วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2100

ในความว่างเปล่า

สีหน้าของเซียวฉงโหลวและเหล่านักปราชญ์หลายคนต่างก็เปลี่ยนไป

ด้วยระดับพลังของพวกเขา ย่อมมองออกได้ทันทีว่า คางคกทองคำนั้นเพิ่งจะโตเต็มวัยเมื่อไม่นานนี้เอง

โดยทั่วไปแล้วเทพอสูรที่โตเต็มวัยจะมีพลังต่อสู้เทียบเคียงกับนักปราชญ์ได้ แต่คางคกทองคำตัวนี้กลับมีพลังต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวถึงขั้นเอาชนะนักบุญใหญ่ได้อย่างง่ายดาย

แทบจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ

หากไม่ได้เห็นกับตา ใครจะกล้าเชื่อ?

แม้แต่อู่จี๋เทียนจุนก็ยังรู้สึกสนใจอยู่ไม่น้อย จึงเอ่ยถามเฉินเป่ยโต่วว่า "คางคกทองคำตัวนี้มีที่มาอย่างไร?"

เฉินเป่ยโต่วตอบด้วยความเคารพว่า “เมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน คนของตระกูลเฉินของข้าพบมันในพื้นที่หนองบึงแห่งหนึ่ง”

"ตอนนั้นคางคกทองคำนี้เพิ่งจะเกิดได้ไม่นาน แต่หนังหนาเนื้อแข็งทนทานต่อการโจมตีมาก แถมยังเชี่ยวชาญพื้นที่บริเวณหนองบึงนั้นเป็นอย่างดี ทำให้เหล่าผู้ฝึกตนขั้นหยวนอิงสูงหลายคนทำอะไรมันไม่ได้เลย”

“ถึงขนาดที่บางคนได้รับบาดเจ็บเพราะพยายามจับคางคกทองคำตัวนี้”

“เมื่อจนปัญญา ในที่สุด พวกเขาจึงต้องส่งข่าวนี้กลับมายังตระกูล”

“เมื่อข้าได้ข่าว ก็รีบเดินทางไปยังหนองบึงทันที ตั้งใจจะจับเทพอสูรตนนี้ให้ได้”

“แต่ใครจะไปคิดว่า เมื่อมันถูกข้าจับได้แล้ว มันกลับไม่ยอมแพ้โดยง่าย แถมยังปากร้ายอย่างที่สุด ด่าข้าและบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของข้าไม่ขาดปาก…”

“ข้าโมโหมาก เลยลงโทษมันอย่างหนัก จนท้ายที่สุดคิดจะฆ่ามันทิ้ง”

“ใครจะไปคิดว่า ตอนที่ข้ากำลังจะฆ่ามัน หยุนซานกลับปรากฏตัวขึ้นและยืนกรานจะขอชีวิตของคางคกทองคำไว้ สุดท้ายถึงขนาดยอมแลกด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์หลายชิ้น”

“ข้าเองก็คิดว่า สักวันหนึ่งถ้ามันเติบโตขึ้น คางคกทองคำนี่คงจะกลับมาแก้แค้นข้า ดังนั้น ข้าจึงคิดวางแผนเอาไว้”

“ตอนที่ส่งมอบคางคกทองคำให้กับหยุนซาน ข้าได้ปล่อยพลังแห่งดาบทิ้งไว้ในร่างมัน เพื่อทำลายเส้นลมปราณของมัน ให้กลายเป็นอัมพาต ทั้งยังคาดการณ์ได้ว่ามันคงไม่รอดเกินครึ่งปี”

เฉินเป่ยโต่วมองไปยังคางคกทองคำในค่ายกลสงครามจักรพรรดิพร้อมกล่าวว่า “หลังจากนั้นข้าก็ไม่เคยเห็นมันอีก คิดว่ามันคงตายไปนานแล้ว แต่ใครจะไปคาดคิดว่า หยุนซานกลับช่วยชีวิตมันเอาไว้”

“ไม่เพียงช่วยชีวิตมันเอาไว้ แต่ยังเลี้ยงดูจนเติบโตเต็มวัยอีกด้วย”

