เดือนเพ็ญพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า เขาเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี ดูมีความจริงใจและดูสุขุม ไม่ได้เป็นตาแก่ตัณหากลับแบบที่เธอคิดเอาไว้
และในวันนี้การที่เขาพาตัวเองมาที่นี่แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเธอและสามีสารภาพทุกอย่างรวมถึงบอกว่ารักลูกสาวของเธอ มันเป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน ว่าคนระดับนี้จะมาจริงจังกับลูกสาวของเธอ ที่เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา
มองสบตาของเขาแล้วเดือนเพ็ญก็ถอนหายใจออกมา หันไปมองสามีคู่ทุกข์คู่ยาก
“พ่อมึงว่ายังไง”
บารมีที่นั่งนิ่งอยู่นานก็เอ่ยออกมาว่า
“ตอนนี้บลูมันเสียชื่อไปแล้ว แม้จะอยู่ในกลุ่มคนจำนวนไม่มาก แต่แฟนคลับที่ติดตามผมก็คงจะสงสัยเรื่องนี้ ถ้ามีคนเอาไปพูดต่อขยายออกไปเป็นวงกว้างก็จะไม่ดี มันจะเสียไปถึงบริษัทของคุณด้วย คุณจะแก้ปัญหานี่ยังไง”
“ผมจะหาคนผิดมาลงโทษเองครับ ไม่ให้บลูต้องเสียชื่อเสียง ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่รังเกียจผม ผมก็อยากจะขออนุญาตคบหากับบลูในฐานะคนรักครับ”
ติณห์เอื้อมมือมากุมมือของบุรฉัตรที่นั่งอยู่ข้างเขา
บารมีถอนหายใจออกมา เขารู้สึกผิดที่สอนลูกสาวให้จับผู้ชายรวยๆ มากกว่าการสร้างคุณค่าในตัวเอง
ครั้งนี้เหมือนเป็นบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญของเขา ว่าพอเอาเข้าจริงๆ เมื่อรู้ว่าลูกเป็นของเล่นคนรวย หัวอกพ่ออย่างเขามันเจ็บปวด
โชคดีแค่ไหนที่ผู้ชายคนนี้คิดจะจริงจังกับบุรฉัตรขึ้นมาจริงๆ ต้องยกความดีความชอบให้ความเป็นดีกตัญญูรู้คุณของลูกสาวที่เป็นคนดีจนผู้ชายเขาเห็นค่า
“อืมไหนๆก็ไหนแล้ว มันก็ต้องคบหากันให้ถูกต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู จะรักจะชอบกันก็ทำให้มันเป็นกิจลักษณะเหมือนคู่รักทั่วๆไปเข้าใจนะ”
ติณห์ยิ้มกว้างเมื่อพ่อของคนรักเปิดทาง ยอมอนุญาตให้เขาคบหากับลูกสาวได้
“ถ้าคุณพ่อคุณแม่อนุญาต ผมขอพาบลูกลับไปอยู่กับผมได้ไหมครับ”
“ไม่ได้!”
