม เมื่อเห็นสาวเจ้าใส่ชุดที่เตรียมไว้ให้แล้วดูสวยสง่า แม้ว่าใบหน้างามนั้นจะดูเศร้าหมองไปนิดก็ตาม
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องหลบสายตาของหนุ่มตรงหน้าที่ใส่สูทสีดำเนี้ยบแลดูภูมิฐาน ทรงผมถูกมัดรวบเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่นเดียวกับหนวดเคราที่อยู่บนใบหน้า มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งขึ้นมานิดๆ
“เราไปกันเลยนะ” แม่ทัพหันไปหยิบถุงกระดาษที่มีทั้งแฮมเบอร์เกอร์เฟรนช์ฟรายส์และน้ำส้มคั้นมาถือ จากนั้นออกเดินตรงไปที่ประตูห้อง
“ค่ะ” ช่อเอื้องเดินตามอีกฝ่ายไปด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น ทั้งโกรธ ทั้งอาย ทั้งเสียใจ ทั้งขุ่นเคือง ทั้งนอยด์ สารพัดความรู้สึกที่ประเดประดังเข้ามาให้ครุ่นคิดอยู่ไม่ขาดสาย
สิบนาทีต่อมา...หลังจากที่รถตู้คันใหญ่แล่นออกมาได้สักพัก ช่อเอื้องก็ถูกแม่ทัพขู่ให้กินแฮมเบอร์เกอร์ให้หมดชิ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่พาไปงานศพของพ่อ ทำเอาคนที่กลืนอะไรไม่ลง จำต้องฝืนใจก้มหน้ากินทั้งน้ำตาคลอหน่วย
“น้ำส้ม” แม่ทัพรีบส่งไปให้ หลังจากที่สาวเจ้าทานเสร็จ
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องรับมาดื่ม พร้อมกับเบือนหน้าหนีคนชอบบงการชีวิตคนอื่น
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิเอื้อง เธอไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวัน แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปช่วยป้านิลรับแขก” แม่ทัพกลอกตากับท่าทีของสาวเจ้า
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องหันไปยกมือไหว้ราวกับซาบซึ้งในความหวังดีของอีกฝ่าย จากนั้นหันไปมองข้างทางต่ออย่างไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงของเขา
ทันทีที่ไปถึงงาน...ช่อเอื้องก็รีบลงจากรถ แล้วเดินไปหยุดยืนมองรูปถ่ายของบิดาที่จัดอยู่บนบอร์ดหน้างานอย่างรู้สึกอยากจะร้องไห้ เพราะรูปทุกใบล้วนแต่เป็นรูปถ่ายที่เธอโพสต์ลงในเฟซบุ๊กตามช่วงเวลาต่างๆ
แม่ทัพที่เดินตามหลังมาติดๆ รีบหยุดชะงักเมื่อเห็นสาวเจ้ายืนนิ่งอยู่กับที่
“เอื้อง! มาแล้วเหรอลูก” นิลยาที่เป็นคนจัดงานร่วมกับสายบัว ซึ่งเป็นคนสนิทของแม่ทัพ เอ่ยทักทายเด็กสาวที่แต่งตัวดูดีราวกับคนละคนที่เธอเห็นมา ตั้งแต่เด็ก
“ป้านิล” ช่อเอื้องโผเข้ากอดผู้ใหญ่แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“ชู่ว์ๆ ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวพ่อจะมีห่วง” นิลยารีบปลอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งจะหยุดร้องไห้ไปเมื่อสองชั่วโมงก่อน
“ฮึก...ค่ะ” ช่อเอื้องรีบเช็ดน้ำตาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ
“เชิญข้างในค่ะคุณทัพ” นิลยาหันไปเชิญคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังด้วย สีหน้ายิ้มๆ
“ครับ”แม่ทัพยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีมารยาท
“เอื้องพาคุณทัพไปจุดธูปไหว้พ่อก่อนนะ เดี๋ยวป้าจะไปหาน้ำมาต้อนรับ”นิลยาหันมาบอกเด็กสาว
“ค่ะป้านิล” ช่อเอื้องพยักหน้ารับ แล้วหันไปเอ่ยกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง “เชิญค่ะ”
“ครับ” แม่ทัพยิ้มแล้วเดินตามสาวเจ้าเข้าไปข้างในศาลาเพื่อจุดธูปบอกกล่าวและขอขมาดวงวิญญาณบิดาของอีกฝ่าย
ช่อเอื้องเดินเข้าไปด้านในศาลาก็ถึงกับอึ้ง เพราะดอกไม้มากมายที่ถูกจัดล้อมรอบรูปขนาดใหญ่ของบิดาและโลงศพนั้น ดูงดงามราวกับว่าเป็นงานศพของคนรวย
“ขอบคุณคุณมากๆ นะคะ ที่จัดการทุกอย่างให้พร้อมขนาดนี้” เธอหันไปบอกและยกมือไหว้เขาอย่างรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ
“ผมเต็มใจทำให้ครับ” แม่ทัพรีบยกมือขึ้นรับไหว้
ช่อเอื้องรู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก จึงรีบหันไปหยิบธูปหอมที่วางอยู่บนโต๊ะมาจุด แล้วส่งไปให้กับอีกฝ่าย
แม่ทัพรับธูปมาถือ แล้วพนมมือไหว้พร้อมกับจ้องมองรูปของบิดาหญิงสาว “ผมแม่ทัพ อินธิรากรณ์ครับคุณพ่อ ขอให้สัญญาว่าต่อจากนี้ไปผมจะดูแลช่อเอื้องด้วยชีวิต คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ ขอให้คุณพ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี หากชาติหน้ามีจริง มาเกิดเป็นลูกของผมกับน้องเอื้องนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)