ณ ปักกิ่ง
วันนี้มีฝนตกหนัก
ถนนที่เปียกน้ำนั้นดูเหมือนแม่น้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ และผู้คนบนถนนที่ต่างก็พาถือร่มสีสันสดใสเหมือนกลีบดอกไม้ที่ลอยอยู่บนน้ำ
เวลาสามทุ่ม
หลังจากที่ไป๋ปิงจบการสัมมนาโรงเรียนแพทย์ เธอก็กลับมาที่บ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นกับนายพลไป๋
ตั้งแต่ไป๋ยวี่จิงและลูกชายของเขาหนีไปต่างประเทศ นายพลไป๋ก็ไม่มีใครคุยด้วยด้วยซ้ำ เว้นตำรวจยามและคนขับรถ
คืนนี้เพราะไป๋ปิงกลับมาบ้าน บ้านของตระกูลไป๋จึงกลับมามีเสียงหัวเราะอีกครั้ง
ทั้งสองคนกำลังกินข้าวและพูดคุยกัน
“เสี่ยวไป๋ เธอก็อายุไม่น้อยแล้วนะ พยายามมีลูกกับเยี่ยชิวหน่อย แบบนี้ไม้ใกล้ฝั่งอย่างฉันจะได้มีความสุขที่มีครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาสักที”นายพลไป๋พูดโน้มน้ามไป๋ปิง
ไป๋ปิงไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย และเธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเมือนกัน มันเหมือนว่าท้องของเธอนั้นเงียบไปนานมากแล้ว
คิดเช่นนี้ไป๋ปิงจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“คุณปู่ ทำไมไม่มาอยู่ที่เจียงโจวกับฉันและเยี่ยชิวล่ะคะ หนูหวังว่าคุณปู่จะไปเจียงโจวเหมือนกันนะ” ไป๋ปิงพูดขึ้น
“ไม่ล่ะ”นายพลไป๋ตอบกลับพร้อมพูดอีกว่า:“ฉันอยู่ปักกิ่งมานานแล้ว ถ้าย้ายไปที่อื่นก็คงไม่ชิน”
ไป๋ปิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า:“เอาอย่างนี้ไหมคะ หนูกลับไปหนูไปทำเรื่องขอส่งตัวกลับมาที่นี้ แบบนี้หนูจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ได้ด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก เธอควรอยู่ที่เจียงโจวกับเยี่ยชิว!” นายพลไป๋พูดต่ออีกว่า:“เมื่อคู่รักแยกกันอยู่ จะมีปัญหาตามมามากมาย”
ไป๋ปิงยิ้มแล้วพูดว่า:“ไม่หรอกค่ะ เยี่ยชิวและหนูเชื่อใจกันมาก”
“ไม่ว่าพวกเธอทั้งคู่จะเชื่อใจฉันมากแค่ไหน หากอยู่ห่างไกลกัน ความสัมพันธ์ก็จะเหินห่างตามไปด้วย” นายพลไป๋ยังพูดต่ออีกว่า:“เชื่อฉันเถอะ เธออยู่เจียงโจวน่ะดีแล้ว”
“ส่วนฉันนั้น เธอต้องกังวลเลย”
“มีทั้งตำรวจยามอยู่ที่บ้าน จะออกไปข้างหน้าก็มีคนขับรถและยังมีเหล่าบรรดาเพื่อนเก่าของฉันที่คอยแวะเวี่ยนมาหาเป็นครั้งคราวอีก ในเวลาปกติแล้วก็ฝึกคัดอักษรและฟังงิ้วปักกิ่ง ชีวิตของฉันที่นี้ค่อนข้างน่ารื่นรมย์เลยทีเดียวล่ะ”
“ว่าไง ในโรงพยาบาลมีเรื่องตลกอะไรบ้างไหม เล่าฉันฟังสักหน่อยสิ”
ไป๋ปิงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:หลายปีก่อน ชายคนหนึ่งมาที่โรงพยาบาลค่ะ เขาเอาแต่พูดว่าหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า เขามักจะรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างไม่เห็นบีบคอของเขาอยู่ หายใจลำบาก ตลอดเวลา รู้สึกแปลกๆ ที่หลังคอ สงสัยโดนลมร้ายเข้าสิง”
“คุณปู่ ลองทายดูสิคะว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร?”
“โรคอะไรหรอ?” นายพลไป๋ถามอย่างสงสัย
ไป๋ปิงพูดต่อว่า:“แพทย์จากภาควิชาการแพทย์แผนจีนได้ตรวจดูชายคนนี้อย่างละเอียด และพบว่าเขามีสุขภาพที่ดีมากเลยค่ะ สำหรับอาการเหล่านี้เป็นเพราะว่าเขาสวมเสื้อสเวตเตอร์ด้านในออก”
นายพลไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง:“ฮ่าฮ่าฮ่า...”
ทางเข้าลานบ้าน
ตำรวจยามทั้งสองได้ยินเสียงหัวเราะของนายพลไป๋ มองหน้ากัน และเริ่มแอบพูดคุยกันว่า
“ฉันไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของนายพลไป๋มานานแล้ว”
“ใช่ ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินเสียงหัวเราะของเขา คือตอนที่เทพทหารและคุณเยี่ยมาเยี่ยมเขาเมื่อเดือนที่แล้ว”
“เห็นได้ชัดเลยว่านายพลไป๋มีความสุขมากหลังจากที่คุณหนูไป๋กลับมา”
“นายพลไป๋นั้นทุ่มเทรับใช้ชาติ ตอนนี้แก่ชราแล้ว ฉันก็หวังเป็นอย่างมากว่าเขาจะมีความแบบนี้ได้ในทุกๆวัน”
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของไป๋ยวี่จิง ถ้าเจ้าเด็กคนนั้นไม่ดื้อรั้นขนาดนั้น ครอบครัวตระกูลไป๋ก็จะไม่ถูกทอดทิ้งเช่นนี้?”
“นายพลไป๋มีหลานชายอย่างไป๋ยวี่จิง ครอบครัวของเขาโชคร้ายจริงๆ…”
“พวกคุณสองคนกำลังพูดถึงฉันอยู่เหรอ?”
ทันใดนั้น ใบหน้าที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าตำรวจยามทั้งสองโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
“ไป๋ยวี่จิง!”
ตำรวจยามทั้งสองคนนั้นตัวหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่มีใครคาดคิดว่าไป๋ยวี่จิงจะมาปรากฏตัวในตอนนี้และเวลานี้
“ไป๋ยวี่จิง กล้าหาญมากนะ คิดไม่คุณกล้ากลับมาจริงๆ!”
“ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“ถ้าอย่างนั้น อย่าหาว่าเราหยาบคายกับคุณนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...