อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 73

“แล้วเขาเป็นคนที่ไหนครับคุณตา” โดมตะโกนถามอย่างอยากรู้ ว่าสิ่งที่ตนให้ลูกน้องไปสืบมากับสิ่งที่คนในหมู่บ้านแห่งนี้รู้จะตรงกันหรือเปล่า

“เป็นคนกรุงเทพมั้งครับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ” ตาษาตอบก่อนจะเดินลงบันไดเข้าไปหาสองหนุ่มที่หน้าบ้าน

“ขอบคุณคุณลุงมากๆ ครับ นี่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากผม” แม่ทัพล้วงน้ำใจส่งให้อย่างซาบซึ้งใจ ที่อีกฝ่ายให้ความกระจ่างแก่ตน ไม่เช่นนั้นคงจะต้องเดินวนรอบหมู่บ้านจนเหนื่อยแน่ๆ

“แหม...ขอให้อายุมั่นขวัญยืนครับ ว่าแต่มากันยังไงเนี่ย?” ตาษารับ น้ำใจจากหนุ่มหล่อเอาไว้เป็นค่ายาดอง เอ๊ย! ตามมารยาท

“รถผมจอดอยู่ที่งานกีฬาครับ” แม่ทัพบอกอย่างรู้สึกเพลียๆ

“งั้นเดี๋ยวให้สนมันขี่มอเตอร์ไซค์ของผมไปส่งครับ” ตาษาบอกอย่างใจดี เพราะกว่าจะเดินกลับไปที่งานกีฬาสีก็อีกตั้งไกล

“ขอบคุณครับ” แม่ทัพกับโดมยกมือไหว้ ก่อนจะพากันไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่สนจูงออกมารอจากใต้ถุนบ้าน มุ่งหน้าขับตรงกลับไปยังงานกีฬาสีกลุ่มอีกครั้ง

สามชั่วโมงสามสิบเจ็ดนาทีต่อมา...สนามบินนานาชาติเชียงราย

“บอสครับ! คนของผมส่งข้อมูลมาบอกว่าเที่ยวบินที่คุณเอื้องเพิ่งจะจองตั๋วไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้ไปถึงกรุงเทพแล้วครับ” โดมบอกผู้เป็นนายหลังเปิดอ่านข้อความจากลูกน้องเสร็จ

“บ้าจริง! สั่งนักบินของเราให้เตรียมตัวสแตนด์บายรอที่บนเครื่องบินได้เลย” แม่ทัพสั่งการอย่างหัวเสีย

“ครับ” โดมพยักหน้ารับก่อนจะแชตไปบอกนักบิน

“แกรู้แล้วใช่ไหมว่าสองสาวนั่นพักอยู่ที่ไหน?”

“รู้แล้วครับ พวกเธอเพิ่งจะย้ายเข้าไปพักที่คอนโดใหม่ ฐานะทางบ้านร่ำรวยไม่เบาเลย” โดมสปอยล์ประวัติของสองสาว ที่แม้แต่ชบาก็ยังไม่รู้เลยว่าเพื่อนสาวมาจากตระกูลที่ร่ำรวย

“ส่งคนไปเฝ้าที่บ้านของเอื้องในชุมชนไว้แล้วใช่ไหม?”

“ครับ” โดมพยักหน้ารับเบาๆ

“ขอให้เจอตัวเอื้องทีเถอะ สาบานเลยว่าครั้งนี้ฉันจะไม่ทำพังอีก” แม่ทัพบอกด้วยสีหน้าตึงเครียด

“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ” โดมบอกก่อนจะออกเดินนำผู้เป็นนายไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับกรุงเทพฯ.

สองชั่วโมงต่อมา...คอนโดสองสาวฝาแฝด

โดมพาผู้เป็นนายมาหยุดอยู่หน้าเพนต์เฮาส์ของสองสาว แล้วยกมือขึ้นกดกริ่งเรียก ไม่ถึงนาทีประตูบานใหญ่ก็เปิดออก

คลิก!

“มาหาใครคะ?” เอ็นจอยถามพร้อมกับมองสองหนุ่มอย่างมึนงง

“ผมมาหาเอื้อง เอื้องอยู่กับคุณใช่ไหมครับ” แม่ทัพถามเสียงอ่อน

“คุณแม่ทัพ?” แฮปปี้ที่เดินตามมาแกล้งเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตกใจ

“ใช่ครับ ผม...แม่ทัพ อินธิรากรณ์ เป็นคนรักของเอื้อง” แม่ทัพแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

“แหม...ไม่น่าจะใช่นะคะ เดือนก่อนคุณยังควงนางแบบดังอยู่เลย” เอ็นจอยได้ทีก็ตอกกลับอย่างกวนๆ ‘หึ! หน็อย! ทำเอื้องเสียใจแล้วยังมีหน้ามาตามง้ออีก ไอ้คนเจ้าชู้ หน้าหม้อ ฟันไม่เลือก’

“ผม...” แม่ทัพถูกย้อนศรถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก

“เอื้องไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ” แฮปปี้บอกด้วยสีหน้านิ่งๆ

“แต่เอื้องขึ้นเครื่องมากับพวกคุณ” แม่ทัพบอกอย่างไม่เชื่อ

“ไม่ค่ะ! ไม่ได้มาด้วย” เอ็นจอยส่ายหน้าปฏิเสธ

“แต่คุณซื้อตั๋วให้กับคุณเอื้อง” โดมปล่อยหมัดเด็ดใส่สองสาวแทน ผู้เป็นนาย

“ก็ใช่ค่ะ แต่เอื้องไม่ได้ขึ้นเครื่องมากับพวกเรา” แฮปปี้บอกอย่างเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆ

“งั้นเอื้องไปไหนครับ” แม่ทัพถามอย่างใจเย็น

“...” สองสาวมองหน้ากันแล้วเงียบไปครู่หนึ่ง

“ได้โปรด...” แม่ทัพบอกพร้อมกับตั้งท่าจะลงไปคุกเข่า

เอ็นจอยรีบดึงแขนของอีกฝ่ายขึ้นแล้วบอกด้วยสีหน้าจริงจัง “คนของคุณดาหลันมารับไปค่ะ”

“บ้าจริง!” แม่ทัพสบถออกมาอย่างโมโห ที่สุดท้ายตนก็พลาดโอกาสที่จะได้เจอกับช่อเอื้องก่อนทางนั้น

“บะ...บอสครับ” โดมรีบปรามผู้เป็นนายที่กำลังสติแตก

“สั่งคนของเราให้ตามสืบว่าผู้หญิงคนนั้นพาเอื้องไปที่ไหน” แม่ทัพรีบหันไปบอกคนสนิท

“อยู่ที่คุ้มแสนรักค่ะ ถ้าคุณทัพจะไปตามหาเอื้อง” เอ็นจอยบอกตามตรง

“ขอบคุณครับ ผมขอตัวก่อน” แม่ทัพก้มหัวลงนิดๆ แล้วดึงคนสนิทให้กลับเข้าไปในลิฟต์อย่างเร่งรีบ

“อย่าทำให้เอื้องเสียใจนะคะ ไม่งั้นพวกเราไม่ยอมแน่” เอ็นจอยเอ่ยสำทับเจ้าของค่ายมวยดัง

“เอาน่า...ค่อยคิดกันใหม่ ขนาดพ่อกับแม่เราน่ะมีแค่เสื่อผืนหมอนใบ ยังสามารถประสบความสำเร็จได้เลย ส่วนแกกับฉันมีต้นทุนที่ไม่ต้องไปกู้ยืมใคร ถ้าหากชีวิตนี้ไม่สามารถเดินไปถึงจุดที่เรียกว่าความสำเร็จได้ ก็ให้มันรู้ไป”

“สู้โว้ยยยย” แฮปปี้ได้ฟังก็ฮึกเหิม วิ่งกลับเข้าไปทำงานที่ด้านในต่ออย่างเต็มไปด้วยไฟแห่งความหวังว่าวันหนึ่งจะนำเงินที่มารดาให้มา ไปคืนท่านได้สำเร็จ

เช้าวันต่อมา...