เฉินเป่ยโต่วเอ่ยด้วยความเสียใจอย่างมากว่า “พลาดอย่างร้ายแรงนัก รู้แบบนี้ข้าคงลงมือฆ่ามันให้สิ้นซากเสียตั้งแต่แรก”

ในเวลาเดียวกัน ในใจของเฉินเป่ยโต่วรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ที่หยุนซานไม่ได้สั่งให้คางคกทองคำเล่นงานเขา ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รอดแน่นอน

เมื่อเฉินเป่ยโต่วพูดจบ เซียวฉงโหลวก็กล่าวเสียงเย็นชาว่า “ตอนแรกเจ้ายังบอกว่าเจ้าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมันมิใช่หรือ?”

“ข้า...” เฉินเป่ยโต่วเงยหน้าขึ้น พบว่าเซียวฉงโหลวกำลังจ้องมองเขาอย่างเย็นชา

เซียวฉงโหลวไม่ออมคำด่าและเอ่ยว่า “ถ้าเจ้าจัดการฆ่ามันไปเสียตั้งแต่แรก จะเกิดขึ้นเรื่องพวกนี้ขึ้นเหรอ? เจ้านี่มันไร้ประโยชน์!”

เจ้านั่นแหละที่ไร้ประโยชน์

เฉินเป่ยโต่วก้มศีรษะลง พลางบ่นด่าในใจ

เซียวฉงโหลวกังวลว่า ผู้อาวุโสระดับนักบุญใหญ่ของเขาอาจพลาดท่า จึงกล่าวขึ้นว่า “เทียนจุน ข้าเกรงว่าคนของข้าอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น ข้าว่าน่าจะเรียกเขากลับมาก่อนดีกว่า!”

"ไม่ได้!” เฟิงว่านหลี่ยังพูดแทรกขึ้นก่อนที่อู่จี๋เทียนจุนจะทันตอบ “ผู้แข็งแกร่งระดับนักบุญใหญ่ที่เกรงกลัวคางคกเพียงตัวเดียว ไม่เพียงทำให้สำนักปู่เทียนเสื่อมเสียเกียรติ แม้แต่พวกเราก็จะอับอายไปด้วย”

“พี่เฟิงพูดถูกต้อง” ปราชญ์หวงกู่พูดเสริมขึ้น “แค่คางคกตัวเดียว ต่อให้มีฝีมือบ้าง จะสำคัญอะไร?”

ปราชญ์ฮุ่นตุ้นก็กล่าวตาม “ใช่แล้ว ต่อให้เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่ย่อมไม่อาจเก่งกาจเท่ามนุษย์อยู่ดี ท่านปราชญ์ไท่เชิงเห็นว่าอย่างไรบ้าง?”

ปราชญ์ไท่เชิงที่ถูกถามนั้น ดูเหมือนกำลังใจลอย

เพราะเหตุการณ์ที่เยี่ยอู๋ซวงเข้าสู่พื้นที่เทพไท่ชูเพียงลำพัง เรื่องนี้ทำให้เขาเป็นกังวลอย่างยิ่ง เขาได้ส่งข่าวถึงหลี่ชางชิง จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีการตอบกลับมา

"ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไร? ชางชิงจะกลับไปทันหรือไม่? หรือเยี่ยหวู่ซวงถูกสังหารไปแล้วหรือยัง?”

ปราชญ์ฮุ่นตุ้นเห็นปราชญ์ไท่เชิงเงียบไป จึงยกข้อศอกสะกิดพร้อมพูดขึ้นว่า “ปราชญ์ไท่เชิง ท่านคิดอะไรอยู่?”

ปราชญ์ไท่เชิงได้สติกลับมาและรีบพูดว่า “ไม่ได้คิดอะไรหรอก ท่านมีอะไรหรือ?”

ปราชญ์ฮุ่นตุ้นกล่าวว่า "ท่านผู้นำเซียวบอกว่าอยากจะเรียกตัวผู้อาวุโสท่านนั้นกลับมา ท่านคิดว่าอย่างไร?"

ปราชญ์ไท่เชิงตอบทันที "แน่นอนว่าไม่ควรเรียกกลับมา คางคกตัวหนึ่งจะดิ้นรนไปได้นานสักแค่ไหน?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