อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 66

คนที่กำลังโมโหหึง ตามขึ้นไปทาบทับแล้วลงมือถอดเสื้อผ้าของสาวเจ้า ออกอย่างไม่รอช้า

“ไม่เอานะ ปล่อย!” ช่อเอื้องที่ทนรับการระบายอารมณ์ต่อไปไม่ไหว รีบขยับตัวหนี

“จะหนีทำไม ยังไงวันนี้เธอก็ต้องโดนฉันเอาอยู่ดี” แม่ทัพเอ่ยด้วยสายตาเหยียดๆ และนั่นทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของช่อเอื้องขาดลง

เพียะ! เธอตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างโมโห

แม่ทัพหน้าชาไปทั้งซีก รีบขยับลุกจากเตียง เดินตรงไปยังตู้โชว์ แล้วดึงลิ้นชักออก แล้วคว้านหาของที่อยู่ข้างใน

“จะ...จะทำอะไร” ช่อเอื้องถามด้วยสีหน้าตื่นๆ หลังเห็นอีกฝ่ายถือกุญแจมือเดินกลับมาหา

“มานี่!” แม่ทัพกระชากข้อมือของสาวเจ้ามาแล้วตวัดกุญแจมือสวม จากนั้นก็กดล็อกทันที

“ไม่นะ! อย่าทำกับหนูแบบนี้” ช่อเอื้องส่ายหน้าและพยายามขยับหนีอย่างรู้สึกหวาดกลัว แต่กลับถูกอีกฝ่ายคว้ามือข้างที่ยังเป็นอิสระไปใส่กุญแจมือ แล้วดึงไปคล้องกับเสาที่หัวเตียง

“พี่ทัพ! ปล่อยหนูนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้” ช่อเอื้องวิงวอนขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย แต่เขากลับแสยะยิ้ม แล้วเปิดเกมรักอย่างดุเดือดราวกับจะลงโทษที่เธอบังอาจฝากรอยนิ้วมือเอาไว้บนหน้าของเขา

ห้าวันต่อมา...บ้านพักท้ายรีสอร์ตอินธิรากรณ์

ใช่! ทุกอย่างมันเริ่มต้นแบบมึนๆ ในตอนที่เขาเมา แล้วจบลงด้วยเซ็กซ์ร้อนๆ ทั้งบนเตียง ห้องแต่งตัว ในห้องน้ำรวมไปถึงห้องทำงาน พระเจ้า! เขาทำตัวราวกับว่าเป็นพระเอกหนังเอ็กซ์ ที่อยากจะจัดตรงไหนก็ทำ แถมยังอึดซะจนเธอแทบจะลุกจากเตียงไม่ขึ้น

และพอเช้าของวันใหม่เมื่อไหร่ เขาก็จะหายหน้าไปทั้งวัน จะโผล่หน้ามาอีกทีก็ตอนค่ำๆ ตอนที่เมาได้ที่พอจะพูดจาหยาบๆ มองเธอด้วยสายตาขวางๆ และหาเรื่องชวนทะเลาะ มันเหมือนไม่ใช่เขาคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก หรือแท้จริงแล้ว...มันอาจจะเป็นอีกด้านหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้ว่าเขามี

“คุณทัพคะ” ช่อเอื้องสะกิดเรียก หลังจากถูกอีกฝ่ายประเคนบทรักที่เร่าร้อนไปถึงสองยกติดๆ กัน

“มีอะไร?” แม่ทัพขยับลุกจากเตียง แล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม

“เอ่อ...คุณทัพจะคืนโกศของพ่อให้เอื้องเมื่อไหร่คะ” ช่อเอื้องทำใจกล้าเอ่ยถามเรื่องที่ทำให้เธอต้องมาทนรับสภาพนางบำเรออย่างไม่มีกำหนด

“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อย่ามาถามเซ้าซี้ได้ไหม” คนที่ใจหนึ่งก็อยากจะคืนดีด้วย แต่ใจหนึ่งยังคงโกรธ ตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ

“เอื้องอยากจะไหว้พ่อค่ะ” เธอบอกเสียงสั่นเครือ น้ำตาปริ่มๆ จะไหลอาบแก้ม

“หึ! พอได้เสร็จเธอก็จะรีบหนีฉันไปต่างหากเอื้อง” แม่ทัพบอกอย่างรู้ทัน หลายวันที่ผ่านมา หากมีสักครั้งที่เธอยอมขอโทษเขาอย่างจริงใจ ป่านนี้เขาก็คงจะรีบไปเข้าครัว ทำอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เหมือนที่ผ่านมา แต่เปล่าเลย เธอยังนิ่งเฉย ยิ่งครุ่นคิดหาเหตุผล ยิ่งสับสน แถมพอมีเรื่องของหนุ่มที่ชื่อภีมเข้ามา เขาก็รู้สึกเหมือนว่า...อาการที่นิ่งเฉยนั้น คืออาการของคนที่กำลังรอจังหวะจะทิ้งเขาไปอีกครั้ง

