“อ๊ะ!” ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้เมื่อหลุดครางแบบนั้นออกไป
ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่มันเผลอปากไปเอง เพราะพี่เลย์กำลังนวดข้อเท้าของฉันอยู่ ความเจ็บปวดทำให้ฉันหลุดส่งเสียงที่น่าเกลียดแบบนั้นออกไป
“พะ พอแล้วค่ะ” ฉันดึงเท้าของตัวเองกลับ แต่พี่เลย์รั้งเอาไว้ “อ๊ะ โอ๊ย!”
“ก็ยังเจ็บอยู่ ทำเป็นอวดเก่ง”
ฉันเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำต่อว่าของผู้ชายตรงหน้า พี่เลย์เริ่มใช้มือนวดคลึงข้อเท้าของฉันอีกครั้ง
ในตอนนี้ฉันกำลังจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายของพี่เลย์ราวกับโดนมนต์สะกด เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ ทำไมต้องมาทำเหมือนเป็นห่วง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ปากร้ายกับฉัน
สายตาของฉันจ้องมองแหวนที่อยู่บนนิ้วของพี่เลย์กับนิ้วของตัวเอง หัวใจดวงน้อยพลันเต้นรัวขึ้นมาไม่เป็นท่า จนฉันต้องยกมือขึ้นมาทาบตรงหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเอาไว้เพื่อห้ามปรามความรู้สึก
“เป็นอะไร ?” พี่เลย์เงยหน้าขึ้นมาถาม
ลืมตัวไปเลยว่าเขายังอยู่ตรงนี้ด้วย ฉันเผลอตัวอีกแล้วนะ
“ฉันถาม” ครั้งนี้ฉันถูกคนตรงหน้าถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ปะ เปล่าค่ะ”
ฉันกำมือแน่นจนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ชั่งใจสักพักก่อนจะพูด “ทำไมถึงไม่คิดจะขอโทษกันบ้างล่ะคะ…”
พี่เลย์วางเท้าฉันลงกับพื้น แล้วพูด “ลองยืนขึ้นสิ ดีขึ้นหรือยัง”
สรุปที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เขาไม่ได้ยินเลยอย่างนั้นใช่ไหม ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วค่อยๆ ยืนขึ้นตามคำสั่ง ข้อเท้าของฉันมันยังปวดอยู่นิดหน่อย แต่ดีขึ้นมากจริงๆ
“ดีขึ้นแล้วค่ะ”
หมับ!! จู่ๆ พี่เลย์ก็คว้ามากอดเอวฉันแล้วดึงเข้าหาตัวเอง ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นบริเวณซอกคอของฉันราวกับโรคจิต
“พะ พี่เลย์ปล่อยนะ” ฉันใช้มือดันแผงอกแกร่งให้ออกห่างจากตัว
“กลิ่นตัวเธอหอมดี”
คำพูดของพี่เลย์ทำให้ฉันขมวดคิ้วเป็นปมอย่างงุนงง พูดจบก็ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ จากนั้นเจ้าตัวก็เดินไปยังประตู ก่อนจะหยุดเดินแล้วหันกลับมามองฉันที่กำลังยืนทำตัวแข็งทื่ออยู่
“จะอยู่ในห้องนี้หรือไง”
อะไรของเขากัน ฉันตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ
ฉันรีบเดินตามแผ่นหลังของพี่เลย์กลับไปด้านล่างของโรงแรม แล้วก็ไปพบปะกับญาติผู้ใหญ่อีกตามเคย
ช่วงเย็น…
หลังจากจบงานหมั้นฉันก็กลับบ้านไปเปลี่ยนชุด จากนั้นก็นั่งรถกับเฮียคานส์มาที่บ้านของพี่เลย์ เพราะมีนัดกินข้าว ส่วนคุณพ่อติดธุระไม่ได้มาด้วย
จริงๆ ฉันไม่ได้อยากจะคิดอะไรมาก แต่ดูเหมือนว่าพ่อจะไม่ค่อยสนใจฉันสักเท่าไหร่เลยจริงๆ
“เป็นอะไร เห็นทำหน้าเครียดๆ ?” เฮียถาม
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วบอกความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ออกไป “หนูกับพี่เลย์เราไม่ได้รักกัน พอต้องมาหมั้นกันแบบนี้หนูอึดอัดมากจริงๆ ค่ะ”
เฮียถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อได้ฟังความในใจของฉัน “แต่เฮียไม่อยากให้สิ่งที่เธอเสียไป ต้องเสียไปฟรีๆ นะไอริส”
“หนูรู้…” ฉันมองหน้าเฮียอย่างจริงจัง “ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งหนูทนกับพี่เลย์ไม่ไหวจริงๆ ถ้าหนูอยากจะถอนหมั้นกับเขา เฮียจะไม่ขัดหนูใช่ไหม”
เฮียยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันแววตาคู่นั้นที่เฮียมองฉันอยู่มันอบอุ่นกว่าแววตาของพ่อซะอีก
“ได้สิ ถ้าไปกันไม่รอดเธออยากจะถอนหมั้นเฮียก็จะไม่ว่าอะไร”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจหนูบ้าง…”
“พูดแบบนี้แปลว่าเฮียใจร้าย ?”
“ปะ เปล่าๆ นะ หนูก็แค่….” ฉันหยุดพูดแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ อีกครั้ง ทำไมถึงลำบากใจมากขนาดนี้กันนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+