“ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับเธอ” หลังจากที่เงียบไปพักใหญ่ เป็นพี่เลย์ที่เอ่ยถามขึ้นมาก่อน
เขาใช้คำว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ แทนที่จะพูดชื่อพี่แตมไปตรงๆ
“….เปล่าค่ะ”
พอฉันตอบพี่เลย์ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาเงียบแล้วก็ขับรถต่อไป คงมีแค่ฉันที่กำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่ตอนนี้
ฉันอยากจะรู้ว่าระหว่างพี่เลย์กับพี่แตมมันเลยเถิดไปถึงขั้นไหนแล้ว ทำไมพี่แตมถึงได้แสดงท่าทางแบบนั้นกับฉัน
“…พี่เลย์คะ” ในที่สุดฉันก็รวบรวมความกล้าที่จะถามสิ่งที่ค้างคาใจ
พี่เลย์ละสายตาออกจากถนนหันมามองฉัน “ว่า ?”
“คือ…พี่เลย์กับพี่แตม มะ มีอะไรกันหรือยังคะ ไอริสหมายถึงเคยทำอะไรที่มันเลยเถิดด้วยกันหรือเปล่า”
“หึ!! หมายถึงแบบที่ฉันกับเธอทำด้วยกันบ่อยๆ ?”
ฉันจิกเล็บลงบนแขนตัวเองแน่น เมื่อได้ยินคำที่พี่เลย์จงใจพ่นมันออกมา แล้วเงียบไม่ตอบอะไรทั้งนั้น
“ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น อย่างมากก็แค่นัวเนีย แต่ไม่ถึงขั้นสอดใส่” พี่เลย์พูดออกมาตรงๆ แต่เขาจะพูดความจริงหรือเปล่านะ
“ถามทำไม ?” พี่เลย์ขมวดคิ้วเป็นปมถามฉัน
“ปะ เปล่าค่ะ ไอริสก็แค่อยากรู้”
ฉันอยากจะถามอีกเรื่องนะว่าทำไมพี่เลย์ถึงไม่ใส่แหวนหมั้น แต่ไม่เอาดีกว่า ในเมื่อเราไม่ได้ผูกมัดกันทางใจ ฉันก็ไม่ควรจะไปวุ่นวายอะไรทั้งนั้น
แค่คำถามเมื่อกี้มันก็ดูวุ่นวายมากพอแล้ว
#บ้านของฉัน
หลังจากที่ฉันลงจากรถ พี่เลย์ก็รีบขับรถออกไปจากบ้าน ฉันมองตามรถที่พี่เลย์ขับไปจนสุดสายตา
จู่ๆ มันก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวว่า เขาจะไปหาใครหรือเปล่า ใครที่ฉันว่า ก็หมายถึงผู้หญิงที่เขาเลี้ยงเอาไว้นั่นแหละ
ฉันไม่รู้เลยว่าพี่เลย์มีใครบ้าง ไม่รู้ว่าในตอนนี้เขามีผู้หญิงที่พัวพันอยู่กี่คน ฉันไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
วันนี้ฉันต้องอยู่ที่บ้านคนเดียวเพราะเฮียไปอังกฤษ ไปพร้อมคุณพ่อแล้วก็คุณจอแดน เห็นว่าต้องไปคุยธุรกิจที่นั่นด้วย เพราะคุณจอแดนสนใจธุรกิจที่เฮียทำอยู่ ถึงเฮียจะดูไม่ชอบหน้าคุณจอแดนเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่เฮียให้เรื่องงานสำคัญที่สุด
#ตกดึก
ฉันกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง พลางหมุนแหวนบนนิ้วของตัวเองไปมา
ในเมื่อพี่เลย์ไม่ได้ใส่ใจที่จะสวมแหวนหมั้น แล้วทำไมฉันต้องสวมมันด้วยล่ะ จริงไหม
คิดได้แบบนั้นฉันจึงตัดสินใจถอดแหวนออกจากนิ้ว แล้วเอาเก็บไว้ในลิ้นชัก ก่อนจะลุกขึ้นไปปิดไฟเตรียมจะนอน
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เอนหัวลงหมอน เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้น เมื่อหยิบมาดูเบอร์ที่โทรเข้ามามันก็ทำให้ฉันต้องตกใจสุดขีด เพราะเป็นเบอร์ของพี่เลย์
ฉันลังเลอยู่นานว่าจะกดรับสายเขาดีไหม จนกระทั่งสายตัดไป แต่ห่างจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีเบอร์ของพี่เลย์ก็โทรเข้ามาอีกครั้ง ฉันจึงตัดสินใจกดรับสาย
( ชักช้าชะมัด )
พอกดรับสายเสียงของพี่เลย์ก็พูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มเล็ดลอดให้ได้ยินผ่านปลายสาย ทำให้ฉันต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู แถมพี่เลย์ยังพูดน้ำเสียงที่เหมือนคนเมาอีกด้วย
( เสียงดังจังเลยค่ะ ไอริสไม่ค่อยได้ยินเลย )
( แป๊บ ห้ามวางสาย )
ถึงเสียงเพลงจะดังแค่ไหน แต่ฉันก็ได้ยินที่พี่เลย์สั่งชัดเจน ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ เพราะเงียบไปเลย
( มารับฉันที่คลับxx ) ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงเพลงแล้ว
( ฮะ!! ปะ ไปรับยังไงคะ ไอริสขับรถไม่เป็น )
( ก็ให้คนขับรถมาส่งสิวะ มันยากตรงไหน ) พี่เลย์กระชากเสียงบอกอย่างไม่สบอารมณ์
( แล้วรถของพี่เลย์ล่ะคะ )
( ถามมากจังวะ ไม่ได้เอามา!!)
( ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่โทรไปบอกคนขับรถที่บ้านของพี่เลย์เองล่ะคะ จะโทรมาบอกไอริสทำไม )
( ฉันต้องการให้เธอมารับ ทำไมต้องโทรไปบอกที่บ้าน บื้อ!!)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+