“แล้วจะให้เอื้องอยู่ในฐานะอะไรคะ คุณทัพเองก็คบหาอยู่กับคุณซอนย่า เราทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” ช่อเอื้องต่อว่าทั้งน้ำตา

“ทำไมจะทำไม่ได้ วันก่อนเธอก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนหรือโวยวายอะไรนี่” แม่ทัพถามกลับอย่างกวนๆ

“มันไม่เหมือนกันค่ะ” ช่อเอื้องที่จมอยู่กับความเครียดตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพราะกลัวว่าจะมีข่าวของตัวเองกับเจ้าชายมาดดุหลุดไปอยู่บนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ให้สังคมได้วิจารณ์ ซึ่งเธอก็คงจะหนีไม่พ้น ต้องกลายเป็นคนผิดที่เข้าไปยุ่งกับแฟนของคนอื่น

“ตรงไหนที่ไม่เหมือน” แม่ทัพถามอย่างไม่เข้าใจ

“ฮึก...ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณคิดว่าเอื้องทิ้งคุณไป คุณไม่แม้แต่จะยอมฟังเหตุผล หรือทำความเข้าใจมันเลยสักครั้ง” คนที่ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ถือโอกาสเท้าความในเรื่องที่ผ่านมาผสมกับเรื่องในปัจจุบันไปเลย เพราะยังไงแล้วมันก็คือเรื่องเดียวกัน

“ทำไมฉันจะไม่เข้าใจ เธอมันก็แค่ผู้หญิงทะเยอทะยานไม่มีที่สิ้นสุด” แม่ทัพตอกกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“สำคัญสิ ฉันรักเธอนะเอื้อง” แม่ทัพบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามากอด แต่กลับถูกเธอผลักออกอย่างแรง

“หนูไม่คู่ควรกับคำนั้นหรอกค่ะ อีกอย่างตอนนี้คุณก็มีคนที่คบหาอยู่แล้ว”

“ไม่ได้คบ ฉันแค่ควงประชดเธอเท่านั้น” แม่ทัพสารภาพตามตรง

“ฮึก...คุณไม่ควรเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงคนไหนแบบนี้” ช่อเอื้องต่อว่าอย่างรู้สึกโกรธที่อีกฝ่ายเห็นผู้หญิงเป็นเหมือนกับของเล่น ที่พอเบื่อก็เขี่ยทิ้งไปแบบไม่ไยดี

“พวกเธอรู้จุดยืนของตัวเอง ฉันไม่เคยให้ความหวังกับผู้หญิงคนไหน เพราะผู้หญิงคนเดียวที่รักมาตลอดหลายปี รักตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเธออยู่ในอ้อมกอด ฉันก็บอกกับตัวเองว่า...ฉันจะใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้หญิงคนนี้” คนที่โดนต้อนให้จนมุม บอกสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในใจ

“แต่คุณก็ไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น” เธอร้องไห้สะอื้นอย่างเจ็บช้ำใจเมื่อนึกไปถึงดารา-นางแบบหลายคนที่เขาเคยเป็นข่าวด้วย

“สาบานได้ว่าไอ้ที่เห็นควงๆ อยู่น่ะ ฉันไม่เคย....เอื้อง! เอื้อง!” แม่ทัพยังพูดไม่ทันจบ ก็รีบเข้าไปประคอง และช้อนอุ้มคนที่เป็นลมหมดสติไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านนอก จากนั้นก็ขับพาไปยังโรงพยาบาลอย่างใจคอไม่ดี

โรงพยาบาลเอกชน...

“คนไข้เป็นอะไรครับ?” แพทย์ใหญ่ที่มาเข้าเวรรอบดึกเอ่ยถามทันทีที่เห็นหนุ่มคนดังอุ้มหญิงสาวออกมาจากรถด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เธอเป็นลมหมดสติไปครับหมอ” แม่ทัพที่สวมแค่เสื้อคลุมบอกพร้อมกับวางช่อเอื้องลงบนเตียงที่บุรุษพยาบาลเข็นมารอ

“เชิญคุณทัพเข้าไปนั่งรอในห้องนั้นก่อนครับ” นายแพทย์ใหญ่บอกพร้อมกับหันไปมองรอบๆ อย่างรู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนไข้ ไม่อย่างนั้นคงจะมีคนถ่ายรูปเจ้าของค่ายมวยดัง ที่สวมแต่เสื้อคลุมไปลงข่าวพรุ่งนี้เช้าเป็นแน่

“ครับ ฝากดูแลเอื้องด้วยนะครับอาหมอ” แม่ทัพบอกก่อนจะเข้าไปนั่งรอในห้องรับรองวีไอพี แล้วโทร. สั่งบอดี้การ์ดให้นำเสื้อผ้ามาให้ตนเปลี่ยนที่โรงพยาบาล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)