อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 67

ชั่วโมงต่อมา...นายแพทย์ใหญ่เดินเข้าไปในห้องรับรอง พร้อมกับจ้องมองคนที่นั่งกุมขมับอยู่ ซึ่งตอนนี้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

“คนรักผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” แม่ทัพเงยหน้าขึ้นถามอย่างเป็นห่วง

“เอ่อ...คนไข้พักผ่อนน้อยแล้วก็มีอาการเครียด ผมก็เลยให้ยานอนหลับไป คาดว่าน่าจะตื่นพรุ่งนี้สายๆ ครับคุณทัพ” นายแพทย์บอกก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

“ขอบคุณครับ” แม่ทัพยกมือไหว้อย่างโล่งใจ

“ว่าแต่...เธอเป็นคนรักของคุณทัพจริงๆ เหรอครับ” นายแพทย์ถามย้ำ อีกครั้ง แม้ว่าจะดูไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องถามเพื่อความแน่ใจ เพราะเท่าที่ทราบมา...ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคบหาอยู่กับนางแบบที่ชื่อซอนย่า ไม่ใช่เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงในห้องพักฟื้นตอนนี้

“จริงครับ อาหมอจะสอบถามกับคุณแม่ก็ได้ ท่านรู้จักกับน้องเอื้องเป็นอย่างดี” แม่ทัพรีบบอก กลัวว่าเรื่องราวจะลุกลามไปใหญ่โต เพราะสภาพที่ล่อแหลมของเขาเมื่อครู่ ดูๆ แล้วชวนให้คิดว่าเขาพาสาวไปข่มขืนจนเธอหมดสติ เลยรีบพามาส่งที่โรงพยาบาล

“เกิดอะไรขึ้นก่อนเธอจะหมดสติครับ” นายแพทย์เจาะลึกลงไปอีกนิด เพื่อให้คลายข้อสงสัย

“เอ่อ...เราทะเลาะกันนิดหน่อยครับ แล้วน้องเอื้องก็ร้องไห้จนเป็นลมหมดสติไปอย่างที่เห็น” แม่ทัพบอกอย่างรู้สึกผิด

“คุณทัพคบหากับคุณเอื้องมานานหรือยังครับ”

“นานแล้วครับ หลายปี ผมตั้งใจเอาไว้ว่าหากเอื้องเรียนจบเมื่อไหร่ ก็จะแต่งงานทันที แต่เราก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันซะก่อน”

“เรื่องนางแบบที่คุณทัพควงเหรอครับ?”

“เปล่าครับ เรื่องที่เอื้องแอบไปสอบชิงทุนเรียนแลกเปลี่ยนที่อังกฤษ โดยไม่บอกผมครับ”

“เธอสอบได้เหรอครับ?” นายแพทย์ใหญ่วางปากกาลงแล้วรอฟังคำตอบอย่างสนใจ

“ครับ” แม่ทัพพยักหน้ารับเบาๆ

“โห...เรียนเก่งนะครับเนี่ย ถ้าเป็นลูกสาวผมสอบได้ ผมคงจะภูมิใจสุดๆ” นายแพทย์ใหญ่ฉีกยิ้มกว้างออกมาทันใด

“ครับ” แม่ทัพได้ฟังคำตอบก็ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา ใช่! ทุกคนที่รู้ว่าช่อเอื้องสอบชิงทุนไปเรียนแลกเปลี่ยนได้ ก็พูดกันทำนองนี้ทุกคน ยกเว้นเขา เขาที่เห็นแก่ตัว สนแค่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น

นายแพทย์ใหญ่เดินเข้าไปลูบแผ่นหลังปลอบอย่างเข้าใจความรู้สึกของคนที่น่าจะเพิ่งคิดได้

แม่ทัพคุยกับนายแพทย์ใหญ่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขอตัวเข้าไปดูช่อเอื้องที่ในห้องพักฟื้น แต่พอเข้าไปในห้อง เขากลับพบเพียงความว่างเปล่า

“เอื้อง! เอื้องอยู่ไหน” แม่ทัพตะโกนเรียกหาจนทั่วห้องก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของสาวเจ้า

“กะ...เกิดอะไรขึ้นคะ” พยาบาลที่อยู่ด้านนอกวิ่งเข้ามาถามด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เอื้องอยู่ไหนครับ?” แม่ทัพหันไปถามอย่างร้อนใจ

“เอ่อ...เมื่อครู่คนไข้นอนอยู่บนเตียงนี่คะ” พยาบาลเอ่ยยืนยันด้วยสีหน้า สุดช็อก เพราะตนเองคือคนสุดท้ายที่เข้ามาในห้องนี้ ซึ่งก่อนออกไปก็ยังห่มผ้าให้กับคนไข้อยู่เลย

