“เย่ว์เอ้อร์ รอฉันแปปนึงนะ”
เยี่ยชิวพูดจบก็เดินตรงไปที่ดอกชื่อหลิงกู่
“คุณจะทำอะไร?”นางฟ้าไป๋ฮวาคว้ามือขอเยี่ยชิวไว้ พร้อมกับพูดว่า:“คุณจะเด็ดดอกชื่อหลิงกู่หรอ?”
“ใช่”เยี่ยชิวพยักหน้า
“มันมีพิษร้ายนะ” นางฟ้าไป๋ฮวากล่าว
“ฉันรู้” เยี่ยชิวไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แม้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นดอกชื่อหลิงกู่ก็ตาม เขาก็ไม่กลัว
เขาคิดว่า ในเมื่อดอกชื่อหลิงกู่สามารถวางยาพิษแก่บาทหลวงขั้นหยวนอิงได้นั้น เขาจะพลาดมันไปได้อย่างไร?
“ระวังนะ”นางฟ้าไป่ฮวาพูดขึ้นอย่างคงกังวล
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นไรหรอก” หลังจากที่เยี่ยชิวจบ เขาก็เดินไปหาซื่อหลิงกู่และในมือของเขาก็ถือกิ่งไม้ไว้
วินาทีต่อมา เยี่ยชิวพบว่ามือขวาของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม ซึ่งเป็นสัญญาณของพิษ
“พิษมันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
สีของเยี่ยชิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เพียงครู่หนึ่ง มือขวาของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
เยี่ยชิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดึงดอกซื่อหลิงกู่ทั้งหมดออกมาแล้วใส่ลงในถุงเฉียงคุน
“คนของนิกายหยินหยาง คุณควรอยู่ห่างจากฉัน ไม่งั้นฉันจะวางยาพิษคุณจนตาย”
เยี่ยชิวคิดกับตัวเอง
นางฟ้าไป่ฮวาเห็นว่าเยี่ยชิวไม่ถูกพิษของดอกซื่อหลินกู่ ความกังวลของเธอหายไปและมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ
“ว่าแต่ แล้วลู่หลัวกับนักบวชลัทธิเต๋าคนนั้นอยู่ที่ไหนล่ะ ทำไมฉันไม่เห็นพวกเขาเลยล่ะ?” นางฟ้าไป๋ฮวาถามเกี่ยวกับลู่หลัวและอมตะชางเหม่ย
“ฉันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?” เยี่ยชิวพูดตัดจบอย่างสั้นๆ
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ นางฟ้าไป๋ฮวาก็พูดด้วยความประหลาดใจว่า:“ฉันไม่คิดว่าที่นี้จะเป็นสุสานของนักบุญจริงๆ”
“ฉันเคยได้ยินท่านอาจารย์พูดว่าสุสานของนักบุญนั้นอันตรายมาก”
“เยี่ยชิว เราต้องตามหาลู่หลัวและนักบวชลัทธิเต๋าโดยเร็วนะ ก่อนที่จะเกิดเหตุอันตรายขึ้น”
เยี่ยชิวตอบกลับว่า:“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เรารีบออกจากที่นี้กันเถอะ จะได้ออกตามหาลู่หลัวกับอมตะชางเหม่ย”
พูดจบเยี่ยชิวก็จับมือกันและเดินไปข้างหน้า
ในขณะที่เดิน
ทันใดนั้น ภาพตรงหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป อยู่ๆมีหุบเขาปรากฏขึ้น
เยี่ยชิวและนางฟ้าไป๋ฮวาหยุดที่หน้าหุบเขา เมื่อพวกเขามองขึ้นไป พวกเขาเห็นธารน้ำแข็งสูงตระหง่านทั้งสองด้านของหุบเขา ทอดยาวอย่างไม่มีที่สิ้นสุดราวกับดาบวิเศษ ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า
ส่วนด้านในของหุบเขานั้นเต็มไปด้วยชั้นหมอกสีดำราวกับว่าเป็นหมึกหนาที่ไม่สามารถละลายได้ ทำให้เกิดบรรยากาศที่น่าขนลุกและแปลกประหลาด
“หมอกดำนี้มีพิษไม่ใช่?” นางฟ้าไป่ฮวากล่าวขึ้น
“พวกมันไม่มีพิษ” เยี่ยชิวตอบกลับอย่างมั่นใจ เขาเป็นปราชญ์ทางการแพทย์และเชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยา นอกจากนี้ ร่างกายของเขาคงกระพันต่อพิษทุกชนิด หากหมอกดำเป็นพิษ เขาจะสังเกตเห็นมันทันที
หลังจากนั้นทันทีเยี่ยชิวก็ลืมตาขึ้น
ทันใดนั้น เขาก็ค้นพบว่าหมอกสีดำในหุบเขานั้นสร้างขึ้นจากพลังแห่งความตาย
“ทำไมมีพลังแห่งความตายมากมายขนาดนี้?”
เยี่ยชิวตกตะลึง เห็นว่ามีคนจำนวนมากเสียชีวิตในหุบเขานี้
เยี่ยชิวยังต้องการเห็นสิ่งที่อยู่ภายในหุบเขา แต่เขาไม่คาดคิดว่าพลังแห่งความตายจะแข็งแกร่งมากจน ดวงตาสวรรค์ของเขาก็ไม่สามารถมองทะลุผ่านได้
“มีอะไรผิดปกติหรอ?” นางฟ้าไป่ฮวาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเยี่ยชิวที่ผิดปกติไป
“หุบเขาแห่งนี้อันตรายมาก ดูเหมือนว่าเราจะต้องอ้อมแล้วล่ะ” เยี่ยชิวไม่ต้องการเสี่ยง ท้ายที่สุด นี่คือสุสานของนักบุญ พลังยุทธ์ของพวกเขาอ่อนแอเกินไป และพวกเขาอาจจะต้องตายที่นี้ก็เป็นได้ หากพวกเขาระวังไม่มากพอ
นางฟ้าไป๋ฮวตระหนักได้ว่าหุบเขาแห่งนี้คือที่ไหน และเนื่องจากเธอมอบทั้งร่างกายและจิตใจให้กับเยี่ยชิวแล้ว เธอจึงฟังทุกอย่างที่เยี่ยชิวพูด และเธอก็พูดว่า :“ได้ ฉันเชื่อคุณ”
ทั้งสองจับมือกันกำลังจะหันหลังกลับ ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องดังมาจากหุบเขา:“อ้าาาาา...”
ทันใดนั้น เยี่ยชิวและนางฟ้าไป๋ฮวาก็หยุดเท้าลงและทั้งคู่มองเข้าไปในหุบเขา
“ดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงของนักบวชลัทธิเต๋าที่มากับคุณนะเมื่อกี้ ฉันได้ยินถูกหรือเปล่า?” นางฟ้าไป๋ฮวาพูดขึ้น
“คุณได้ยินถูกต้องแล้วล่ะ มันเป็นเสียงของตาเฒ่านั้น” ในขณะที่เยี่ยชิวพูดอยู่นั้น ใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...
51 หายไปไหน...