หลังจากที่กินหมูกระทะกันจนอิ่ม สองสาวแฮปปี้กับเอ็นจอยที่เมาได้ที่ พากันร้องเพลงอย่างสนุกสนาน โดยมี ป้าดา ที่พอทำพะโล้ไก่หม้อใหญ่เสร็จ ก็ถูกลากมาดื่มและกินหมูกระทะด้วยกัน นั่งปรบมือเข้าจังหวะกับช่อเอื้อง ให้กำลังใจสองสาวที่ดูจะมีความสุขมากกว่าใครในสามโลก
สองชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่ร้องเพลงและลุกขึ้นเต้นด้วยกันประหนึ่งคนเก็บกด แฮปปี้ เอ็นจอย และแม่บ้าน ก็พากันแยกย้ายไปหลับบนเก้าอี้ไม้หวายและเก้าอี้ไม้สักทองตัวใหญ่อย่างสิ้นฤทธิ์
ช่อเอื้องมองแต่ละคน พลางส่ายหน้าขำๆ ก่อนจะลุกไปเก็บของและตักพะโล้ไก่ที่ยังอุ่นๆ ใส่ถุง 50 ชุด พอเสร็จก็ลุกไปอาบน้ำ แล้วมานอนเล่นที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่ใต้ถุนบ้านตัวที่ยังว่างอยู่ ขบคิดปัญหาของตัวเอง และอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่กำลังถือกำเนิดขึ้นในร่างกายของเธอ
‘ไม่เป็นไรหรอกเอื้อง ขนาดพ่อชัยยังเลี้ยงเธอมาได้เลย แล้วทำไมเธอจะเลี้ยงลูกเองไม่ได้ล่ะ’ ช่อเอื้องปลอบใจตัวเองเสร็จก็ลูบที่หน้าท้องเบาๆ “ไม่ต้องห่วงนะ แม่จะเลี้ยงดูและให้ความรักหนูเองจ้ะ”
เวลา 19:09 น. (งานวัด)
ช่อเอื้องเดินเข้าไปในงานวัดเล็กๆ ของหมู่บ้าน โดยมีสองสาวแฮปปี้กับ เอ็นจอย เดินประกบข้างซ้ายและขวา เรียกสายตาของคนในหมู่บ้านให้พากันหันมามองกันอย่างสนใจ รวมไปถึงช่างภาพหนุ่มที่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่โฮมสเตย์ของหมู่บ้านใกล้ๆ ก็แวะมาเที่ยวงานวัดและถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่มีมนต์เสน่ห์ตาม วิถีชีวิตของผู้คนในชนบท ซึ่งก็บังเอิญสะดุดตาเข้ากับดอกไม้งามอย่างจัง
“ผมขอถ่ายรูปพวกคุณหน่อยได้ไหมครับ” เจซี เอ่ยขอสามสาวด้วยรอยยิ้ม
“ได้ค่ะ” แฮปปี้ขานรับพร้อมกับสะกิดเพื่อนสาวและฝาแฝดให้ฉีกยิ้มสู้กล้อง
ช่อเอื้องกับเอ็นจอยพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มหวานๆ ให้กับช่างภาพอย่างมึนๆ
“สวยมากครับ 1-2-3” เจซีให้สัญญาณพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆ
แชะ! แชะ! แชะ!
