อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 69

“คะ...ครับ”

“ให้ตาย! รีบๆ ไปคุยกับป้าเพ็ญเลยนะ จะสู่ขอเมื่อไหร่ก็บอก ฉันกับแม่จะเป็นเถ้าแก่และเจ้าภาพจัดงานให้” แม่ทัพบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างเพลียๆ

“ขอบคุณครับบอส” โดมฉีกยิ้มให้ผู้เป็นนาย พลางคิดไปว่า...พรุ่งนี้สายๆ จะเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางฝั่งของชบาดูก่อนคร่าวๆ ได้เรื่องยังไงก็ค่อยกลับมารายงานผู้เป็นนายอีกที

ด้านช่อเอื้องที่หนีออกจากโรงพยาบาล โดยแอบคายยานอนหลับทิ้ง และอาศัยจังหวะตอนที่พยาบาลเดินออกไป รีบหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน แล้วเดินหลบเลี่ยงไปตามทาง จนกระทั่งไปชนเข้ากับใครคนหนึ่งอย่างจัง

พอเงยหน้าขึ้นมองก็ถึงกับดีใจ เพราะอีกฝ่ายคือแม่บ้านที่ทำความสะอาดบ้านพักของแฮปปี้กับเอ็นจอย เธอจึงขอร้องให้ป้าดาช่วยพาเธอหลบหนีออกจากโรงพยาบาล ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับที่อีกฝ่ายมาเยี่ยมญาติและกำลังจะกลับ เธอจึงติดรถของป้าดาออกจากโรงพยาบาล

จากนั้นก็โทร. ไปขอความช่วยเหลือจากแฮปปี้และเอ็นจอย ซึ่งทั้งสองก็ให้แม่บ้านขับรถพาเธอไปส่งยังบ้านพักตากอากาศนอกเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร เธอกำชับสองสาวว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร โดยเฉพาะชบา เพราะตอนที่เลี้ยงอำลาการฝึกงานที่บริษัทของแม่ทัพ เธอเห็นเพื่อนสาวพูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกับโดม ราวกับว่าทั้งสองเป็นคนรักกัน ทำให้เธอแปลกใจเป็นอย่างมาก และพอเช็คกับทางมหา’ลัย ก็ทราบว่า...ที่ชบาไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อังกฤษนั้น ไม่ได้ไปเพราะสอบชิงทุนได้ แต่อีกฝ่ายไปด้วยทุนของตัวเอง

หลังจากที่ประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก็ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่า...ชบาอาจจะเป็นคนที่แม่ทัพส่งมาสอดส่องความประพฤติของเธอ จึงต้องเอ่ยกำชับกับสองฝาแฝด เพราะเธอยังไม่พร้อมจะเจอะเจอกับเจ้าชายมาดดุในตอนนี้

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ช่อเอื้องพักอยู่กับ ‘ป้าดา’ แม่บ้านของเพื่อนสาวทั้งสอง ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนจะเงียบสงบ เธอตัดขาดการสื่อสารทุกอย่าง พร้อมกับสร้างเกราะขึ้นมาปกป้องตัวเอง และหันหลังให้กับทุกๆ เรื่องราวที่แสนเจ็บปวด ทั้งเรื่องของแม่ทัพ และเรื่องของมารดา ที่ตั้งใจแล้วว่า...จะเก็บแต่ความรู้สึกดีๆ ที่เคยได้รับเอาไว้ในความทรงจำ เธอรู้ว่าโลกใบนี้...ไม่ได้สวยงามไปทุกวินาที ที่เวลาเดินผ่าน แต่มันก็ไม่ได้เลวร้าย จนทำให้ต้องจมอยู่กับน้ำตาตลอดไปเช่นกัน

ช่อเอื้องตื่นเช้าขึ้นมา...แล้วสูดกลิ่นอายของวิถีชีวิตผู้คนในชนบท ที่เจอหน้ากันครั้งใด ก็มักจะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอยู่เสมอ แม้จะไม่ใช่ญาติ หรือคนรู้จักกันก็ตาม แต่หนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นญาติกับทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ไปหมดแล้ว

“คุณเอื้องคะ ป้าจะเข้าเมืองไปซื้อของ คุณเอื้องจะไปกับป้าไหมคะ” ดาเอ่ยถามหลังจากที่เอาตะกร้าใส่ท้ายรถเรียบร้อยแล้ว

“ไปค่ะ” ช่อเอื้องเดินไปหยิบถุงผ้าใบเล็กๆ ที่ตัวเองนั่งเย็บเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมาใส่ลงในกระเป๋าเสื้อ แล้วหันไปหยิบหมวกแก๊ปกับแมส (หน้ากากอนามัย) มาเตรียมพร้อมอำพรางใบหน้า เวลาที่ต้องลงไปซื้อของในเมือง จากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถเก๋งคู่กับคนขับที่แสนจะใจดี เดินทางเข้าเมืองไปหาซื้อของกินของใช้มาตุนเพิ่มในตู้เย็นขนาดใหญ่กับตู้แช่แข็ง รอเพื่อนสาวทั้งสองที่จะเดินทางมาหาในวันพรุ่งนี้ เพื่อจะร่วมทำบุญสร้างห้องสมุดของหมู่บ้านด้วยคอมพิวเตอร์ประมาณยี่สิบเครื่อง และ WI-FI สำหรับให้เด็กๆ เข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลในการเรียน

หลังจากที่ช่วยซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตจนได้ของที่ต้องการครบแล้ว ช่อเอื้องก็ขอตัวไปซื้อของสำคัญในร้านขายยา เนื่องจากรอบเดือนของเธอขาดไปหลายวัน จึงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ พอได้ของที่ต้องการแล้ว ก็พากันเดินทางกลับบ้านพักนอกเมืองทันที

พอมาถึงบ้านพัก ช่อเอื้องก็ช่วยป้าดาแพ็คของเก็บของเข้าตู้เย็นรวมไปถึงหมักเนื้อต่างๆ ทิ้งเอาไว้ เพราะสองสาวระบุมาว่า...ต้องการจะจัดหนักจัดเต็ม หมูกระทะในตอนที่มาถึง

วันต่อมา...ช่อเอื้องแทบช็อกหลังตรวจฉี่แล้วรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ขณะที่มึนๆ งงๆ ชาๆ ที่หน้าอยู่นั้น เสียงกริ่งที่ประตูรั้วหน้าบ้านก็ดังขึ้น เธอรีบ ส่งสายตามองลอดผ่านบานเกล็ด ก็เห็นแฮปปี้กับเอ็นจอยยืนชะเง้อมองเข้ามาข้างในบ้าน จึงเก็บที่ตรวจครรภ์ แล้วรีบลงไปเปิดประตูบ้านให้กับเพื่อนรักทั้งสอง

“สบายดีไหมเอื้อง” แฮปปี้สวมกอดเพื่อนสาวอย่างคิดถึง

“อืม...ดูสดใสขึ้นนะ” เอ็นจอยรวบฝาแฝดและเพื่อนสาวเข้ามากอด

“ขอบใจจ้ะ ว่าแต่ขับรถมาจากกรุงเทพเลยเหรอ” ช่อเอื้องฉีกยิ้มหวานให้เพื่อนรักทั้งสอง พลางจ้องมองรถหรูอย่างมึนงง จำได้ว่า...รถคันนี้สองสาวใช้ตอนฝึกงานที่กรุงเทพฯ.

“ก็ใช่น่ะสิ! ขากลับค่อยนั่งเครื่อง ว่าจะทิ้งรถคันนี้ไว้ให้เอื้องใช้ที่เชียงราย” เอ็นจอยคลายอ้อมแขนออก แล้วหันไปมองรถคู่ใจที่ผลัดกันขับมากับฝาแฝด

“แหม...เราไม่ได้ออกไปที่ไหนหรอก นานๆ เข้าเมืองกับป้าดาทีหนึ่ง” ช่อเอื้องบอกอย่างเกรงใจ แค่เพื่อนทั้งสองให้มาพักที่บ้านหลังนี้และให้เงินสดจำนวนหนึ่งติดตัวไว้ใช้ เธอก็ซาบซึ้งใจสุดๆ แล้ว

“หมูกระทะพร้อมหรือยังเอื้อง?” แฮปปี้เห็นเพื่อนสาวทำท่าจะร้องไห้ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“พร้อมแล้ว จะกินตอนนี้เลยไหม?” ช่อเอื้องถามยิ้มๆ

“จัดสิคะ รออะไรไม่ทราบ” แฮปปี้บอกด้วยสีหน้าคึกคัก

“แช่เบียร์เอาไว้หรือยัง?” เอ็นจอยถามอย่างรู้สึกเปรี้ยวปาก

“มีจ้ะ ป้าดาแช่เอาไว้ให้แล้ว” ช่อเอื้องบอกยิ้มๆ

“อ่อ...แล้วป้าดาไปไหนเหรอเอื้อง?” แฮปปี้ถามหาแม่บ้านคนโปรด

อย่าเกรงใจโถไอ้เกลอ น้ำมีดีกรีซื่อสัตย์ต่อเรา

ดื่มน้ำอำพันดื่มฝันอัมพร อ้อนลมชมดาว

เอื้อมเด็ดบางดวงร่วมเร้า มาเล้ามาโลมสมใจทุกคืน

อารมณ์ ในรสของแอลกอฮอล์

โกเล้งยังเมาไม่พอ แม้นมรณาคอเหล้ายิ้มยื่น

ท่านสุนทรภู่ทิศบูรพา หยัดยืน

อยากบอกแหลงคนอื่น ๆ

ล้วนเป็นตัวยืนเสน่ห์เมรัย

แดดร่มลมแผ่ว มานั่งชนแก้วริมคลอง

ไม่มีบรั่นดีสีทอง ก็มีบรั่นดอง ชุ่มใจ

นักร้องดนตรี กีตาร์ช้อนชามจะนำเราไป

สุขาวดีรำไร เลี้ยงดวงฤทัยสหายสุรา...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)