เยี่ยชิวรู้สึกถึงร่องรอยที่ผิดปกติอย่างเฉียบพลัน ลืมตา แล้วลุกขึ้นมาจากบนเตียงอย่างรวดเร็ว
พอหันไปมอง ก็เห็นเเต่ว่าเสียงกรนของอมตะชางเหม่ยเเละหู่จืออย่างกับฟ้าร้อง ยังหลับสนิทอยู่
โดยเฉพาะอมตะชางเหม่ย ไอ่เเก่นี้ไม่รู้ว่าเขากําลังฝันถึงอะไร มุมปากยังมีน้ําลายไหลออกมา
เยี่ยชิวอดไม่ไหว ที่จะใช้นิ้วมือดีดดั้งจมูกของอมตะชางเหม่ย
“อุ๊ย!”
อมตะชางเหม่ยกรีดร้องด้วยความเจ็บปว ลุกนั่งขึ้นมา พอเห็นเยี่ยชิวยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็บ่นอย่างไม่สบายใจว่า“ดึกแล้ว ทําไมนายยังไม่นอน?ปลอมเป็นผีมาหลอกคนเหรอ!”
“ดูนายสิ แก่ขนาดนี้แล้ว ยังน้ำลายไหลอยู่ ฉันละอายใจแทนนายเลย”เยี่ยชิวถามว่า“นายฝันถึงอะไร?”
“เฮ่ๆ”อมตะชางเหม่ยยิ้มอย่างโรคจิต“เมื่อกี้ข้าฝันถึงขายาวๆหลายขา ติดกับข้าหมด เเม่งเอ้ย ถ้าไม่ใช่นาย กูก็จะทําเรื่องสำคัญในฝันแล้ว ”
เยี่ยชิวกรนอย่างเย็นชา“ไม่รู้อาย!”
อมตะชางเหม่ยไม่สนใจ และพูดว่า“วัยรุ่นคนไหนไม่ถวิลหาคู่”
เยี่ยชิวหัวเราะ“นายอายุเท่านี้เเล้ว ยังกล้าบอกว่าเป็นวัยรุ่ยเหรอ?”
อมตะชางเหม่ยยกคอขึ้นแล้วพูดว่า “ผู้ชายเป็นวัยรุ่นตลอดจนตาย!”
เยี่ยชิว“......”
“ฉันว่านะไอ้เด็กเปรต ดึกแล้วนายไม่นอน ทำบ้าอะไร?”อมตะชางเหม่ยถามสงสัย
เยี่ยชิวถึงจะพูดเรื่องสำคัญ ถามว่า “ไอ้แก่ นายรู้สึกถึงความแตกต่างอะไรไหม?”
“มีการเปลี่ยนแปลงอะไร?”หรือข้าหล่อขึ้น?”
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ฉันพูดเรื่องสำคัญกับนายอยู่ นายรู้สึกไหมว่าบรรยากาศไม่ค่อยถูกปกติ?”
บรรยากาศ?
อมตะชางเหม่ยลองรับความรู้สึก ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความกดดัน
“ความรู้สึกนี้คุ้นเคยมาก เหมือนกับว่าเทียนเจี๋ยจะมาเเล้ว!” อมตะชางเหม่ยมองไปที่เยี่ยชิวด้วยความประหลาดใจ“ไอ่เด็กเปรต นายจะตู้เจี๋ยเหรอ?”
“ถ้าฉันจะตู้เจี๋ย ฉันจะอยู่ที่นี่ไหม?”เยี่ยชิวกล่าวว่า“รีบใส่เสื้อผ้าไว้ พวกเราลองออกไปดู ถ้าสามารถพบปรมาจารย์ผู้ฝึกเป็นเซียนองค์หนึ่ง งั้นก็สนุกแล้ว”
อมตะชางเหม่ยรีบใส่เสื้อไว้ดีๆ
ในขณะที่ทั้งสองเตรียมตัวจะออกไป หู่จือตื่นแล้ว
“อาจารย์ พวกคุณจะไปไหน?”หู่จือถาม
“กลางคืนนอนไม่หลับ ฉันกับไอ้แก่ไม่ออกไปดูด้วยกัน”ในใยเยี่ยชิวเกิดความคิดใหม่ พูดว่า“นายไปกับพวกฉันเถอะ พานายเปิดโลกกว้าง”
หู่จือรีบลงไปจากบนเตียง ตามอยู่หลังทั้งสอง
ทั้งสามคนออกมาจากบ้านของเล่าเซี่ยงอย่างเงียบๆ แต่ไม่คาดคิด เพิ่งออกจากบ้าน ข้างนอกก็มีลมแรงพัดขึ้นมา ตามด้วยฟ้าผ่าและเสียงฟ้าร้อง และฝนก็ตกลงมาดัง
อมตะชางเหม่ยหยิบยันต์กันนํ้าออกมาแผ่นหนึ่ง ยื่นให้หู่จือ“บีบให้แตก”
หู่จือบีบให้แตก
ในชั่วพริบตา มีแสงสีน้ําเงินจางๆหนึ่งชั้นห่อหุ้มร่างกายของหู่จือไว้ แม้ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทะลุผ่านแสงสีน้ําเงินได้
ใบหน้าของหู่จือเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยหยิบยันต์กันนํ้าออกมาตามลําดับ บีบแตกแล้ว ทั้งสามคนก็เดินท่ามกลางสายฝน
ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงหน้าป่าบนภูเขาแห่งหนึ่ง
เพราะว่าอมตะชางเหม่ยและเยี่ยชิวสัมผัสได้ว่า ความกดดันนั้นมาจากส่วนลึกของป่าภูเขา นั่นหมายความว่า คนที่ตู้เจี๋ยอยู่ในป่าภูเขา
“หู่จือ ป่าบนภูเขานี้คุ้นเคยไหม?”อมนะชางเหม่ยถาม
หู่จือพยักหน้า
“นายมานําทาง พวกเราลองเข้าไปดูกัน”อมตะชางเหม่ยกล่าว
พูดมาก็แปลก หู่จือเข้าไปในภูเขาป่า ก้าวเท้าเดินเหมือนบิน
ต้องรู้ว่า ตอนนี้ดึกแล้ว ในภูเขาป่ามืดมากๆ แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อหู่จือเลย
เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยแลกเปลี่ยนสายตาอย่างเงียบๆ ทั้งคู่ก็ประหลาดใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...