ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำตัวเองให้เข้มแข็ง “พูดเองไม่ใช่หรือไงว่าให้ไอริสมาเก็บเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ไอริสมาแล้วนี่ไงหลีกไปสิคะ”
“ในห้องฉันไม่มีเสื้อผ้ามัน” พี่เลย์จ้องหน้าคุณจอแดนตาเขม็ง “มึงไม่มีสิทธิ์เข้ามาในห้องของกู”
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันดีกว่าครับ เสื้อผ้าพวกนั้นเดี๋ยวผมจะซื้อให้ไอริสใหม่” คุณจอแดนพูดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะหันไปจ้องหน้าพี่เลย์ “อย่าสนใจของเก่าๆ พวกนั้นเลยครับ”
“มึง!!” พี่เลย์ขบกรามแน่น เขาทำเหมือนจะหาเรื่องคุณจอแดน ฉันจึงรีบดึงคุณจอแดนห่างออกมา
“ถ้าคุณจอแดนจะซื้อให้ใหม่ งั้นเรากลับกันดีกว่านะคะ”
หมับ!! พี่เลย์คว้ามือมารั้งแขนของฉันเอาไว้
“ที่มาเธอคงไม่ได้ต้องการจะมาเก็บของ แต่ต้องการจะพาผัวใหม่มาเย้ยฉัน ?” พี่เลย์พ่นคำพูดที่ไม่น่าฟังออกมา
ฉันไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะแกะฝ่ามือใหญ่ที่กำแขนของฉันออก แล้วรีบพาคุณจอแดนเดินออกมาจากตรงหน้าห้องของพี่เลย์
ให้หลังจากที่ฉันเดินมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องดังลั่น เสียงนั้นดังมาจากห้องของพี่เลย์
“…ไอริส”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยค่ะ รีบไปที่รถกันก่อนดีกว่า” ฉันขัดขึ้นก่อนที่คุณจอแดนจะได้ถามอะไร
ฉันรีบก้าวขาเดินให้เร็วที่สุด เท่าที่จะเร็วได้ เมื่อมาถึงที่รถฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกอะไรกับการที่ต้องมาประจันหน้ากับพี่เลย์แบบนี้ แถมคำพูดของเขายังร้ายกาจ ทำร้ายคนฟังอย่างฉันเอามากๆ
ณ จุดๆ นี้ ต่อให้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาสักแค่ไหน มันก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา มีเพียงความรู้สึกที่มันชินชากับความเจ็บปวด…
“ที่ไอริสบอกว่าจะแต่งงานกับผม…” คุณจอแดนถาม เขาเอื้อมมือมาจับมือของฉันขึ้นมาแล้วถามต่อ “ไม่ใช่แค่พูดประชดผู้ชายคนนั้นใช่ไหมครับ”
“…ไอริสขอโทษนะคะ” ฉันเอ่ยขอโทษเขาจากใจจริง
คำตอบของฉันทำให้คุณจอแดนถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้ววางมือฉันลง “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่น่าถามแบบนั้น”
“ขอบคุณที่เข้าใจไอริสนะคะ”
“แค่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไอริสเข้มแข็งขึ้น ผมก็ดีใจแล้วครับ ^_^”
“แวะโรงพยาบาลหน่อยได้ไหมคะ”
“แวะไปทำไมครับ ?”
“ไอริสเวียนหัว คลื่นไส้ อยากจะไปขอยาแก้แพ้ท้องกับคุณหมอมากินสักหน่อยค่ะ เผื่อจะดีขึ้น”
คุณจอแดนพยักหน้าตอบ จากนั้นเขาก็ขับรถพาฉันมาที่โรงพยาบาล
ถ้าหากว่าฉันเลือกที่จะยอมหมั้นกับคุณจอแดนตามที่พ่อบังคับแต่แรก ฉันก็คงจะมีความสุข เพราะคุณจอแดนเป็นผู้ชายที่อบอุ่น เขาคงทำให้ฉันรักเขาได้ไม่ยาก
แต่ตอนนี้ถึงฉันจะรู้อยู่เต็มอกว่าคุณจอแดนคิดยังไง ฉันก็ไม่สามารถสานต่อความสัมพันธ์ให้ไปไกลได้มากกว่าคำว่าพี่น้องได้
Talk เลย์
“ลมอะไรหอบมึงให้มาหากูแต่เช้า ?” ผมถามไอ้เตที่กำลังแทรกตัวเดินเข้ามาในห้อง
“ไอ้เลย์! นี่มึงแดกเหล้าหรืออาบวะ” ไอ้เตมองดูขวดเหล้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นตรงโซฟาภายในห้องของผม
“มึงเลิกสนใจห้องกู แล้วพูดมาว่าที่มึงมาหากูแต่เช้าเนี่ย ใครตาย ?”
ไอ้เตถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
“ไอซ์ท้องว่ะ”
“ไม่คิดว่าเสือแบบมึงจะพลาด”
ไอซ์คือคู่นอนของไอ้เต และดูท่าไอ้เตก็ถูกใจเธอไม่น้อยเหมือนกัน
“พลาดเหี้ยอะไรของมึง กูป้องกันทุกครั้ง”
“ถ้ามึงป้องกัน แปลว่าเธอท้องกับคนอื่น แล้วมึงจะมานั่งอมทุกข์อยู่ทำไมวะ หรือมึงหลงรักเหยื่อ ?”
“ไอซ์ท้องกับกู”
“มึงจะเอายังไงกันแน่ ไหนมึงบอกว่าป้องกัน แล้วไอซ์จะท้องกับมึงได้ยังไง”
“เหี้ยแม่ง!! ตอนแรกกูปฏิเสธเสียงแข็งว่าเด็กในท้องเธอไม่มีทางเป็นลูกกูแน่ๆ เพราะกูป้องกันตลอด แล้วมึงรู้ไหมว่าไอซ์บอกกูว่ายังไง”
“ยังไง ?”
“ถุงยางที่อยู่ในรถกูสิบกว่ากล่อง แม่งถูกเจาะไอ้สัส แล้วคนที่ทำก็คือไอซ์ เธอบอกกูว่าแอบเจาะถุงยางทุกกล่องที่อยู่ในรถกู เชี้ยเอ๊ย!!”
“ช่วงนั้น แม่งชวนกูเอาทุกวันด้วย”
ไอ้เตก้มหน้าลงใช้มือยีผมตัวเองจนยุ่งเหยิง แล้วมันก็เงยหน้าขึ้นมามองผม “วันนั้นมึงเอาถุงยางที่รถกูไปสองกล่อง ไปเช็กดูด้วยล่ะว่าเด็กในสต็อกมึงท้องไปแล้วกี่คน”
“กูเอามาตอนไหน ?” ผมขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อได้ยินไอ้เตบอกว่าผมเอาถุงยางที่รถมันมาใช้
“สองเดือนที่แล้ว นี่มึงความจำเสื่อมหรือไงไอ้เลย์ มึงบอกกูว่าขี้เกียจแวะซื้อแล้วก็เอากุญแจรถกูไปหยิบถุงยางมาสองกล่อง”
“……” ผมคิดทบทวนเหตุการณ์ตามที่ไอ้เตบอก ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าผมเคยไปเอาถุงยางที่รถมันมาจริงๆ
“อ่า! แต่ตอนนั้นมึงคบกับไอริสอยู่นี่หว่า” ไอ้เตเหล่ตามองผมแล้วถาม “ทำหน้าตาเคร่งเครียดแบบนี้ หรือว่ามึง….”
“ถุงยางที่เอากับมึงมา กูใช้กับไอริสคนเดียว”
ผมคิดถึงเรื่องที่ไอริสพูดเมื่อวาน มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องแต่งงานกับไอ้ฝรั่งนั่นฟ้าแลบขนาดนั้น นอกซะจากเธอกำลังตั้งท้อง แน่นอนว่าผมมั่นใจ ถ้าหากไอริสท้อง ในท้องของเธอต้องเป็นลูกของผมแน่ๆ
“มึงคิดอะไรอยู่ไอ้เลย์”
“ไม่มีอะไร” ผมปฏิเสธ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความไปหาไอริส
Talk ไอริส
“จะกลับอังกฤษเมื่อไหร่ ?” เฮียเดินมาถามฉันที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในตอนเช้า
“หนูเพิ่งกลับมา เฮียก็จะไล่อีกแล้วเหรอคะ” ฉันถามอย่างน้อยใจ
“เฮียไม่ได้ไล่ เพราะอะไรเธอก็น่าจะรู้ดี”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วตั้งคำถามกับเฮีย “ทำไมหนูต้องหนีด้วยล่ะคะ หนูต้องไปอยู่ที่อังกฤษเพื่อหลบหน้า แบบนั้นใช่ไหมคะ”
“เธอคิดอะไรอยู่ไอริส เฮียไม่ชอบที่เธอตั้งคำถามแบบนี้เลยนะ”
“หนูเหนื่อยที่จะต้องเอาแต่หนีไปแบบนั้น”
ฉันคิดเรื่องนี้มาทั้งคืน มันคือความไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นฉันที่เอาแต่หนีปัญหา แทนที่จะเดินหน้าสู้กับมัน แต่กลับเอาแต่หนีแบบนี้ เมื่อไหร่ฉันจะเข้มแข็ง หากเป็นแบบนี้ฉันคงไม่ต้องอยู่ที่อังกฤษไปจนแก่เลยหรือไง
ฉันกำลังคิดว่าการหนีไปแบบนั้นมันไม่ใช่ทางออก
“โตแล้ว เฮียคงบังคับอะไรไม่ได้ ถ้าอยากจะทำอะไรเฮียจะไม่ห้าม แต่เรื่องที่จะไม่กลับไปอังกฤษเธอต้องคุยกับพ่อเอง”
“…ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ว่าที่ 'เมีย' | Hate love Nc20+