“มายืนตรงนี้มา”
เขาบอกให้เธอไปยืนข้างหน้าเขาซึ่งพอไปยืนใกล้ๆกัน แผ่นหลังของเธอแทบจะชนกับอกเขาอยู่แล้ว ติณห์ยื่นมือมาข้างหน้าแล้วเป็นฝ่ายกดกล้อง
บุรฉัตรยิ้มออกมาไออุ่นของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังทำให้เธอรู้สึกดีมากจนต้องยิ้มกว้างจนปากจะฉีก โคตรฟิน
เมื่อถ่ายเสร็จติณห์ก็ยื่นโทรศัพท์คืนให้เธอ บุรฉัตรเหลือบตาขึ้นมองเขา
“ขอบคุณนะคะ”
ติณห์ยิ้มให้เธอ กลิ่นหอมอ่อนๆจากเรือนผมยาวสลวยของคนที่มายืนพิงหลังเขา ทำให้ติณห์รู้สึกแปลกๆ จนต้องรีบสลัดความรู้สึกนั้นออกไป
“ยินดีครับ บลูอยู่สายงานของใครนะ คุณพราวใช่ไหม”
เหมือนเขาจะคุ้นๆว่าเธออยู่สายงานของพราวตา
“ใช่ค่ะ”
บุรฉัตรยิ้มอ่อนหวานไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิ้ง ผู้หญิง แบบวันนี้มาก่อน
พูดน้อยประหยัดถ้อยคำจนไม่เหมือนอีบลูคนเดิม
“เก่งนะครับ ที่เพิ่งเริ่มต้นก็ผ่านการควอลิฟายรางวัลมางานนี้ได้ บลูอายุเท่าไหร่แล้ว”
บุรฉัตรหน้าแดงด้วยความเขิน คุณติณห์ชมว่าเธอเก่ง กรี๊ดได้ไหม
“ยี่สิบค่ะ”
หืม ยี่สิบ!
ติณห์มองหน้าเธออีกครั้ง สายตามันเผลอเหลือบมองขนาดหน้าอกของเธอไปด้วย เด็กอายุยี่สิบนี่โตขนาดนี้เลยเหรอวะ
“แนทตี้ฉันรักเขา ยิ่งเข้าไปใกล้ๆฉันยิ่งรู้สึกว่าเขากับฉันอยู่ไกลกันมาก ทำยังไงดีล่ะแนทตี้”
บุรฉัตรถอนหายใจอย่างท้อแท้ การแอบรักใครข้างเดียวนี่มันเจ็บปวดจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เราแอบรักเขา เขาไม่ได้มีท่าทีใดใดให้เราเลย แถมยังดูเหมือนกับว่าโลกของเธอกับเขาห่างกันมากๆอีกด้วย
“โอ๊ยบลูอย่าเพิ่งท้อสิวะ แกบอกฉันเองไม่ใช่เหรอว่าอะไรก็ตามที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ได้ ก็ย่อมเกิดกับเราได้ทั้งนั้น นี่เพิ่งเริ่มต้นเองบลู ถ้าแค่นี้ท้อแล้วจะสมหวังได้ยังไงวะ”
นั่นสินะจะท้อทำไมแต่พอมองเขาแล้วหันกลับมามองตัวเอง ทำไมมันห่างไกลกันขนาดนี้วะ
“แนทตี้แกเห็นตัวแทนที่เข้าไปถ่ายรูปกับเขาไหม แต่ละคนหลับตาข้างเดียวยังดูรู้เลยว่า ทุกคนต่างหวังในสิ่งเดียวกันทั้งนั้น”
แล้วสาวๆหลายคนที่ไปถ่ายรูปกับติณห์ก็ดูดีมากๆด้วย
“โธ่อีบลู มึงสวยออก ชอบเขาแล้วก็พยายามหน่อยสิวะ งานเลี้ยงคืนนี้ไงฉันจะเนรมิตให้แกสวยที่สุดในงาน”
***
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา