บุรฉัตรมาถึงตึกพิริยะกุล แหงนหน้าดูตึกที่สูงมากจนคอตั้ง ตื่นเต้นมากๆเลย ต่อไปเธอจะได้ทำงานที่ตึกหรูๆแบบนี้เหรอเนี่ย
โอ๊ยเกินฝันมากอีบลูเอ้ย เธอลงจากแท็กซี่เดินเข้าไปด้านในเห็นศาลพระพรหมใหญ่โตอยู่ด้านหน้าตึกเลยยกมือไหว้ขอพรท่าน
‘ท่านพระพรหมเจ้าขา ขอให้การทำงานของลูกราบรื่น เจริญก้าวหน้าเติบโตในหน้าที่ขอให้รวยๆ รวยระดับเจ้าของบริษัทเลยนะเจ้าคะ’
ต้องขอเวอร์ๆเอาไว้ มีคนบอกว่าเล็งไปที่ดวงจันทร์ แม้พลาดเป้าก็ยังอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว ขอให้รวยระดับเจ้าของบริษัทเอาไว้ก่อน ถ้าไม่ได้เท่าเจ้าของบริษัทก็อาจจะรวยระดับผู้จัดการก็ได้วะ
เธอเดินไปด้านในตึก มองเห็นร้านกาแฟใหญ่โตที่ด้านล่างของตึก กลิ่นขนมลอยออกมานึกอยากถือแก้วกาแฟเก๋ๆแบบนางเอกในละคร เลยเดินไปหยุดที่หน้าร้าน แต่พอเห็นราคากาแฟแก้วละร้อยกว่าบาท ก็ต้องถอยออกมา
กาแฟอะไรวะแพงฉิบหาย แพงกว่าข้าวอีก โอ๊ยกินเข้าไปได้ยังไงแพงขนาดนี้ ค่อยไปหาโอเลี้ยงถุงกินก็ได้วะ
บุรฉัตรเดินเข้าไปด้านในแลกบัตรและบอกแผนกที่ต้องมาติดต่อ
ประชาสัมพันธ์ชี้ทางขึ้นลิฟต์ให้บอกว่ามีสองฝั่ง ฝั่งลานจอดรถกับฝั่งอาคารสำนักงาน
บุรฉัตรเอ่ยขอบคุณแล้วกดลิฟต์ไปยังชั้นสามสิบสาม ใจเต้นตึกตัก เธอไม่รู้ว่าจะได้เจอติณห์ไหม ไม่รู้เขารู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นคนที่ได้รับคัดเลือก เพราะตอนสอบเธอสอบที่โรงแรมทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ไม่มีโอกาสเจอติณห์เลยสักครั้ง
อยากจะเห็นหน้าเขาจริงๆตอนที่เขารู้ว่า คนที่เขาดูถูกว่าเอาเสน่ห์ไปล่อผู้ชาย เป็นคนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Star Talent ของบริษัทเขาจะทำหน้ายังไง ถ้าเขาตกใจนะเธอจะหัวเราะเป็นภาษาใต้ในจังหวะแรปโย่ว โทษฐานที่ดูถูกเธอดีนัก
“สวัสดีค่ะบุรฉัตรค่ะ มาติดต่อเรื่องStarTalent”
เธอยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่อยู่ชั้นสามสิบสาม เกิดมาเป็นคนมือไม้อ่อนแม่สอนมาดี แม่บอกว่ามืออ่อนผูกมิตรได้ทุกที่ เธอเชื่อแม่
“อ๋อ ฝ่ายเทรนนิ่งนัดสิบโมงใช่ไหมคะ เดี๋ยวพาไปรอที่ห้องประชุมนะคะ เดี๋ยวพี่อ้อยฝ่ายบุคคลจะเอาเอกสารสัญญาจ้างไปให้กรอกค่ะ มีคนมาถึงก่อนแล้วสองคน”
อุต๊ะนัดสิบโมงเธอมาถึงเก้าโมงครึ่ง แต่มีคนมาก่อนเธอด้วย นึกว่าเช้าแล้วนะเนี่ย แต่อะไรก็ช่างเถอะ เธอจะได้เซ็นสัญญาจ้างงาน โอ๊ยอยากโทรไปเมาท์กับอีแนทตี้จริงๆ
บุรฉัตรเดินผ่านสาวออฟฟิศมากมายที่นั่งทำงานกันอย่างแข็งขัน เธอไม่รู้ว่าติณห์นั่งทำงานอยู่ชั้นไหน ลุ้นนิดๆเหมือนกันว่าจะเจอเขาไหม บรรยากาศการทำงานที่นี่ดูจริงจังมากๆ ทุกคนดูตั้งอกตั้งใจทำงานกันดี ที่สำคัญออฟฟิศสวยมาก
ป้ายชื่อบริษัทด้านหน้าใหญ่มาก อยากจะไปยืนถ่ายรูปเอาฤกษ์เอาชัยเช็คอินโซเชี่ยลไว้เป็นหลักฐานก็กลัวพี่ประชาสัมพันธ์จะหาว่าเสล่อเลยต้องเก็บอาการไว้ก่อน
พอไปถึงห้องประชุมก็มีคนสองคนผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่งวัยน่าจะสามสิบต้นกำลังกรอกเอกสารอยู่
บุรฉัตรยกมือไหว้แล้วกล่าวทักทายในฐานะคนที่เด็กกว่า
“สวัสดีค่ะ บลูค่ะ”
บุรฉัตรส่งยิ้มให้ก็ได้รับรอยยิ้มตอบ พี่ผู้ชายชื่อพี่ชัยวัฒน์ ส่วนพี่ผู้หญิงชื่อพี่การะเกด ทั้งสองคนดูอัธยาศัยดีและทักทายเธออย่างเป็นกันเอง
นั่งรอไม่นานก็มีพี่อ้อยฝ่ายบุคคลเอาเอกสารมาให้กรอก และมีผู้ชายอีกสองคนที่เป็น Star Talent เหมือนกันเข้ามาในห้อง สรุปว่าคนที่ผ่านการคัดเลือกเป็นชายสามหญิงสอง และเธออายุน้อยที่สุด ประสบการณ์ในการขายประกันมีน้อยที่สุด
“บลูนี่เก่งนะครับเพิ่งเข้ามาเองสามารถสอบคัดเลือกจนผ่านเกณฑ์เข้ามาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Virgin Blue ซ่อนเสน่หา