“มาตามหาเอื้องครับ ดูเหมือนว่าเอื้องจะเคยคบหากับคุณแม่ทัพมาก่อน แล้วตอนนี้เขาก็คงจะกำลังนั่งเครื่องบินตามไปที่อังกฤษ”
“ลูกโอเคหรือเปล่า?” อิงอรถามอย่างเป็นห่วง เพราะหลายปีมานี้เธอได้ยินชื่อของช่อเอื้องหลุดออกมาจากปากของบุตรชายบ่อยๆ เลยทำให้รู้ว่าภีมคงจะแอบชอบเด็กสาวที่ชื่อช่อเอื้องเป็นอย่างมาก
“ผมโอเคครับแม่” ภีมรภัทรบอกพร้อมกับสวมกอดมารดาอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดคนเขียนไม่ลองหักมุม แล้วให้ตนได้เป็นพระเอกดูบ้าง?
วันต่อมา...ประเทศอังกฤษ
ช่อเอื้องนั่งมองเหม่อออกไปยังนอกหน้าต่างของร้านเบเกอร์รี่ใกล้ๆ กับโรงพยาบาลเซนต์ร็อฟเวลล์ นั่งรอคุณภลัมที่พาคุณดาหลันเข้าไปตรวจและรับยาข้างในโรงพยาบาล
พลางคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน...จากตอนแรกเธอตั้งใจว่าจะนั่งเครื่องบินไปกรุงเทพกับสองสาวฝาแฝด แต่พอไปถึงสนามบิน ก็ได้เจอกับพี่รหัสและถูกอีกฝ่ายพาไปพบกับใครบางคน วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าและรับรู้เรื่องราวในวัยเด็กจากปากของชายที่แสดงตัวว่าคือพ่อแท้ๆ ของเธอ บอกสาเหตุที่เธอต้องพลัดพรากจากครอบครัว เพราะถูกคนขับรถลักพาตัวไปตั้งแต่ยังแบเบาะ
ทันทีที่ฟังจบ เธอก็รีบเดินหนีออกมาอย่างรับไม่ได้ เพราะตลอดเวลาที่เธออยู่กับผู้ชายที่เรียกว่าพ่อชัย อีกฝ่ายทั้งรักและดูแลเธอมาเป็นอย่างดี แม้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในสลัม แต่เธอก็มีความสุข
“วิ” ภลัมเดินตามไปพร้อมกับเอ่ยเรียกเสียงอ่อน
“หนูชื่อช่อเอื้องค่ะ” คนที่ยังไม่สามารถยอมรับสิ่งต่างๆ ได้ หันกลับไปบอกด้วยสีหน้านิ่งๆ ถ้าเธอยอมรับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าว่าเป็นพ่อ แล้วผู้ชายอีกคน ที่เลี้ยงดูเธอมาอย่างดี จะกลายเป็นอะไร ?
“ชื่อเดิมของลูกคือ วิ วิภาดา ไพรพิศาล” ภลัมบอกอย่างรู้สึกเจ็บปวดที่เด็กสาวไม่ยอมรับตนเป็นบิดา
“...” ช่อเอื้องได้ฟังก็พูดไม่ออก
“พ่อขอร้องล่ะ...ช่วยไปพบแม่กับพ่อหน่อยได้ไหม” ภลัมอ้อนวอนอีกครั้ง
ภีมรภัทรที่เห็นอาการป่วยหนักของเพื่อนรักมารดาแล้ว จึงเข้ามาช่วยกล่อม อีกแรง “น้องเอื้องได้โปรดเถอะครับ น้าดาหลันนอนป่วยอยู่ที่บ้าน”
“...” ช่อเอื้องมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างสับสน
“พี่จะอยู่กับเอื้องครับ ไม่ต้องกลัว” ภีมรภัทรเอ่ยกระซิบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ช่อเอื้องชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้น “ก็ได้ค่ะ งั้นเอื้องขอตัวไปบอกเพื่อนก่อนนะคะ”
“ครับ พี่จะรอตรงนี้” ภีมรภัทรบอกอย่างดีใจ ภลัมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่ในที่สุดก็สามารถพาเด็กสาวไปพบภรรยาได้สำเร็จ
สี่สิบนาทีต่อมา...คุ้มแสนรัก
“วิ!” ดาหลันขยับลุกนั่งพิงที่หัวเตียง จ้องมองเด็กสาวที่สวยสะพรั่งผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อล้น
“...” ช่อเอื้องขยับเข้าไปหาผู้หญิงที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับตัวเอง อย่างรู้สึกตื้อไปทั้งหัวใจ อยากจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่กล้า ทุกอย่างมันเหมือนมีเส้นบางๆ ที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่มันยังไม่สนิทใจพอที่จะเปิดรับ
“แม่ตามหาลูกมานานมากเลยรู้ไหม” ดาหลันดึงเด็กสาวเข้ามากอดอย่างแสนดีใจ เธอเฝ้ารอวินาทีนี้มาแสนนาน
“...” ช่อเอื้องตัวแข็งทื่อไปทันใดกับสัมผัสของอีกฝ่าย
ดาหลันยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วดันหญิงสาวออก พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างพินิจ “หนูสวยจังเลยลูก”
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องเอ่ยตอบและจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่าง รู้สึกตื่นเต้น
“แล้ว...เกริกล่ะ เขาสบายดีไหม” ดาหลันถามไปถึงชายอีกคนที่เธอรู้จักมาตั้งแต่เด็ก
“ใครคะ?” ช่อเอื้องขมวดคิ้วถามอย่างมึนงง
“คนที่ลักพาตัวหนูไป ชื่อจริงของมันคือไอ้เกริกพล” ภลัมเอ่ยด้วย น้ำเสียงตึงๆ
“ภลัม!” ดาหลันหันไปปรามสามี
“ทำไม! ก็เพราะมันไม่ใช่เหรอที่ทำให้เราสามคนพ่อแม่ลูกต้องมาตกอยู่ในสภาพที่เหมือนกับคนแปลกหน้ากันแบบนี้” คนที่พอได้ยินชื่อของศัตรูหัวใจ ก็เริ่มมีน้ำโหขึ้นมาทันทีทันใด
“เอ่อ...พ่อชัยเสียไปได้หลายปีแล้วค่ะ” ช่อเอื้องบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ ไม่อยากให้ใครพูดถึงคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กด้วยน้ำเสียงจงเกลียดจงชัง
“อะไรนะ กะ...เกริกเสียแล้วเหรอ” ดาหลันน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง
“ค่ะ” ช่อเอื้องมองท่าทีของผู้หญิงตรงหน้าอย่างรู้สึกมึนๆ
“ฮึก...ฮือๆๆ” ดาหลันปล่อยโฮออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ในชีวิตนี้ สิ่งที่เธอเฝ้าอธิษฐานมาตลอด มีเพียงสองข้อเท่านั้น คือหนึ่งขอให้ได้เจอบุตรสาวอีกครั้ง สอง...ขอให้ได้เจอและนั่งทานข้าวกับเกริกพล แต่ดูเหมือนพระเจ้า...จะตอบรับคำขอของเธอเพียงแค่ข้อเดียว
“มันสมควรตายแล้วล่ะ” ภลัมบอกอย่างเจ็บแค้นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)