เมื่อวานหลังจากที่แม่ทัพนั่งเครื่องกลับมาถึงเชียงราย ก็ถูกมารดาเรียกไปหาที่บ้านพักและบอกให้อยู่ตั้งหลักประเมินสถานการณ์ต่างๆ ก่อน วันรุ่งขึ้นค่อยออกเดินทางไปยังคุ้มแสนรักเพื่อเจรจากับช่อเอื้อง รวมไปถึงบุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นบิดากับมารดาของอีกฝ่าย

“แม่ไม่เข้าใจเลยว่าลูกจะลากแม่มาด้วยทำไม” มาลีนแสร้งต่อว่า แม้จะอยากให้ทั้งสองคืนดีกันเร็วๆ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะแกล้งบุตรชาย ที่บังอาจใช้ ช่อเอื้องไปซื้อขนมเค้ก และชงกาแฟเข้าไปเสิร์ฟให้กับนางแบบที่ชื่อซอนย่า

“โธ่! ถ้าไม่ให้ลากแม่มาด้วย แล้วจะให้ผมไปลากกิ๊กเก่าพ่อมาหรือไงครับ” แม่ทัพเอ่ยหยอกมารดายิ้มๆ คิดว่าหากง้อช่อเอื้องไม่สำเร็จ ก็ตั้งใจว่าจะให้มารดาช่วยโน้มน้าวอีกแรง

“ทัพ! ทำไมพูดจากับแม่แบบนี้” มาลีนถามกลับด้วยสีหน้าตึงๆ

“ก็แม่กวนผมก่อน” แม่ทัพตอบพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ

“พอเลย! จอดรถเดี๋ยวนี้โดม” มาลีนที่เห็นท่าทีกวนๆ ของบุตรชายก็เอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว

“เอ่อ...คือว่า...” คนกลางที่ขับรถอยู่ อึกอักอย่างไปไม่ถูก

“ให้ตายสิ! จะถึงอยู่แล้วนะครับ” แม่ทัพบอกพร้อมกับกลอกตา ไม่คิดว่ามารดาจะนอยด์ง่ายแบบนี้

“แม่ไม่สน! ปากลูกน่ะร้ายเหมือนพ่อไม่มีผิด” มาลีนที่ถือไพ่เหนือกว่าบุตรชายเป็นร้อยเท่าพันเท่าบอกอย่างไม่แคร์

“ไม่จริง! ผมเหมือนแม่ต่างหาก” แม่ทัพเถียงกลับทันควัน

“กรี๊...” มาลีนกำลังจะแหกปาก เอ๊ย! กรีดร้อง แต่ก็ถูกคนสนิทของบุตรชายเอ่ยตัดบท

“ถึง-แล้ว-ครับ” โดมจอดรถเสร็จ ก็รีบหันไปยุติศึกปะทะคารมระหว่างผู้เป็นนายกับมารดา

มาลีนเปิดประตูรถตู้ก้าวออกไป ก่อนบุตรชายด้วยสีหน้าเซ็งๆ แต่พอเห็นเด็กหนุ่มรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเดินเข้ามาหา ก็รีบปรับสีหน้าทันทีทันควัน

“สวัสดีครับ มาหาใครเหรอครับ” ภีมรภัทรยกมือไหว้คุณหญิงมาลีนก่อนจะหันไปมองคนที่เพิ่งจะก้าวออกจากรถตู้

“ฉันมาหาเอื้อง” แม่ทัพชิงตอบพร้อมกับจ้องมองเด็กหนุ่มที่แอบชอบช่อเอื้องด้วยสายตาขวางๆ

“น้องเอื้องไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ” ภีมรภัทรหันไปเอ่ยกับผู้ใหญ่อย่างสุภาพ

“ไม่จริง! แฮปปี้กับเอ็นจอยบอกว่าเอื้องอยู่ที่นี่”แม่ทัพสวนกลับทันใด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)