“ขอบคุณมากๆ ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากได้ภาพที่ต้องการ
“เอ่อ...ขอดูหน่อยได้ไหมคะ” แฮปปี้ถามยิ้มๆ
“ได้ครับ” เจซีรีบกดให้หญิงสาวดู
“ว้าว! ดูดีแฮะ” แฮปปี้ยื่นกล้องราคาแพงไปให้กับเพื่อนสาวและฝาแฝดดู เพราะการถ่ายภาพหมู่ ไม่ใช่ว่าจะออกมาดูดีทุกคน แต่ช่างภาพหนุ่มหล่อคนนี้ กลับถ่ายออกมาได้เพอร์เฟกต์สุดๆ
“จริงด้วย!” เอ็นจอยมองภาพถ่ายแต่ละรูปอย่างรู้สึกอึ้ง
“อยากให้ผมส่งรูปให้ไหมครับ”
“คุณอยู่ที่หมู่บ้านนี้เหรอคะ” แฮปปี้ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
“เปล่าครับ ผมมาเที่ยว แต่ผมส่งรูปให้ได้ หากคุณให้ที่อยู่กับผม”
“ได้ค่ะ มีไลน์ไหมคะ” แฮปปี้ถามยิ้มๆ
“มีครับ” เจซีรีบล้วงมือถือมาแอดไลน์สาวสวยอย่างรวดเร็ว
เอ็นจอยแอบกลอกตาหลังเห็นฝาแฝดของตน กดเบอร์มือถือแลกไลน์กับช่างภาพหนุ่มอย่างหน้าชื่นตาบาน
ช่อเอื้องแอบหัวเราะเบาๆ กับท่าทีของเพื่อนสาว ก่อนจะขอตัวแล้วพากันไปเดินดูซุ้มต่างๆ ที่มีทั้งปากระป๋อง ยิงปืน บิงโก ซึ่งพวกเธอก็แวะเล่นกันมาจนครบ กระทั่ง...มาถึงซุ้มผีสิง ช่อเอื้องก็ขอผ่าน แต่แฮปปี้กับเอ็นจอยขอเข้าไปทดสอบความสยอง เธอยืนรออยู่ข้างหน้าซุ้มครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงแฮปปี้กรีดร้อง จากนั้นก็ได้เสียงผู้ชายร้องดังขึ้น โอ๊ย! เจ็บ! เจ็บ! แล้วเห็นแฮปปี้ลากแขนเอ็นจอยวิ่งย้อนศรออกมาตรงทางเข้าด้วยสีหน้าตื่นๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” ช่อเอื้องถามอย่างสงสัย
“ก็เอ็นจอยน่ะสิ ทั้งต่อยทั้งเตะผีจนลงไปนอนงอเลย” แฮปปี้บอกพร้อมกับกลอกตา ไม่รู้ว่าป่านนี้ผู้ชายคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง
“คิกๆๆ” ช่อเอื้องได้ฟังก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“ก็มันตกใจนี่” เอ็นจอยบอกพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“เฮ้อ...ไปต่อที่ซุ้มยาดองกันดีกว่า” แฮปปี้บอกด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“เราขอผ่านนะ” ช่อเอื้องรีบบอก
“แต่ฉันไม่มีทางผ่านแน่นอน” เอ็นจอยบอกอย่างเปรี้ยวปากขึ้นมานิดๆ ทั้งที่เพิ่งจะหายสร่างเมา
“งั้นเราขอไปนั่งชิงช้าสวรรค์นะ” ช่อเอื้องบอกยิ้มๆ
“โอเค! พวกเรารออยู่ที่ซุ้มนี้” แฮปปี้บอกก่อนจะดึงฝาแฝดเข้าไปพิสูจน์ ดีกรีของยาดองแต่ละขนานว่าจะเด็ดดวงเหมือนที่เคยได้ยินมาหรือเปล่า
“จ้ะ” ช่อเอื้องขานรับ ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋ว แล้วเข้าไปนั่งในชิงช้าสวรรค์ซึ่งค่อยๆ เคลื่อนตัวหมุนวนไปตามเข็มนาฬิกาอย่างช้าๆ
ความรู้สึกมากมายก็ประเดประดังเข้ามา เมื่อนึกไปถึงชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอนับต่อจากนี้ พลัน! ความเหงา ความกลัว และความเคว้งคว้างก็ค่อยๆ จางหายไป พร้อมกับความหวังใหม่ที่จุดประกายให้เธอลุกขึ้นมายิ้มสู้กับปัญหาต่างๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)