เสียงเดือนเพ็ญตวาดขึ้นมาทันที
“ถ้าจะคบกันก็ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่จะออกไปอยู่ด้วยกันแบบเดิมไม่ได้อีก และคุณก็ต้องรีบไปจัดการหาคนผิดมาลงโทษ กอบกู้ชื่อเสียงให้บลูมัน บลูเก็บเสื้อผ้าออกมาแล้วใช่ไหม เอาไปเก็บบนห้อง ต่อไปแกต้องอยู่ที่นี่ จะไปทำงานก็นั่งแท็กซี่เอา เข้าใจไหม”
เดือนเพ็ญปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ไม่ยอมให้บุรฉัตรกลับไปอยู่กับผู้ชายเหมือนเดิม ถ้าเขารักลูกเธอจริง เขาต้องทำอะไรที่ชัดเจนกว่านี้ ถ้าปล่อยให้ไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เกิดเบื่อหน่ายลูกของเธอขึ้นมาเมื่อไหร่ ลูกเธอไม่ลำบากแย่เหรอ
แค่สบตาของลูกก็รู้แล้วว่าหัวใจเป็นของผู้ชายตรงหน้าไปหมดแล้ว เธอไม่อยากให้ลูกเจ็บ
ติณห์หน้าจืดเจื่อนเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้พาบุรฉัตรกลับไปด้วย เขาจะนอนหลับได้อย่างไรถ้าไม่มีบุรฉัตรอยู่ด้วย เขานอนไม่ได้หรอก
“คุณแม่ครับ อาทิตย์หน้าคุณแม่สะดวกไหมครับถ้าผมจะพาหม่าม๊ามาพบคุณพ่อคุณแม่ เพื่อทาบทามสู่ขอบลู”
บุรฉัตรที่หน้าซีดเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้กลับไปอยู่กับติณห์ แต่เมื่อได้ยินติณห์บอกว่าจะพาแม่ของเขามาหาพ่อกับแม่ของเธอเพื่อมาขอเธอ
บุรฉัตรก็อยากจะกระโดดกอดติณห์ตอนนี้เลย
คุณเดือนเพ็ญทำหน้านิ่งแต่ในใจปรีดา เห็นเธอเป็นคนไม่มีความรู้ เธอก็รู้วิธีเจรจานะว่าจะทำยังไงให้ผู้ชายคนนี้รีบจัดการทุกอย่างให้ชัดเจน ถ้าเธอไม่แน่จริงพ่ออีบลูที่เป็นคนหน้าตาดีขนาดนั้นคงไม่ตกหลุมเธอหรอก อีบลูมันก็คงจะได้เชื้อแม่มาบ้างแหละถึงเอาผู้ชายคนนี้อยู่
มิกซ์เปิดฉากสนทนาด้วยสีหน้าจริงจัง จนบุรฉัตรแอบหวั่นใจ หรือเฮียมิกซ์จะรู้เรื่องแล้ว สายเขาเยอะจะตายไป
“ค่ะเฮียมีเรื่องอะไรคะ”
ให้เขาพูดธุระของเขาก่อนก็แล้วกันแล้วเธอค่อยพูดธุระของเธอ
“เฮียอยากจะมาขอโทษบลู”
มิกซ์มีสีหน้าเคร่งเครียด จนบุรฉัตรสงสัยว่าเขามาขอโทษเธอเรื่องอะไร
“ขอโทษ?ขอโทษเรื่องอะไรเฮีย”
บุรฉัตรสบตาเขาเห็นแววละอายใจและสีหน้าหนักใจอยู่ในนั้น
“เฮียทำตามที่ให้สัญญากับบลูไว้ไม่ได้แล้ว เฮีย..มีคนที่รักแล้ว เฮียเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมากับบลูมันเป็นแค่ความชอบความถูกใจและประทับที่บลูเป็นคนสู้ชีวิตแต่จริงๆแล้วเฮียไม่ได้รักบลูเลย”
เพราะถ้าเขารักเธอจริงๆ เขาคงไม่ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานขนาดนั้น พอเจอคนที่รักจริงๆ เขาก็ไม่มัวแต่ชักช้าเลย จัดการรวบหัวรวบหางมาเป็นของเขาทันที
บุรฉัตรหน้าเหวอไปเมื่อได้ยินสิ่งที่มิกซ์พูด เธอไม่ต้องปฏิเสธเขาแล้วใชไหม ในเมื่อเขาปฏิเสธเธอแล้ว เธอก็ไม่ต้องลำบากใจแล้วสิ โอ๊ยรอดแล้วอีบลู
“บลู เฮียขอโทษจริงๆ ที่เฮียทำผิดต่อบลู เฮียเคยบอกว่าเฮียจะรอบลู แต่ตอนนี้เฮียคงรอไม่ได้แล้ว เพราะเฮียอยากจะแต่งงาน”
แต่งงาน!โอ๊ยมาเร็วเคลมเร็วจริงๆ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา