วันต่อมา...เวลา 11:42 น.
โดมเดินขึ้นลิฟต์มาอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แอบคิดไปว่า...เมื่อวานคงจะง้อกันดุเดือดมาก เพราะป่านนี้ผู้เป็นนายยังไม่ยอมออกจากห้องพักเลย แต่ตนก็ต้องใช้เอกสารสำคัญ จึงคิดว่าจะย่องเข้าไปเอาที่ห้องทำงาน แล้วก็จะรีบออกมา
แต่พอเดินออกจากลิฟต์ เตรียมจะกดรหัสผ่านที่หน้าเพนต์เฮาส์ของ ผู้เป็นนาย อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าของมือถือดังขึ้น พอล้วงออกมาดูแล้วเห็นว่าเป็นลูกน้องที่ให้ไปดักเฝ้าช่อเอื้องที่สนามบินเมื่อวาน ก็รีบกดรับสายอย่างตกใจ เพราะตนลืมบอกยกเลิกการทำงาน และป่านนี้ช่อเอื้องกับผู้เป็นนายคงจะคืนดีกันแล้ว
[พี่โดมครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว] ปลายสายชิงพูดขึ้นก่อน
[เรื่องอะไร?]
[คือว่า...] คนที่แอบไปงีบมา เอ่ยรายงานเสียงสั่น ไม่นึกว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ขนาดที่ว่าตนเองก็ทันได้เห็นแค่ช็อตสุดท้ายเข้าพอดี
โดมได้ฟังถึงกับชาวูบตั้งแต่หัวจรดเท้า รีบกดรหัสที่แป้นพิมพ์ แล้วเดินเข้าไปหาผู้เป็นนาย ก็พบว่าอีกฝ่ายนอนอยู่บนโซฟารับแขก สภาพเมาเละ แถมบนโต๊ะยังมีขวดเหล้าเปล่าวางอยู่สองขวด ‘บ้าจริง! นี่บอสคงจะรอคุณเอื้องมาง้อจนเมาหลับ ไปสินะ’
“บอสครับ บอส!” โดมเขย่าเรียกผู้เป็นนายเบาๆ อย่างร้อนใจ
“อื้อ...มีอะไรวะ” คนที่อยู่ในอาการสะลึมสะลือขานรับเสียงเบาหวิว
“คุณเอื้อง...” โดมเอ่ยค้างไว้อย่างรู้สึกใจคอไม่ดี ‘เอาละเว้ย! งานเข้ากูแน่ๆ’
“มาแล้วเหรอ?” ทันทีที่ได้ยินชื่อของนางฟ้าใจร้าย แม่ทัพก็รีบขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับยกมือขึ้นลูบและจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็ตีหน้าขรึมทันใด
“เปล่าครับ เธอ...เอ่อ...นั่งเครื่องบินไปอังกฤษกับคุณมาลีนเมื่อครู่ครับ” โดมรายงานความจริงให้ทราบ
“อะไรนะ!” แม่ทัพถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“คุณเอื้องขึ้นเครื่องบินไปอังกฤษกับคุณมาลีนแล้วครับ” โดมกลั้นใจเอ่ยพร้อมกับเตรียมตั้งรับพายุเฮอริเคนลูกใหญ่ที่กำลังจะพัดถล่มในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
“ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ” แม่ทัพหน้าตึงขึ้นมาทันทีทันใดที่รู้ว่าสุดท้ายแล้วช่อเอื้องก็เลือกการไปเรียนแลกเปลี่ยนมากกว่าตน จึงหันไปเตะแจกันที่วางอยู่ใกล้ๆ อย่างโมโห
โครม! เพล้ง!
“บะ...บอสใจเย็นๆ ก่อนครับ” โดมรีบบอกเมื่อเห็นแจกันใบใหญ่แตกละเอียดคาตา
“พระเจ้า! แม่ฉันเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดบนโลกใบนี้” แม่ทัพโกรธจนสั่น คิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะมารดาของตน ที่มักจะคิดและทำอะไรผิดแปลกไปจากชาวบ้าน เช่นการสนับสนุนให้ช่อเอื้องไปเรียนแลกเปลี่ยนแทนการมาง้อและปรับความเข้าใจกับตนซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ
“เอ่อ...คุณมาลีนคงจะโกรธที่บอสควงคุณแซนดี้มั้งครับ”
“ไอ้โดม! คนอื่นเขามองจากดาวอังคารมายังรู้เลยว่ากูประชด แทนที่จะรีบพาเอื้องมาง้อกู นี่อะไร? พาเมียกูบินหนีไปอังกฤษเฉยเลย” แม่ทัพบอกอย่างรู้สึกเดือดๆ
“ให้ผมจองตั๋วเครื่องบินให้เลยไหมครับ” โดมถามอย่างเอาใจ
“ไม่ต้อง ถ้ารีบไปตอนนี้แม่ฉันจะต้องรอเย้ยอยู่แน่ๆ” คนอีโก้สูงมาตั้งแต่เกิดบอกอย่างไว้เชิง
“งั้นรอให้คุณมาลีนกลับมาก่อน ค่อยจองตั๋วเครื่องบินนะครับ” โดมเสนอทางออก
“อืม” แม่ทัพพยักหน้ารับอย่างรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจ กลัวว่ามารดาจะอยู่ที่อังกฤษลากยาวเป็นเดือน ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงต้องขาดใจตายแน่ๆ
“แล้วคืนนี้บอสจะไปดินเนอร์ที่โรงแรมมะลิฉัตรอีกไหมครับ”
“ไม่! ยกเลิกแผนทุกอย่างเลย รวมไปถึงยกเลิกสัญญาจ้างแซนดี้ด้วย”
“ครับบอส” โดมพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรู้สึกโล่งใจนิดๆ ที่ไม่ถูกต่อว่าเรื่องที่ตนส่งลูกน้องไปเฝ้าดูความเคลื่อนของช่อเอื้องและคุณมาลีนมาที่สนามบิน แต่กลับทำงานพลาดครั้งใหญ่
สามวันต่อมา...ขณะที่แม่ทัพกำลังรออย่างใจจดใจจ่อว่ามารดาของตนนั้นจะกลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่ คนสนิทก็เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“บอสครับ! ดูนี่สิครับ” โดมรีบส่งมือถือของตนเองให้กับผู้เป็นนาย
{ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมามีแต่คนถามดิฉันไม่หยุดเกี่ยวกับเรื่องของบุตรชาย ว่าคนนี้ใช่ไหมว่าที่ลูกสะใภ้ คำตอบคือ...ก็คงต้องแล้วแต่บุตรชายค่ะ โดยส่วนตัวนั้น...มองว่าอีกฝ่ายคงจะหมดบุญวาสนาไปแล้ว}
“ไอ้เชี่ยนั่นใคร” แม่ทัพอ่านแคปชั่นพร้อมกับจ้องมองผู้ชายที่นั่งส่งยิ้มให้กับช่อเอื้องซึ่งนั่งหันหลังอยู่ภายในห้องอาหารของโรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์ อย่าง จำได้ เพราะตนมักจะเข้าไปพักที่นั่นทุกครั้งที่เดินทางไปอังกฤษ
“ไม่แน่ใจว่าเป็นแขกของโรงแรมหรือว่าคนรู้จักของคุณมาลีนครับ”โดมตอบอย่างไม่มั่นใจ ดูทรงตอนนี้คุณมาลีนคงกำลังเริ่มเล่นเกมเอาชนะกับบุตรชายเหมือนเช่นทุกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)