“แล้วเธอหายไปไหน เมียผมหายไปไหนครับ” แม่ทัพบอกอย่างคนสติแตก

“จะ...ใจเย็นค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้คนช่วยกันออกตามหา” พยาบาลรีบปลอบญาติคนไข้อย่างใจคอไม่ดีเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้นครับบอส” บอดี้การ์ดที่ไปซื้ออาหาร เครื่องดื่มบำรุงและผลไม้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตด้านข้างโรงพยาบาลกลับมา รีบเอ่ยถามอย่างตกใจ หลังได้ยินเสียงของผู้เป็นนายร้องโวยวายดังออกไปถึงด้านนอก

“เอื้องหายไป พวกแกรีบออกไปตามหาเร็ว” แม่ทัพหันไปสั่งลูกน้อง อย่างร้อนใจ

“ครับ” บอดี้การ์ดสามคนวางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ จากนั้นก็พากันออกไปตรวจเช็คที่ทางเข้า-ออกกันจ้าละหวั่น

ด้านคนที่เพิ่งจะได้รับข่าวสายตรงจากนายแพทย์ประจำตัว ก็รีบโทร. หาบุตรชายอย่างโมโห หลังทราบว่าช่อเอื้องถูกหามส่งโรงพยาบาลกลางดึก

[นี่มันเรื่องอะไรกันฮะทัพ ลูกทำอะไร เอื้องถึงต้องเข้าโรงพยาบาลกลางดึกแบบนี้]

[เอ่อ...แม่ครับ ตอนนี้เอื้องหายไปครับ] แม่ทัพรีบบอกเพราะหวังจะให้มารดาช่วยส่งคนออกตามหาอีกแรง

[อะไรนะ] มาลีนถามอย่างตกใจ

[เอื้องหายไปครับ ฮึก...ผมผิดเอง ผมผิดทุกอย่างเลย] แม่ทัพเอ่ยรับ ทั้งน้ำตา

“ไม่มีทาง! เอื้องเป็นเมียผม” แม่ทัพบอกอย่างไม่ยอม

“ให้ตายสิทัพ! ลูกกล้าเรียกเอื้องว่าเมียได้ยังไง?” มาลีนถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“ก็เธอเป็นเมียผมจริงๆ นี่ครับ” แม่ทัพมองมารดาอย่างข้องใจ ว่าเหตุใดถึงถามตนแบบนี้

“แล้วสิ่งที่ลูกทำกับเอื้องล่ะ ไม่ละอายบ้างเหรอ?” มาลีนต่อว่าด้วยสีหน้าตึงๆ เธอไม่อยากจะเข้ามายุ่งเรื่องของบุตรชายกับช่อเอื้อง คิดว่ายังไงก็คงจะปรับความเข้าใจกันได้ แต่สุดท้ายก็พังเละ

“ก็ตอนนั้นผมโกรธ” แม่ทัพบอกพร้อมกับเบือนหน้าหนี

“ฟังนะ! จะอะไรก็ช่าง หากง้อไปแล้วไม่สำเร็จ ครั้งนี้ลูกต้องปล่อยเอื้องไป เพราะอะไรรู้ไหม?”

“แม่จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะครับ”

“เพราะลูกน่ะเลวระยำเกินกว่าจะได้รับการให้อภัยไงล่ะ” มาลีนบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน

“แม่!” แม่ทัพหันไปมองมารดาอย่างรู้สึกเคืองๆ ในคำกล่าวหา

“ทำไม?” มาลีนถามกลับอย่างไม่พอใจ

“เอื้องไม่มีทางไปอยู่กับคุณดาหลันหรอก” คนที่ผิดเต็มประตูบอกเสียงอ่อน เพราะลึกๆ ก็ไม่มั่นใจว่า...สาวเจ้าจะเลือกอยู่กับตน

“อย่ามั่นใจนักเลย ลูกเองก็ไม่ได้รู้ที่ไปที่มาจริงๆ ของเอื้อง” มาลีนบอกอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“แม่ก็บอกผมมาสิ”

“เฮ้อ...ไปตามสืบเอาเองเถอะทัพ แม่ช่วยลูกมาเยอะแล้ว ครั้งนี้ขอยืนดูเฉยๆ ดีกว่า” มาลีนบอกจบก็เดินตรงไปยังประตูหน้าบ้านทันที

“แม่! แม่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ” แม่ทัพรีบลุกตามไปต่อว่า

“ได้สิ! แม่ทำได้ เหมือนที่ลูกทำกับเอื้องไง” มาลีนทิ้งทวนก่อนจะเดินตรงไปยังบ้านพักของตัวเองอย่างรู้สึกสะใจบุตรชาย ที่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจ เจ้าคิดเจ้าแค้น กลั่นแกล้งช่อเอื้องสารพัด ซึ่งกว่าจะคิดได้ก็ตอนที่อีกฝ่ายหนีไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)