“เจ้าสีฟ้านี่บริษัทอะไรบลู”
เดือนเพ็ญถามลูกสาวเพราะไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับแวดวงนี้มากนัก
“น่าจะสยามพาณิชย์นะแม่”
คุ้นๆว่าโลโก้บริษัทนั้นสีฟ้า
“อืมก็ดังนี่ เจ้านั้นก็น่าสนใจนะ”
“บลูไม่รู้จักใครที่ขายประกันอยู่บริษัทนั้นเลยแม่ แต่ที่พิริยะอีแนทตี้กับเจ๊พราวขายอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ยังมีคนแนะนำ แม่รู้ไหมว่าอีแนทมันชอบมาเล่าให้บลูฟังว่า เจ้าของบริษัทหล่อมาก วันไหนที่มีเทรนที่บริษัทนะอีแนทมันระริกระรี้มาก”
นึกถึงเพื่อนสนิทชายใจหญิงที่โตมาด้วยกันก็อดขำไม่ได้
“หล่อก็น่าสนนะบลู หล่อๆรวยๆถ้าได้มาเป็นผัวนี่สบายไปทั้งชาติเลย”
บารมีเอ่ยปากแนะนำลูกสาว
เคยมีหมอดูทักตั้งแต่ลูกสาวคนนี้คลอดออกมาใหม่ๆแล้วว่า บุรฉัตรจะเกิดมาเพื่อคำ้จุนพ่อแม่ วาสนาดีมากจะพาพ่อแม่สบาย
และหมอดูยังบอกอีกว่า ลูกคนนี้เป็นเด็กมีบุญวาสนาจะได้ผัวดี เขาเลยหาชื่อดีดีเพราะๆมาตั้งให้ลูก ชื่อที่เป็นมงคลเป็นชื่อที่สูงส่ง
หลังจากเปิดตำราดูหลายเล่ม ‘บุรฉัตร’เลยเป็นชื่อที่ถูกเลือกมา
ชื่อนี้แปลว่าร่มเงาของประเทศ
ขนาดเป็นร่มเงาให้ประเทศได้ ร่มเงาของครอบครัวเล็กๆอย่างครอบครัวของเขาคงเป็นได้สบายมาก
เขาเชื่อมากว่าคำทำนายของหมอดูจะเป็นจริง เพราะตั้งแต่ลูกคนนี้เกิด เขาเอาวันและเดือนเกิดของลูกไปซื้อหวยก็ถูกเลยทันที ทั้งลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน
นิยายแนวนี้เธอชอบอ่านนะ มันชวนฝันดี แต่พออ่านจบก็ต้องปลุกตัวเองให้ตื่น แล้วลุกขึ้นมาทำมาหากินต่อ
“มันก็ไม่แน่นะบลู แกเองก็สวยผิวพรรณก็ดี แล้วตอนที่แกเกิดมาใหม่ๆนะ หมอดูก็บอกว่า...”
“บลูจะพาพ่อแม่สบาย เป็นคนมีวาสนา โตขึ้นจะได้ผัวรวยแบบนี้ใช่ไหมพ่อ บลูฟังมาเป็นร้อยๆรอบแล้วเนี่ย พ่อก็มัวแต่ฝันกลางวัน พอๆกับที่บลูก็รออยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่พ่อจะเฉลยกับบลูสักทีว่าพ่อเป็นลูกเศรษฐีปลอมตัวมา แล้วจะพาบลูกลับไปเอาสมบัติกับเจ้าคุณปู่สักที เฮ้อ!”
พ่อพูดไม่ทันจะจบบุรฉัตรก็สวนขึ้นมาทันที เพราะฟังแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว
‘เกร๊ง’
บารมีทิ้งส้อมลงบนโต๊ะอย่างคนที่กำลังโมโหเพราะถูกขัดจินตนาการให้เสียอารมณ์
“แหมมึงนี่มันยังไงนักหนาวะ ชอบขัดกูเสียจริงๆ เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา