อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก) นิยาย บท 76

ขณะที่ช่อเอื้องกำลังนั่งนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ก่อนจะขึ้นเครื่องบินมายังประเทศอังกฤษ อยู่ๆ ก็มีน้ำเสียงที่คุ้นหู เอ่ยเรียกขึ้นที่ด้านหลัง

“หนีพี่มาทำไมฮะ” แม่ทัพเอ่ยถามพร้อมกับส่งสายตาดุๆ ไปให้

“คะ...คุณทัพ” ช่อเอื้องอุทานอย่างตกใจ ที่เห็นอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นที่นี่

“พี่มารับกลับบ้านครับ” แม่ทัพที่วิ่งลงจากรถมาก่อนมารดา บอกด้วยสีหน้าตึงๆ มีอย่างที่ไหน ผัวออกตามหาจนแทบจะเป็นบ้า กลับมานั่งอมยิ้มสบายใจเฉิบ ไม่รู้สี่รู้แปดอยู่ที่อังกฤษ

“เอ่อ...เอื้องจะอยู่ที่นี่กับแม่ค่ะ” เธอสะบัดแขนของอีกฝ่ายออกทันใด

“ขอล่ะ...พวกเขาไม่ใช่ครอบครัวของหนู พี่กับแม่ต่างหากที่เป็นครอบครัวของหนู” แม่ทัพพยายามกล่อมแม่สาวลั้ลลาให้กลับไปกับตน

“...” ช่อเอื้องได้ฟังก็ถึงนิ่งชะงักไปทันใด

“ไม่อยากได้โกศของพ่อคืนแล้วเหรอ” แม่ทัพถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“คุณโยนทิ้งไปได้เลยครับ หนูเอื้องไม่ต้องการมันหรอก” ภลัมที่เดินเข้ามาตามหาช่อเอื้องและได้ยินการสนทนาเมื่อครู่ จึงเอ่ยแทรกขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“คะ...คุณภลัมพูดอะไรออกมาคะ นั่นพ่อของเอื้องนะ” ช่อเอื้องต่อว่าอย่างรู้สึกน้อยใจ

“ใช่! คุณไม่ใช่พ่อของเอื้องด้วยซ้ำ” แม่ทัพหันไปเล่นงานคนที่ยังไม่หยุดเล่นบทเป็นพ่อตัวจริงของสาวเจ้า

“มะ...หมายว่ายังไง” ช่อเอื้องหันไปถามเจ้าชายมาดดุอย่างต้องการคำตอบ

“ที่รักไปกับแม่ แล้วแม่จะเล่าทุกอย่างที่เอื้องยังไม่รู้ให้ฟัง” มาลีนที่ตามเข้ามา บอกพร้อมกับอ้าแขนรอรับ

“เอื้องจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นครับ” ภลัมหันไปบอกอย่างไม่ยอม

“ได้สิ! ผมเป็นสามีของเอื้อง การที่ภรรยากับสามีจะไปไหนมาไหนด้วยกันไม่จำเป็นต้องขออนุญาตผู้ปกครองปลอมๆ จริงไหมครับ” แม่ทัพสวนกลับทันควัน

“นี่คุณ” ภลัมชี้หน้าเด็กหนุ่มปากดีอย่างโมโห ก่อนจะเปลี่ยนไปกล่อม ช่อเอื้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “ถ้าลูกอยากให้แม่อาการดิ่งลงก็เดินออกไปได้เลย”

ดาหลันที่นั่งรออยู่ในรถ มองเข้ามาในร้านแล้วเห็นสถานการณ์ข้างในแปลกๆ จึงรีบเปิดประตูรถลงมาดู ทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ของสามี ก็ทำให้เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ “ฮึก...เลิกทำเหมือนกับว่าฉันป่วยใกล้จะตายสักทีเถอะ”

“ดาหลัน” ภลัมหันไปมองภรรยาอย่างตกใจ

“ถ้าฉันจะตาย ฉันจะขอใช้ทุกวินาทีที่เหลือกับลูกสาวของฉัน” ดาหลันบอกจุดยืน ก่อนจะหันไปเอ่ยกับผู้หญิงอีกคนที่น่าจะอายุมากกว่าเธอนิดหน่อย ด้วยน้ำเสียงวิงวอน “ฉันกับลูกเอื้องจะไปกับพวกคุณค่ะ”

“คุณพูดอะไรออกมาฮะดาหลัน?” ภลัมหน้าเสียขึ้นมาทันใด

“ขอล่ะ ฉันใช้ทั้งชีวิตกับคุณมาพอแล้วภลัม” ดาหลันหันไปบอกทั้งน้ำตา

“ฮึก...แม่” ช่อเอื้องเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างดีใจ

“นะ...นี่คุณพูดอะไรออกมา” ภลัมส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้

“ฉันพูดในสิ่งที่คุณเองก็รู้ดีแก่ใจ”

“ให้ตายสิ! ผมพยายามประคับประคองชีวิตคู่ของเราอยู่นะ”

“คุณไม่ต้องพยายามอีกต่อไป เพราะฉันเองก็เหนื่อยและทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว”

“หึ! งั้นก็โชคดีแล้วกัน” ภลัมบอกจบก็เดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

มาลีนรีบเข้าไปกอดปลอบช่อเอื้องและแนะนำตัวกับผู้หญิงอีกคน ขณะที่แม่ทัพพยายามหาโอกาสจะแทรกตัวเข้าไปดึงนางฟ้าคนสวยมากอดให้หายคิดถึง แต่ก็อด เพราะสาวเจ้าเอาแต่กอดมารดาของเขาและมารดาของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

วันต่อมา...ประเทศไทย (กรุงเทพฯ.) หลังจากที่นั่งเครื่องบินส่วนตัวของ แม่ทัพมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ช่อเอื้องก็หันไปบอกกับคุณมาลีนและเจ้าชายมาดดุ

“เอ่อ...หนูตกลงกับคุณแม่ว่าจะไปนอนที่บ้านของพ่อชัยค่ะ”

แม่ทัพรีบพานางฟ้าคนสวยเข้าไปนั่งในรถสปอร์ตสุดหรูของตน แล้วขับตรงไปยังเพนต์เฮาส์อย่างอารมณ์ดี

ยี่สิบนาทีต่อมา...

ทันทีที่เข้ามาด้านในเพนต์เฮาส์ แม่ทัพก็เปิดฉากชิงพูดขึ้นก่อน “พี่ขอโทษที่ทำตัวงี่เง่าครับ พี่แค่อยากให้เอื้องแคร์ความรู้สึกของพี่บ้างก็เท่านั้น”

ช่อเอื้องน้ำตาคลอ เธอรู้ดีว่าตลอดเวลาที่อีกฝ่ายควงสาวคนนั้นคนนี้ออกเดต มันคือการประชด จึงบอกความรู้สึกที่มีออกไป

“รู้ไหมคะ...ตั้งแต่ตอนที่คุณพ่อเสีย คุณทัพก็เป็นคนเดียวที่เอื้องรักและแคร์ความรู้สึกมาตลอด ทุกๆ การกระทำของคุณทัพ มันส่งผลกับตรงนี้เสมอ ที่เห็นว่าเอื้องไม่แสดงอาการใดๆออกไปตอนคุณทัพควงนางแบบดังมาที่บริษัท ไม่ใช่ว่าเอื้องไม่เจ็บ แต่เอื้องแค่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ส่วนคุณทัพเป็นใครเท่านั้นเอง”

“พี่ขอโทษครับ สิ่งที่พี่ได้ทำไปทั้งหมด มันไม่มีความหมายใดๆ นอกเหนือไปจากการเรียกร้องความสนใจจากหนู และสาบานได้ว่าตรงนี้...เป็นของเอื้องคนเดียวมาตลอด” แม่ทัพบอกพร้อมกับชี้มายังตำแหน่งหัวใจของตน

“แต่พี่ทัพเปิดตัวคบหากับนางแบบดัง และสถานะทุกอย่างก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง หากมีข่าวเรื่องของเราหลุดออกไป เอื้องก็คงจะตกเป็นจำเลยของสังคม” เธอบอกสิ่งที่เขาอาจจะคาดไม่ถึง

“เรื่องนั้นพี่จะจัดการเองครับ” แม่ทัพบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน

“งั้นพี่ทัพไปจัดการเคลียร์ปัญหาของตัวเองก่อนดีไหมคะ แล้วค่อยมาเคลียร์กับเอื้อง” เธอบอกเสียงอ่อน เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง

“โอเคครับ! งั้นพี่โทรไปเคลียร์ตอนนี้เลย” แม่ทัพล้วงมือถือขึ้นมากดต่อสายและเปิดสปีกเกอร์โฟนทันที

ตู๊ด...ตู๊ด...

[สวัสดีค่ะที่รัก วันนี้ว่างแล้วใช่ไหมคะ] ปลายสายเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่พยายามติดต่อหาพ่อเทพบุตรสุดหล่อมาร่วมเดือน แต่อีกฝ่ายก็อ้างว่าไม่ว่าง แถมช่วงหลังๆ คนสนิทของเขาก็เป็นคนรับสายแทน ทำให้เธอรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่กระนั้นก็ยังยิ้มสู้ เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อีกฝ่ายควงออกหน้าออกตานานที่สุด แม้มันจะแค่ไม่กี่เดือนก็ตาม แต่เธอก็มั่นใจว่าเธออยู่เหนือผู้หญิงทุกๆ คนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

[ซอนย่า ผมมีเรื่องที่ต้องบอกคุณ] แม่ทัพเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับจ้องมองใบหน้างามของนางฟ้าคนสวย

[มีอะไรคะ อ๊ะ! หรือว่าคุณจะขอซอนย่าแต่งงาน] ซอนย่าเอ่ยหยอกล้อเหมือนเช่นทุกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)