“แม่กลับมาแล้วเหรอ ไปกินข้าวเถอะแม่ เดี๋ยวบลูเก็บให้เอง วันนี้ขายดีไหม”
เธอมองไปยังรถขายผลไม้ของแม่มีมะม่วง แตงโม ชมพู่ มะละกอ ฝรั่ง มะกอกน้ำ มะดัน แคนตาลูป มีของที่ปอกแล้วเหลือติดตู้อยู่พอประมาณ แต่ด้านล่างมีของที่ยังไม่ปอกเปลือกอยู่เยอะพอสมควร
“ไม่ค่อยดีเลยวันนี้เงียบ สงสัยเพราะเป็นวันหวยออก”
วันหวยออกกับวันพระเหมือนเป็นวันอาถรรพ์ของคนค้าขาย เพราะจะเป็นวันที่เงียบมาก ไม่รู้คนไปไหนกันหมด
“แต่มีคนดวงดีอยู่คนนะแม่ ข้างในมีเป็ดย่างแม่เข้าไปกินเถอะ บลูอิ่มแล้วเดี๋ยวเก็บเอง”
บุรฉัตรเห็นแม่ถอนหายใจ ทำหน้าแบบคนเหนื่อยใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน
บุรฉัตรเก็บผลไม้ที่ปอกแล้วไปใส่ตู้เย็น ส่วนที่ยังไม่ได้ปอก อันไหนที่ต้องวางด้านนอกก็วางเอาไว้ในที่เก็บ อันไหนที่จำเป็นต้องใส่ถังน้ำแข็งก็แยกไปใส่
เมื่อเรียบร้อยแล้วเธอก็ถือแตงโมที่หั่นเรียบร้อยเอาไปวางที่โต๊ะอาหาร
“บอสกินแตงโมไหม”
น้องชายพยักหน้า บุรฉัตรใช้ส้อมจิ้มแตงโมแล้วส่งให้น้อง แล้วนั่งลงที่เดิมที่ข้างน้องชาย
“แม่ บลูว่าบลูจะเลิกเรียนแล้วนะ จะออกมาทำงาน”
แม่มองหน้าเธอ ก่อนจะถามว่า
“คิดจะไปทำงานอะไร”
จริงๆพูดเรื่องนี้กันมาหลายรอบแล้ว บุรฉัตรบอกว่าอยากเลิกเรียน แต่เธอก็คัดค้านมาตลอด แต่มาปีนี้หาเงินลำบากจริงๆ ถ้ามีคนออกมาหาเงินช่วยอีกแรงก็คงดี
“อีแนตตี้กับเจ๊พราวชวนไปเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตน่ะแม่”
บุรฉัตรคายเม็ดแตงโมงลงบนจานข้าวที่เพิ่งกินเสร็จ
“ขายประกัน!จะไปขายใคร แค่เงินจะกินจะใช้รายวันคนสมัยนี้ยังไม่ค่อยจะมี ใครมันจะมาซื้อประกัน แล้วคนแบบเราก็ไม่ได้รู้จักใครที่จะมีเงินซื้ออะไรแบบนี้ด้วย”
เดือนเพ็ญมองหน้าลูกอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา