ห่าเอ๊ย!
เฉินเทียนมิ่งพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง
เขาคิดไม่ถึงว่าฉีเทียนจะเป็นขี้แพ้ และยังหน้าไม่อายอีก
“ฉีเทียน เจ้าเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์อู่จี๋เทียนจุน มันช่างน่าผิดหวังจริงๆ ยังไงซะข้าส่งเจ้าไปยมโลกดีกว่า......”
เฉินเทียนมิ่งยกดาบขึ้นและเตรียมที่จะสังหารฉีเทียน
“ช้าก่อน !” ฉีเทียนรีบพูดขึ้น
“เจ้าต้องการทำอะไรอีก?” เฉินเทียนมิ่งขมวดคิ้ว
ชีเทียนกล่าวว่า: "เฉินเทียนมิ่ง ขอพูดอย่างตรงไปตรงมา ตอนนี้ข้าได้สูญเสียพลังการต่อสู้ไปแล้ว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ... "
เฉินเทียนมิ่งไม่รอให้ฉีเทียนพูดจบก็พูดขึ้นมาว่า: "ถึงเจ้าไม่สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี"
จะดูถูกกันเกินไปแล้ว ให้ตายเถอะ !
ฉีเทียนโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา แล้วพูดต่อ : "ข้าไม่อยากตาย หากว่าเจ้ายอมปล่อยข้าไป ไม่ว่าเรื่องอะไรข้าจะทำทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการ"
“เจ้าพูดจริงงั้นหรือ?” เฉินเทียนมิ่งไม่อยากเชื่อ
“จริงแท้แน่นอน ” ฉีเทียนกล่าว : “ข้าสาบาน”
“เอาล่ะ งั้นเจ้าเรียนแบบสุนัขร้องให้ข้าฟังสามทีสิ ” เฉินเทียนมิ่งพูด
ฉีเทียนสีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที เขาพูดว่า "เฉินเทียนมิ่ง เจ้าอย่ารังแกกันมากเกินไป"
เฉินเทียนมิ่งสีหน้าเต็มไปด้วยความหยิงยโส : " ข้าชอบที่จะรังแกคนอย่างนี้ แล้วเจ้าจะทำอะไรได้?"
ฉีเทียนสีหน้าแดงก่ำ : "หากเจ้าจะทำแบบนี้อีก ข้าก็จะ ....... โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!"
เฉินเทียนมิ่งตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า .....”
เฉินเทียนมิ่งไม่เคยฝัน จะมีวันที่บุตรเทพคนแรกแห่งสำนักหยินหยาง จะทำเห่าเหมือนสุขัขอยู่ต่อเขา?
มันสะใจมากจริงๆ !
"ไอ้คนสารเลว" อมตะชางเหม่ยแอบด่าอยู่เงียบๆ: "หากว่าอู่จี๋เทียนจุนมาเห็นสภาพฉีเทียนในตอนนี้ เขาคงอยากจะสับฉีเทียน ออกเป็นชิ้นๆ"
“ไม่เคยคาดคิดว่าอัจฉริยะที่หายากมานานหลายพันปีของสำนักหยินหยาง เพื่อเอาชีวิตรอดแล้วเขาถึงกับยอมเห่าเหมือนสุนัข”
“แม่งเอ๊ย ช่างน่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด”
“ฉีเทียนทำแบบนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวเองต้องอับอายเท่านั้น แต่ยังทำให้อู่จี๋เทียนจุนและสำนักหยินหยางต้องอับอายไปด้วย”
เยี่ยชิวส่ายหัวแล้วพูดว่า : “ผู้เฒ่า เจ้าคิดผิดแล้ว”
อมตะชางเหม่ยตกตะลึง : “ข้าผิดตรงไหน?”
“เจ้าประเมิณฉีเทียนต่ำเกินไป” เยี่ยชิวกล่าวว่า: “ถ้าหากว่าฉีเทียนเป็นคนอ่อนแอจริง ๆ เขาคงไม่เผชิญหน้าต่อสู้กับเฉินเทียนมิ่งตั้งแต่แรกหรอก และยิ่งต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับเฉินเทียนมิ่งเช่นนี้ ”
“ ถ้าหากว่าเขาเป็นคนรักตัวกลัวตาย อู่จี๋เทียนจุนคงไม่ยอมรับเขาเป็นลูกศิษย์สายตรงของเขาแน่ และเขายังได้รับการแต่งตั้งเป็นบุตรคนแรกของสำนักหยินหยางด้วย”
“ฉีเทียนคนผู้นี้ ไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีพลังยุทธ์สูงเท่านั้น แต่ยังมีความคิดที่ลึกซึ้งยากที่จะคาดเดาได้อีกด้วย”
“ข้าเดา ที่เขาทำแบบนี้ เขาต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ ๆ ”
อมตะชางเหม่ยกล่าวด้วยความประหลาดใจ: "เจ้าเด็กบ้า เจ้าไม่คิดเหรอว่าในเวลาเช่นนี้ ฉีเทียนจะยังสู้กลับได้อีกเหรอ?"
“เจ้าดูเขาสิ บาดแผลเต็มตัว ใบหน้าซีดเซียว ลมหายใจโรยริน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะต่อสู้กลับเลย แม้แต่จะหนีเอาชีวิตยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“เขาต้องตายแน่ ๆ”
เยี่ยชิวกล่าวว่า : “"อัจฉริยะส่วนใหญ่เป็นคนเย่อหยิ่ง ฉีเทียนยินยอมให้เฉินเทียนมิ่งทำให้อับอายเช่นนี้ เขาต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่นอน”
“ลูกผู้ชายยืดได้หดได้ ”
“ฉีเทียนเขาสมเป็นอัจริยะจริง ๆ !”
อมตะชางเหม่ยหัวเราะเยาะ: "อัจริยะอะไรกัน ข้าว่าเขาก็เป็นแค่ไอ้คนขี้ขลาดเท่านั้น"
เยี่ยชิวไม่อยากสนใจอมตะชางเหม่ย เขาคิดในใจว่าฉีเทียนมีแผ่นอะไรกันแน่?
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของเยี่ยชิว และดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่หัวของมังกร
“สิ่งที่ฉีเทียนต้องการก็คือไข่มุกเลือดนั้น”
“ไข่มุกเลือดนั้นไม่เพียงแต่บรรจุมรดกจักรพรรดิมังกรไว้เท่านั้น แต่ยังมีแก่นแท้เลือดบริสุทธิ์ของราชามังกรอีกด้วย”
“เมื่อกลืนมันลงไป พละกำลังของฉีเทียนก็จะฟื้นคืนกลับมาทันที”
“ก็ไม่รู้ว่าเฉินเทียนมิ่งจะรู้ตัวหรือเปล่า?”
เยี่ยชิวมองไปที่เฉินเทียนมิ่ง เห็นว่าพลังงานสังหารของเฉินเทียนมิ่งลดลงเล็กน้อย
“ไม่ได้การล่ะ เจ้าเด็กบ้านั้นโดนฉีเทียนหลอกให้ชะล่าใจเสียแล้ว” เยี่ยชิวแอบถอนหายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...
ช่วงนี้ทุกเรื่องทำไมมีแค่ห้าบรรทัด อ่านไม่รู้เรื่องเลย..ถ้าแอด..มีเวลารบกวนตรวจสอบให้ด้วยนะครับ..ขอร้อง...
สงสัยค่ะ สงสัยๆๆ เยี่ยวชิวจากนายแพทย์ฝึกหัดมาเป็นนักสู้ได้ยังไง...
ผู้หญิงคือเลวเลยอะ...