“ลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าซะ ถ้าไม่อยากถูกฉันทำเหมือนเมื่อกี้อีก”
หลังจากมีอะไรกันเสร็จแล้ว ฉันก็ถูกพี่เลย์บังคับให้ใส่เสื้อผ้า เพราะเขาจะไปส่ง แต่เสื้อชั้นในของฉันมันถูกกระชากจนขาดหลุดลุ่ยไปแล้ว จะให้เอามาใส่ก็ไม่ได้ ขาดแบบไม่มีชั้นดี ทำให้ฉันต้องเดินออกมาจากห้องพร้อมกับผ้าขนหนู ถึงจะใส่เสื้อแต่การเอาผ้าขนหนูปิดไว้แบบนี้มันทำให้ฉันอุ่นใจกว่า
“จะเอาผ้าขนหนูของฉันออกมาด้วยทำไม” พี่เลย์ถามอย่างไม่ชอบใจ
“ก็ ก็ พี่เลย์เป็นคนทำเสื้อชั้นในของไอริสขาด…”
“แล้วยังไง ? นมเหมือนแผ่นกระดานแบบนั้นไม่ใส่เสื้อชั้นในก็ไม่มีใครดูออก เอาผ้าออก!!”
“ไม่!!”
“เธอจะเอาผ้าฉันกลับไปที่บ้านด้วยหรือยังไง”
“ถ้าไม่อยากให้ไอริสเอาผ้าพี่เลย์กลับไปด้วย พี่เลย์ก็ไปซื้อเสื้อชั้นในให้ไอริสสิคะ…”
“เธอบอกให้ฉันไปซื้อเสื้อชั้นในให้ หึ!” พี่เลย์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่น “ไม่มีทาง”
“…..” ฉันเม้มปากแน่น ใจร้าย พี่เลย์ใจร้ายที่สุด
ฉันค่อยๆ เอาผ้าขนหนูออกจากตัวช้าๆ อย่างไม่มีทางเลือก วันนี้ดันใส่เสื้อสีขาวมาด้วย สายตาของพี่เลย์มองมายังหน้าอกของฉัน แถมยังแสดงสีหน้าไร้ความรู้สึกออกมา ฉันจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้
พี่เลย์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตูห้อง ฉันมองผ้าขนหนูอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่ก็ต้องรีบวิ่งตามแผ่นหลังของพี่เลย์ออกไปจากห้อง
พอเดินออกจากห้องมาก็มีผู้ชายสองคนเดินมาทางนี้ มันทำให้ฉันหยุดจะชักแล้วรีบหันหลังให้ทันที
หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัว ทั้งกลัว ทั้งอาย อยากจะกลับไปที่บ้านเร็วๆ
พรึ่บ!! จู่ๆ ก็มีอะไรบางอย่างมาคลุมบนไหล่ของฉัน ทำให้ฉันหันมอง เห็นว่าเป็นเสื้อแจ็กเก็ต ฉันจึงมองพี่เลย์ ตอนนี้เขาไม่ได้สวมใส่แจ็กเก็ตอยู่
“เอาไปคลุมซะ!!”
“ถ้าพี่เลย์ไม่เต็มใจ…”
ยังพูดไม่ทันจบ พี่เลย์ก็ยื่นหน้ามากระซิบบอก “หรืออยากให้พวกนั้นมันเห็นหน้าอกแบนๆ ของเธอ”
ฉันยู่ปากใส่พี่เลย์ แต่ไม่ได้ทำให้เขาเห็นหรอก เพราะไม่กล้าขนาดนั้น จากนั้นก็รีบหยิบเสื้อของพี่เลย์มาปิดตรงหน้าอก แล้วก็รีบเดินตามเขาลงไปยังลานจอดรถ
#ภายในรถ
“ฉันจะไปที่บริษัทก่อน” พี่เลย์บอกก่อนที่จะสตาร์ทรถ
“ถ้าอย่างนั้นให้ไอริสนั่งรถแท็กซี่กลับก็ได้ค่ะ”
“เฮียบอกว่าให้ฉันเป็นคนไปส่งเธอ”
ใบหน้าของฉันบึ้งตึงไปทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่อยากจะอยู่กับเขาแล้ว ไม่อยากอยู่ใกล้ ฉันต้องจัดการกับความรู้สึกต่างๆ ที่มันประเดประดังถาโถมเข้ามายังไงดี เพิ่งจะมีอะไรกันไปเมื่อกี้
แต่พี่เลย์เขากลับทำตัวได้ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมกัน ทำไมฉันถึงทำแบบนั้นไม่ได้ ฉันก็ไม่อยากต้องมาคิดเหมือนกันนะ ทำไมต้องเป็นฉันที่เอาแต่คิดฟุ้งซ่านอยู่ฝ่ายเดียวด้วย
ระหว่างทางไปที่บริษัท จู่ๆ พี่เลย์ก็ตีไฟเลี้ยวแล้วก็จอดรถ ฉันจึงถามด้วยความสงสัย
“จอดรถทำไมคะ ?”
“ถามมาก” พี่เลย์บอกด้วยสายตาดุๆ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถออกไป
ฉันมองพี่เลย์ที่เดินหายไปไหนก็ไม่รู้ แถวนี้จะเป็นพวกร้านค้า ร้านอาหาร หรือว่าพี่เลย์คงจะหิวเลยไปหาซื้ออะไรกิน
กริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเฮียโทรมา จึงรีบกดรับสาย
( ค่ะเฮีย )
“หึ!!”
เหมือนเขาแค่แกล้งฉันเล่น พอถูกฉันต่อว่าก็เอนตัวกลับไปที่เดิม แล้วเบือนหน้าหันไปทางกระจกฝั่งที่ตัวเองนั่ง ทำไมถึงได้ยั่วอารมณ์กันขนาดนี้นะ
ฉันกลั้นใจเปลี่ยนใส่ชุดชั้นในมันบนรถตามที่พี่เลย์สั่ง เพราะสำหรับฉันแล้วถือว่าสำคัญมากจริงๆ ถ้าให้เดินไปไหนมาไหนแบบไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน ฉันคงจะต้องอับอายแน่ๆ
#บริษัท
พี่เลย์พาฉันเข้ามาในห้องทำงานของเขา ซึ่งดูๆ แล้วก็ไม่เห็นว่าพี่เลย์จะทำงานอะไรเลย บนโต๊ะไม่มีเอกสารอะไร แถมพี่เลย์ก็ยังนั่งเล่นโทรศัพท์จนนี่ก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
“พี่เลย์คะ ถ้าไม่มีงานต้องทำก็ไปส่งไอริสได้แล้วค่ะ”
“ถ้าฉันอยากไปส่งเธอ ฉันก็จะไปส่งเองไม่ต้องมาสั่ง นั่งลงไปซะ!!”
แกร็ก!! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ทำให้ฉันหันไปมอง
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน การแต่งตัวของเธอช่าง….ฉันไม่รู้จะพูดยังไงแต่มันทั้งโชว์ทั้งเว้าไปหมดทุกส่วน
ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงไปหาพี่เลย์ ก่อนจะนั่งลงบนตักแกร่งแล้วใช้มือคล้องคอพี่เลย์ ก่อนจะยื่นหน้าเอาริมฝีปากไปจูบ ราวกับว่าเธอมองไม่เห็นว่าฉันอยู่ตรงนี้ด้วย ถึงได้ทำอะไรที่น่าอับอายแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น
ฉันที่ทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ไหวจึงพูดขึ้น “เดี๋ยวไอริสออกไปรอข้างนอกนะคะ”
“อุ๊ย! มีคนอยู่ด้วยเหรอคะเนี่ย คลีนไม่ทันมอง” ผู้หญิงคนนั้นทำท่าตกใจเมื่อหันมาเห็นฉัน
“อยู่ตั้งนานแล้วค่ะ” ฉันตอบ
“จะออกไปก็ออกไปสิ มัวแต่ยืนทื่ออยู่ได้” พี่เลย์พูด เขาแทบไม่มองหน้าฉันเลยด้วยซ้ำ
“อื้อ เลย์นี่ใจร้อนตลอดเลยนะคะ”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันหลังให้กับการกระทำที่ไร้ยางอายของทั้งสองคน ก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตูออกไปจากห้องทำงานของพี่เลย์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+